“ตกลงใช้วิธีไหน เลือกได้ยัง”
“วางยาถ่าย” ผิงผิงตอบกวนๆ ก่อนเดินทางมาที่นี่เธอต้องจัดการกับนักร้องคนสวย หุ่นดี เสียงใส จัดการด้วยยาถ่ายขนานแรง ยายผิงผิงตัวจริงป่านนี้คงถ่ายจนตัวซีดแล้ว
“ไม่ตายเหรอนั่น” วิลเลี่ยมหน้าไทยถามเพื่อนคู่หู ในภารกิจสำคัญ ในการสกัดกั้นหน่วยก่อการร้ายที่ระบุว่า เป็นกลุ่มค้าอาวุธร้ายแรงจากรัสเซีย
“คางเหลือง” หญิงสาวตอบเบาๆ สีหน้าตานิ่งเฉย ราวกับพูดเรื่องเครื่องดื่มเย็นๆ สักแก้วเท่านั้น โดยไม่หันไปมองเพื่อนคู่หู
“งั้นเอางี้แยกย้าย หัวหน้างานฉันมาแล้ว ติดต่อกันทางเอียร์โฟน” วิลเลี่ยมหันไปเจอหัวหน้างานที่เดินมาพอดี เขาจึงไหวตัวบอกผิงผิงพร้อมหมุนปลายเท้าเดินออกจากที่ลับตา ใช้เป็นที่ทั้งคู่ยืนคุยกัน
“ทราบแล้วเปลี่ยน เอ่อ...ว่าแต่พบเป้าหมายหรือยัง” ผิงผิงรับทราบเพราะเธอก็ต้องขึ้นร้องเพลง ขับกล่อมแขกที่มาร่วมงานเปิดตัวเส้นทางการเรือใหม่ของ ‘ซุปเปอร์มูน’ เช่นกันดีนะเรียนภาษาจีนและหัดร้องเพลงจีนก่อนหน้านั้นร่วมเดือนหลังจากได้รับทราบภารกิจ ผิงผิง (ตัวปลอม) จึงถูกส่งไปเรียนร้องเพลงจีนจนขึ้นใจ แต่ที่แม่นๆ คงมีไม่กี่เพลง
“ยัง...ยังไม่มีใครส่อพิรุธ” วิลเลี่ยมตอบ พร้อมกับก้าวจากไปเงียบๆ
“งั้นหาต่อไป ฉันจะดูอยู่บนเวทีตอนขึ้นแสดง คิดว่าคงเห็นอะไรบ้าง” อยู่บนเวทีมองเห็นได้ดีกว่าด้านล่าง
“จำชื่อตัวเองให้ขึ้นใจก่อนเถอะ ภารกิจนี้เธอชื่อผิงผิงนะจำให้ดี” เขาช่วยเตือนความจำผิงผิง อย่าได้ส่อพิรุธในการทำงานเด็ดขาดเพราะงานนี้สำคัญมาก ถ้าเขากับคู่หูสกัดกั้นพวกค้าอาวุธ ที่ฉวยโอกาสใช้เรือสำราญอลังการลำนี้จะปล่อยให้มันส่งของไม่ได้เด็ดขาด โลกได้พังพินาศแน่
“กำลังพยายามอยู่” ผิงผิง เหอะ...ยัยสองผิงหญิงสาวคิดในใจก่อนเดินไปเตรียมตัว เพื่อขึ้นร้องเพลงที่ได้เตรียมมาหวังว่า ผู้ฟังจะไม่ขอเพลงอื่นที่เธอไม่ได้เตรียมมาหรอกนะ ถ้าขอ...ล่ะ คนสวยคิดหนักแน่งานนี้ เธอคิดในใจอย่างสนุกและคงต้องหาทางออกไปพร้อมกัน
พิธีกรก้าวขึ้นเวทีพร้อมกับคว้าไมโครโฟน ประกาศถึงเวลาเปิดตัวเส้นทางการเดินเรือเส้นทางใหม่ จากนั้นจึงกล่าวเชิญผู้บริหารสูงสุดของบริษัท ซีทรานหวัง
“ขอเชิญคุณสตีฟ หวัง ขึ้นมากล่าวบนเวทีด้วยครับ” พิธีกรเชิญเล่ยฟาน หวัง พร้อมกับผายมือไปทางชายหนุ่ม ผู้โดดเด่นที่สุดในงาน และเป็นพระเอกของงานที่มีสาวรายล้อมในค่ำคืนนี้
ขณะผิงผิงยืนทำสมาธิพร้อมกับฟังพิธีกรร่ายอยู่บนเวที เธอขยับจากพื้นที่หลบมุมเล็กน้อย เพื่อจะได้มองเห็นเวทีอยากยลโฉมตัวเป็นๆ ของผู้ชายที่มีเสียงลือเลื่องเล่าอ้างหนาหนู อยู่ด้านหลังเวทีจนเธอแสบหูไปหมด กับบรรดาสาวๆ ที่ต่างอยากถูกชายผู้ชื่อสตีฟ หวังเลือกไปเป็นคู่
เล่ยฟาน กล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งแนะนำ เส้นทางการเดินเรือเส้นทางใหม่ สำหรับเรือลำใหม่เอี่ยม ซุปเปอร์มูนลำนี้ เรือลำนี้คือหนึ่งในเรือ 20 ลำของกิจการ ซีทรานหวัง รองรับผู้โดยสาร 2,800 คน ลูกเรือ 1,330 คน ดังนั้นการร่องเรือแต่ละเที่ยว จะมีผู้คนสี่พันกว่าชีวิต บนเรือสำราญลำนี้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน
กิจกรรมบนเรือลำนี้ มีให้ทำหลายอย่าง จุใจ ด้านความบันเทิงในการแสดง โรงภาพยนต์ ดนตรี คาราโอเกะ หรือผับ คาเฟ่ ฟลอร์เต้นรำ ด้านกีฬาบนเรือยังมีสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน ห้องยิม สนามไดรฟ์กอล์ฟ สนามบาสเก็ตบอล โต๊ะปิงปอง ห้องสันทนาการต่างๆ อ่างอาบน้ำวนจากุซชี่ ซาวน่า ห้องนวดสปา สวนน้ำสำหรับเด็ก ห้องคอมพิวเตอร์เล่นเกม ห้องเนอสเซอร์รี่
ไม่เพียงแต่ความบันเทิงครบวงจรราวกับอยู่บนบก ยังมีศูนย์การแพทย์ ร้านค้าปลอดภาษี ร้านถ่ายรูป ร้านเสริมสวย ร้านหนังสือ ร้านอาหารนานาชาติ
เจ้าพ่อวงการขนส่งทางน้ำและทางทะเลผู้ยิ่งใหญ่กล่าวจบพร้อมทิ้งสายตาเจ้าเสน่ห์ให้กับแขกเหรื่อโดยเฉพาะสตรี ให้ได้ใจสั่นแล้วจึงคืนไมโครโฟนให้กับพิธีกร จากนั้นเสียงปรบมือต่างดังกึกก้อง บิดาและมารดาของเล่ยฟานยิ้มอย่างภาคภูมิใจในตัวบุตรชายสุดสวาท เขาก้าวลงจากเวทีแล้วเดินไปย่อกายตรงหน้าบิดาและมารดา ทำความเคารพท่านแล้วจึงขยับไปนั่งที่ของตนบนเก้าอี้ขามังกรอันพิเศษไม่ต่างจากบุพการีทั้งสอง
“คราวนี้ถึงช่วงเวลาสำคัญแล้วนะครับคุณเล่ยฟาน” พิธีกรกล่าวพร้อมกับเรียกชื่อชายหนุ่ม “เวลาแห่งการชมสาวงามทั้งยี่สิบท่าน พร้อมกับคั่นเวลาด้วยการฟังเพลงจากนักร้องสาวผิงผิงแห่ง ควีน ออฟ สตาร์ ที่จะมาขับกล่อมแขกผู้มีเกียรติทุกท่านในค่ำคืนนี้
“ผิงผิงงั้นเหรอ” เล่ยฟานเปรยแต่ก็คล้ายกับถามบอดี้การ์ดที่อยู่ด้านหลัง เขาคงไม่ถามลีออนหรอกเพราะถ้าถามคนนั้นคงไม่ได้รับคำตอบ หมอนั่นติดกาวที่ปากงดการพูด วันๆคงน้ำลายบูดจนเหนียวเพราะมไยอมพูด
“ครับผิงผิงเป็นนักร้องจากควีน ออฟ สตาร์ ที่เราติดต่อไป” เทียนลู่บอกคล้ายกับรู้ใจเจ้านายว่าต้องการคำตอบในคำเปรยขึ้นมาเมื่อกี้
“ยังไม่ได้ถามก็รู้ใจนะอาเทียน” เขาเย้าบอดี้การ์ดผู้รู้ใจ ปกติเล่ยฟานไม่ได้สนใจรายละเอียดตรงนั้น ไม่ว่าพนักงานในบริษัท จะจัดการจ้างใครมาย่อมไม่มีปัญหา หากดีเลิศไม่ทำให้ขายหน้าเจ้าของงานย่อมผ่านฉลุย สำหรับเขาทุกอย่างต้องจัดว่าดีเยี่ยมเสมอ
“ครับ” เทียนลู่ตอบสั้นๆ แล้วมองขึ้นไปบนเวทีที่เสียงดนตรีจากเครื่องเสียงเริ่มคลอ เพื่อเปิดทางให้สาวงามถูกเชิญตัวเข้าร่วมการดูตัวเลือกคู่ของเจ้าชายรูปหล่อแห่งซีทราน หวัง ได้ยลโฉมและเลือกคนที่เขาพึงพอใจที่สุดไปเดินเคียงข้าง ในฐานะภรรยาออกหน้าออกตาและผลิตลูกเพื่อให้สมกับความต้องการของประมุขแห่งสกุลหวัง
สาวงามหมายเลขหนึ่งปรากฏกายในชุดราตรียาวสายสปาเก็ตตี้สีฟ้าเข้ากับบรรยากาศแห่งท้องทะเล หล่อนโปรยยิ้มหวาพราวพร่างนัยน์ตามากเสน่ห์ไปยังเล่ยฟานที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ไม่ว่าสาวคนในที่ถูกเชิญมาในงานนี้ ย่อมจัดเต็มทุกรูปแบบทั้งสิ้น สาวงามรูปร่างดีหน้าดี ค่อยๆทยอยเดินออกมาทีละคนในรอบแรกจนครบสิบคน เลยฟานมองทุกคนด้วยสายตาพินิจ หากแต่ยังไม่สะดุดสาวคนไหนสักคน หรือเพราะว่าพวกหล่อนสวยเหมือนกันในแบบหมอคนเดียวกัน เขาจึงไม่สะดุดในจุดต่างๆ ที่แต่ละคนพยายามแสดงออก ทั้งทิ้งสายตา โปรยยิ้มหวาน แสดงท่าทีร่าเริง กรีดกรายอย่างงดงาม เขามองแล้วก็เท่านั้น รู้สึกอยากกลับบ้านนอนด้วยซ้ำ
“ในรอบแรกสาวงามออกมาให้ยลโฉมครบทั้งสิบคนแล้วคุณสตีฟ พึงใจสาวนางไหนเป็นพิเศษบ้างหรือเปล่าครับ” พิธีกรเอ่ยถามผ่านไมโครโฟน
“ว่าไงครับเจ้านาย” เทียนลู่เอ่ยถามขึ้นบ้างเมื่อเห็นว่าผู้เป็นนายยังคงนิ่ง ไม่แสดงท่าทีตื่นเต้นใดๆ เลย
“ก็เฉยๆ ไม่เห็นแตกต่าง”
“โห...ผมว่าแต่ละคนสวยๆ ทั้งนั้นเลยนะครับ เจ้านายไม่ต้องใช้วิจารณญาณแบบกองประกวดนางงามขนาดนั้นก็ได้ครับ”
“ฉันใช้ความรู้สึก ไม่ใช่การตัดสินแบบนางงาม” ทำไงได้กรรมการยังไม่หมายใจใคร ย่อมยังไม่ตัดสินสายตาคมกริบมังกรสกุลหวังยังคงจับจ้องบนเวที ขณะเสียงดนตรีขับกล่อมเริ่มเปลี่ยนเป็นเพลงจีนท่วงทำนองที่เคยฟัง แสงสีบนเวทีสลัว กลายเป็นแสงสีแบบในผับบาร์ ยามราตรีสว่างวาบขึ้นมาแทนที่
“เชิญรับฟังเพลงเพราะๆจากผิงผิง นักร้องเสียงกังวานสะท้านทรวง ได้ ณ บัดนี้ครับ” พิธีกรประกาศ พร้อมทั้งสาวงามผู้มาจากตระกูลดัง คหบดีผู้มั่งคั่งและสาวสังคมชั้นสูงหลายเมืองในเกาะฮ่องกง ค่อยๆ ทยอยเดินกลับเข้าไปหลังเวที เพื่อจะได้กลับออกมายืนให้เล่ยฟานเลือกอีกรอบหลังจากครบทั้งยี่สิบคนแล้ว
“ไง...อาเล่ยไม่ถูกใจลูกสาวผู้ดีคนไหนบ้างเลยหรือ” บิดาของเขาเอ่ยถาม
“ขอดูให้ครบทั้งหมดก่อนครับป๋า”
“แม่คัดมาอย่างดีเลยนะลูก” โม่ยเหยียนผู้เป็นมารดากล่าว พร้อมทั้งยิ้มละไมกับบุตรชาย สาวงามเหล่านี้ถูกคัดสรรจากรูปถ่ายและประวัติในเบื้องต้นผ่านบริษัทจัดหาคู่ จากนั้นจึงถูกเชิญตัวมาเพื่อทำความรู้จักกับตนรวมไปถึงประวัติทางครอบครัวในเบื้องต้นของแต่ละนาง โม่ยเหยียนใช้เวลาเลือกสาวงามเพื่อการดูตัวของบุตรชายอยู่หลายวัน กว่าจะได้ทั้งยี่สิบคนแล้วสั่งจัดการดูตัวแบบพิเศษ โดยใช้วันเปิดตัวเส้นทางเป็นการจัดงานพร้อมกัน
ขณะเดียวกันบนเวทีที่สามารถเรียกเสียงฮือฮา จากเสียงเพลงเก่าแก่แต่ยังคงอมตะ ดังแว่วผู้คนให้ความสนใจบนเวที เป็นจุดเดียว เพราะเสียงหวานนั้นช่างไพเราะอย่างมาก เล่ยฟานอยากเห็นเจ้าของเสียงร้องเพลงเถียนมีมี่ ชายหนุ่มถึงยุติการสนทนาพรึงเพลิดไปกับเสียงหวานๆ โดยนักร้องเจ้าของเสียงยังไม่ปรากฏกาย