บทที่9
ต้องตัดสินใจ
"สวัสดีค่ะคุณองศาขอบคุณที่มานะคะ" เสียงของโยเกิร์ตบ่งบอกว่าเธอกำลังเศร้าเสียใจสงสารจึงรับไว้ขอให้ลูกน้องส่งพวงหรีดให้กับภูริ
"เสียใจด้วยนะ" พูดจบเขาก็เดินไปนั่งยังโต๊ะประธานตลอดระยะเวลาที่พระสวดเขาคอยมองโยเกิร์ตตลอดเวลาเธอมีเพื่อนที่เป็นเด็กเสิร์ฟในร้านคอยดูแลส่วนเชฟที่ออกมาปกป้องเธอนั้นคอยจัดการดูแลแขกให้
"ไอ้นัทไอ้เวรนั่นมันเป็นอะไรกับโยเกิร์ต"
"ผมจะรู้ไหมล่ะผมก็นั่งอยู่กับคุณองศาอยากรู้ก็ไปถามสิ"
"ไอ้นัทมึงเป็นลูกน้องกูนะ"
"ก็ใช่ไง มันใช่เวลาที่นายจะมาถามผมตอนนี้หรือเปล่าพระกำลังสวดอยู่อยากตกนรกไง!"
-__-!
"ดูแล้วชาตินี้คงไม่ได้ขึ้นสวรรค์-_-"
-__-!
กว่าพระจะสวดจบก็ประมาณสองทุ่ม องศารอให้แขกกลับก่อนเขาถึงให้คนไปเรียกโยเกิร์ตมาคุยเขานำเงินจำนวน 100,000 บาทให้เธอเอาไว้ใช้จ่ายแม้เธอจะไม่อยากรับเงินก้อนนี้แต่ภูริเห็นด้วยยังไงเธอก็ต้องตั้งตัวเสียใหม่ในเมื่อเขาให้ด้วยความเต็มใจก็ควรจะรับเอาไว้
"พี่ภูแน่ใจเหรอคะว่าถ้ารับเงินจากคุณองศามันจะไม่น่าเกลียด"
"คุณองศาเขานำเงินก้อนนี้มาทำบุญกับป้าโบตั๋นอย่าคิดมากเลย"
"แฟนเธอพูดถูกฉันให้เงินก้อนนี้ไว้ทำทุนถ้าเธอจะกลับมาเปิดร้านอาหารหรือทำกิจการต่อจากแม่ของเธอยังไงเธอก็ต้องใช้เงินเสร็จจากงานศพหักหนี้สินจะเหลือเท่าไหร่เชียว"
"ก็ได้ค่ะ"
หลังจากที่โยเกิร์ตรับเงินก้อนนั้นมาแล้วองศาก็มองหน้าภูริเรากับจ้องจับผิดสรุปแล้วผู้ชายคนนี้เป็นเพียงพ่อครัวเป็นเพื่อนร่วมงานหรือว่าเป็นแฟนหนุ่มของเธอกันแน่
งานศพดำเนินมาถึงช่วงวาระสุดท้ายหลังจากเผาส่งดวงวิญญาณป้าโบตั๋นโยเกิร์ตก็กลับมาอยู่กับความทุกข์ในใจเธอยังไม่มีแรงที่จะสานต่ออะไรทั้งนั้นคงดีและปุยนุ่นช่วยกันแบ่งเงินเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ จนเหลือเงินรวมเงินประกันเพียงหนึ่งล้านแต่ก็ยังไม่สามารถปิดหนี้ขององศาได้
"ตอนนี้ป้าโบตั๋นใช้หนี้ไปห้าแสนแล้วแต่เงินในส่วนนี้มีแค่ล้านเดียวสงสัยแกจะต้องเปิดร้านต่อไปแล้วล่ะโบตั๋น" ปุยนุ่นรับเงินใหม่อีกครั้งแต่ถึงได้รับอีกสักร้อยครั้งเงินมันก็ไม่งอกขึ้นมา
"ไหวไหมโย"
"ตอนนี้โยไม่ไหวค่ะ โยไม่เก่งเหมือนแม่โยอยากปลดหนี้ของคุณองศาโยไม่ต้องการอะไรอีกแล้วโยอยากไปจากที่นี่โยจะทำยังไงดีครับพี่ภู"
"ค่อยๆ คิดครับโยตอนนี้พี่รู้ว่าโยยังไม่พร้อมที่จะทำอะไรหยุดพักไปก่อนก็ได้"
โยเกิร์ตยอมเชื่อฟังคำแนะนำของภูริเธอพักทุกอย่างแล้วกลับมาดูตัวเอง สายตาของเธอมองไปรอบๆ สถานที่ที่เป็นทั้งความสุขและความทุกข์จนกระทั่งมะปรางเพื่อนรักของเธอเข้ามาหาเธอก็สวมกอดเพื่อนพร้อมร้องไห้โฮ
"ทำไมแกไม่โทรบอกฉันเรื่องแม่ ฉันจะได้รีบบินกลับมาช่วยแก"
"ฉันเห็นแกไปเที่ยวกับครอบครัวเลยไม่อยากให้แกมาเครียดกับฉัน"
"เราเป็นเพื่อนกันนะเว้ย แล้วนี่แกจะทำยังไงต่อไปแม่ก็ไม่อยู่แล้วแกจะเปิดซ่องต่อจากแม่แกไหม"
"ถ้ายังต้องใช้หนี้ฉันก็คงต้องทำแต่ถ้าอยากหมดหนี้ไวๆ ก็มีทางเดียวคือฉันต้องประมูลตัวเอง"
"แกจะบ้าหรือไงโย!"
"แล้วแกจะให้ฉันมาเปิดซ่องอยู่แบบนี้อีกกี่ปี 5 ปี 10 ปีเมื่อไหร่มันจะหมดหนี้หมดสินสักทีคนมันไม่ได้มาเที่ยวมาใช้ชีวิตอู้ฟู่เหมือนเมื่อก่อนแล้วยิ่งมีคนตายในร้านฉัน ลูกค้าในวันนั้นก็พากันหนีหายหมด"
นี่คงเป็นหนทางเดียวที่โยเกิร์ตจะปลดหนี้ขององศาแล้วไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เธอเชื่อว่าความบริสุทธิ์ของเธอฉันจะทำให้เธอได้ออกไปใช้ชีวิตอิสระไม่ต้องจมปลักอยู่ในวงจรสกปรกนี้
เพียงแค่ภูริรู้เรื่องเขาก็ระเบิดลงตู้มเขาไม่ยินยอมและไม่ยอมให้เธอทำแบบนั้นจนเธอและเขาเกือบมีปากเสียงใส่กันมะปรางยืนกอดอกส่ายหน้าเหมือนคนเบื่อเรื่องนี้เต็มทน
"ถ้างั้นพี่ภูจะทำยังไงคะจะให้เพื่อนของมะปรางเปิดซ่องอยู่แบบนี้ต้องจ่ายเงินเดือนให้พี่เต็มเดือนโดยที่ยังไม่รู้เลยว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการหรือเปล่าอีกอย่างสาวๆ ที่เคยอยู่ที่นี่ก็ย้ายไปทำกับคุณองศาหมดแล้ว"
"แต่มันก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีทำไมเราต้องลดศักดิ์ศรีไม่ทำเรื่องแบบนั้นด้วยโย"
"แล้วพี่ภูจะให้โยทำยังไงคะไปไหนก็ไม่ได้ต้องอยู่ทำงานต่อให้เราเปิดแค่ร้านอาหารมันไม่มีใครเข้ามากินหรอกค่ะเปิดซ่องจะเอาผู้หญิงที่ไหนมาดึงดูดคน"
"พี่จะไปทำงานเดี๋ยวพี่จะช่วยโยอีกแรง"
"พูดง่ายดีนะคะ เงินเดือนเชฟยังไม่พอจ่ายหนี้คุณองศาเลยค่ะมะปรางไม่ได้ดูถูกนะก็มะปรางก็ไม่ได้อยากให้เพื่อนทำงานแบบนั้นด้วยถ้ามะปรางมีเงินมากพอมะปรางจะปิดหนี้ให้เพื่อนเลยค่ะ"
"พอแล้วมะปราง"
"แกก็รู้ว่าพี่ฉันรักแกมากแค่ไหนพี่ฉันก็อยากจะช่วยฉันเองก็อยากจะช่วยแกแต่เธอลองคิดใหม่นะอย่าทำแบบนั้นเลย"
"พี่ภูโยขอบคุณในความหวังดีของพี่นะคะแต่โยมีความจำเป็นที่ต้องทำแบบนี้จริงๆ พี่ภูเข้าใจโยเถอะนะ"
"โย.... "
"ถ้าเกิดโยปิดหนี้ได้มันจะเป็นแค่ครั้งเดียวค่ะพี่ภู อีกอย่างคนที่จะเข้าประมูลได้ต้องเป็นสมาชิก VIP เท่านั้น"
"ไม่ว่าจะเป็นทางไหนพี่ก็เจ็บอยู่ดี โยสัญญาได้ไหมเสร็จงานนี้โยต้องแต่งงานกับพี่เท่านั้น"
---------------------------
พี่ภูก็แสนดีเวอร์อะ น่ารักสุดๆเลย รักน้องแบบไม่มีข้อแม้ ฮือออ