ตอนที่ 7

978 คำ
อรินลดาตอบอย่างไร้เดียงสาหากทว่าอัยย์ญาดากลับตระหนกต่อคำพูดแสนซื่อนั้น เธอนิ่งนึกแต่พยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกว่าลูกสาวได้เจอกับ คนคนนั้น ตอนไหน แต่ตอนนี้สำคัญเหนืออื่นใดคือเธอเริ่มเกิดความหวั่นกลัวแต่รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติและหันไปพูดกับป้าเฟื่องฟ้าว่า “ถ้าอย่างนั้นหนูขอลากลับก่อนนะคะ” “จ้ะ...แล้วถ้าเกิดว่ามีธุระปะปังจะไปไหนก็เอาน้องเอ๋ยมาฝากไว้กับป้าก่อนก็ได้นะจ๊ะ” หญิงสาวยกมือไหว้อีกครั้งก่อนจูงมือลูกสาวตัวน้อยแล้วเดินลิ่วกลับบ้านด้วยความเร่งรีบจนเด็กหญิงต้องยกมือเกาหัวแล้วถามว่า “แม่จ๋า...แม่จ๋าเดินช้าๆ...น้องเอ๋ยเดินไม่ทัน” “ถ้าอย่างนั้นแม่จ๋าอุ้มน้องเอ๋ยก็แล้วกันนะ” อัยย์ญาดาช้อนร่างน้อยขึ้นอุ้มแล้วเดินกลับบ้านด้วยอาการลุกลี้ลุกลนแต่อรินลดาอ่อนเดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจความรู้สึกของแม่ว่าตอนนี้หัวใจดวงนั้นทั้งหวาดหวั่นแต่ตื่นตกใจมากแค่ไหน ทุกอย่างเหมือนวงกลม วุ่นวนและทำให้เธอสับสนจนแทบควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ถ้าเป็น เขา จริง ๆ แล้วเขาจะนึกเอะใจหรือไม่ ถ้าไม่รู้ก็แล้วไปแต่ถ้าเกิดเขารู้ขึ้นมาจะเกิดอะไรต่อไปในเมื่อเธอไม่อาจหยั่งเห็นความคิดของใครคนนั้นซึ่งบัดนี้แตกต่างไปจากคนคนเก่าที่เธอเคยรู้จักลิบลับยิ่งกว่าฟ้ากับเหว หญิงสาวน้ำตาคลอหน่วยขณะเดินเข้าบ้านซึ่งเป็นทาวเฮาส์ชั้นเดียวที่ครอบครัวย้ายมาอยู่ได้เกือบสามปี เมื่อปิดประตูลงกลอน มันทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาได้เล็กน้อยโดยไม่รู้เลยว่ากำลังกลัวอะไรอยู่กันแน่ “น้องเอ๋ย...บอกแม่จ๋าหน่อยได้ไหมคะว่าน้องเอ๋ยเจอ...เอ้อ...คนที่น้องเอ๋ยเรียกป๋าโอม...ที่ไหน” อัยย์ญาดาตั้งคำถามเมื่อพาลูกน้อยเข้าไปในห้องและจับอรินลดานั่งบนตัก กอดลูกไว้ด้วยความรักสุดหัวใจ ทำอย่างกับว่ากลัวเลือดเนื้อของเธอจะลอยหายไปเสียตอนนี้ อรินลดากอดคอมารดาไว้และตอบด้วยเสียงใส “น้องเอ๋ยเจอป๋าโอม...ตอนแม่จ๋าเข้าไปในห้องนั้น” “ค่ะ...โอเค...แล้วเขาพูดอะไรกับน้องเอ๋ยบ้าง” หนูน้อยทำท่าคิดก่อนตอบ “เขาถามว่าแม่จ๋าไปไหน น้องเอ๋ยบอกว่า แม่จ๋าเข้าไปในห้องนั้น” “ค่ะ...แล้วเขาพูดอะไรอีกไหม” “เขาบอกว่าน้องเอ๋ยอย่าซน” “เหรอคะ...เขาพูดอะไรอีกไหม” “เขาบอกว่า...เขาชื่อโอม...น้องเอ๋ยเลยบอกว่า ชื่อเหมือนป๊ะป๋าของน้องเอ๋ย” “แม่จ๋าได้ยินน้องเอ๋ยเรียกเขาว่า ป๋าโอม” “เขาให้น้องเอ๋ยเรียกป๋าโอมค่ะแม่จ๋า” “ลูกแม่” อัยย์ญาดาเผลอกอดลูกรักไว้แนบอกโดยเด็กหญิงไม่รู้เลยว่ามารดาน้ำตาหยดลงบนแก้ม หญิงสาวรู้สึกราวกับหัวใจดวงนั้นลอยหายและแทบกลั้นสะอื้นไม่อยู่หากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นหน้าบ้านเสียก่อนพร้อมกันกับที่อรินลดาพูดขึ้นว่า “แม่จ๋า...ใครมา?” หญิงสาวรีบปาดน้ำตากลัวลูกสาวจะเห็น เธอยกหนูน้อยลงจากตักให้นั่งบนเตียง “เดี๋ยวแม่จ๋าออกไปดูก่อนนะคะว่าใครมา” ร่างเล็กบอบบางลุกขึ้นและเดินกลับออกไปที่ห้องรับแขก เธอไม่ได้ยินเสียงเคาะซ้ำแต่ก็รีบเปิดประตูเพราะคิดว่าอาจเป็นป้าเฟื่องฟ้าเอาของมาให้ทว่าเมื่อบานประตูเปิดออกทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักตาเบิกกว้าง “ชาครินทร์!”   อัยย์ญาดาผงะนิ่งเมื่อสิ่งที่ไม่คาดฝันและไม่คาดหวังให้เกิดขึ้นอุบัติตรงหน้า ไม่ใช่ป้าเฟื่องฟ้าแต่กลับเป็นร่างสูงใหญ่ของบุรุษนัยน์ตาสีสนิมเหล็กเข้มยืนค้ำร่างเล็กที่สูงแค่บ่าของเขา และเมื่อเห็นหญิงสาวชาครินทร์จึงเลิกมุมปากขึ้นคล้ายยินดีต่อความสำเร็จของตัวเองแต่สำหรับอัยย์ญาดามันคือการถากถางเย้ยเยาะมากกว่าเป็นอย่างอื่น เธอเกือบหลุดปากเรียกเขาดังที่เคยเรียกแต่กลืนเก็บมันเข้าไปในอกได้ทันและเพียงถามทั้งที่มือเย็นเฉียบเริ่มสั่นว่า “คุณชาครินทร์...คุณมาที่นี่ได้ยังไง” “ผมแค่อยากรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน ก็เลยตามมา” ชายหนุ่มตอบเสียงราบเรียบทว่ากลับมองข้ามไหล่หญิงสาวเข้าไปด้านในซึ่งเป็นห้องรับแขกและกวาดสายตาไปทั่วเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง “คุณอยู่ที่นี่หรือ?” “เอ้อ...ค่ะ” “อยู่คนเดียวหรือ?” “ค่ะ” “เวลาตอบทำไมไม่มองตาผม” “ฉันอยู่กับแม่ค่ะ แต่ตอนนี้แม่ไม่สบายอยู่ที่โรงพยาบาล” “ใจคอจะให้ผมยืนตรงนี้ ไม่คิดจะเชิญให้ผมเข้าไปในบ้านคุณเลยหรือไง” “แม่จ๋า...ใครมา” เสียงเล็ก ๆ ที่ดังแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังอัยย์ญาดาขณะเธอกำลังจะอ้าปากพูดทำให้ทั้งสองตั้องชะงัก ร่างเล็กบอบบางหันกลับไปทำให้ชาครินทร์เห็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ยืนจ้องมองมาทางเขาชัดเจน ชายหนุ่มชะงักนิ่งและหนูน้อยก็จ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจแต่คนที่ต้องตระหนกมากกว่าใครเพื่อนคืออัยย์ญาดา หัวใจของเธอราวกับหลุดหายไปในวินาทีนั้น วินาทีที่ลูกสาวเรียกบุรุษแปลกหน้าว่า “ป๋าโอม!” อรินลดาวิ่งปรี่เข้ามาหยุดข้างมารดาและเขย่ามือเรียวบางพลบางพูดด้วยเสียงใสแจ๋วว่า “แม่จ๋า...นี่ไงป๋าโอม...ที่น้องเอ๋ยเล่าให้แม่จ๋าฟัง”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม