‘วันหยุด ไม่น่าเผลอไปตั้งนาฬิกาปลุกเลย’
แต่ตอนนี้ท้องดันปวด เมื่อคืนดื่มไปเยอะ ท้องน้อยบวมจนอยากจะฉี่ มนัสยาต้องพยุงหัว พยุงตัวและพาตนเองลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำให้ได้
“เข็ด เข็ด เข็ดจนตาย ไม่ขอดื่มอีกแล้ว” เธอเอ่ยออกมา
ผลัวะ... พลันประตูห้องถูกเปิดเข้ามา มนัสยาไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่หัวที่หนักอึ้งทำให้เธอต้องล้มตัวลงไปนอนนิ่ง สายตาหรี่มองดูร่างกายของใครบางคนที่ก้าวย่างเข้ามาหา ที่ไม่ใช่คนคุ้นตา แต่ก็คลับคล้ายคลับคลาว่าเคยรู้จักกันแล้ว
“ใครน่ะ ยายฟ้าเหรอ แล้วแว่นตา แว่นตาของฉันอยู่ไหน” เมื่อคืนเธอใส่คอนแทกต์เลนส์ แล้วก็คงเอาออก ก่อนจะนอนไม่ได้สติแล้ว
“อ้อ... เดี๋ยวนี้มัสใส่แว่นแล้วเหรอ”
‘เสียงคุ้นมาก เหมือนเคยได้ยินที่ไหน แต่มันไม่ใช่สิ นี่มันห้องของฉัน’ เธอพยายามสะบัดหัว และเปิดตากว้างให้เต็มที่
เขาเดินมาใกล้ แล้วหยิบแว่นตาให้ จากนั้นเขาก็นำแว่นตามาสวมให้กับมนัสยาที่กำลังนอนอยู่บนเตียง
เธอกะพริบตาถี่ แล้วเพ่งดู ตอนนี้เธอเห็นใบหน้าของเขาชัดเจนแล้ว หญิงสาวถึงกับกรีดร้องด้วยความตกใจ กระเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนที่จะทำท่าหงายหลังตกเตียงไป
ชายหนุ่มรีบคว้าเอาไว้ได้ทัน พร้อมกับใช้มืออีกข้างปิดปากของมนัสยาเอาไว้
“ตกใจอะไรกันนักหนาคุณ”
“ไม่ตกใจได้ไง คุณมาอยู่ในห้องของฉัน”
มนัสยาทำตาโตเท่าไข่ห่าน
“แล้วกันสิคุณ ผมแค่จะมาช่วยคุณเท่านั้น คุณร้องหาแว่นตา ผมก็แค่หยิบให้ และสวมให้ ทำไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยฮึ”
“แล้วคุณเป็นใคร เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” ยังถามคำถามเดิม ความทรงจำที่เต็มไปด้วยฤทธิ์ของสุรายังไม่กลับคืนมาร้อยเปอร์เซ็นต์
ชายหนุ่มทำสีหน้าปั้นยาก เขาลุกขึ้นยืน แล้วจ้องมองหน้า เธอยังคงอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่า ผู้ชายคนนี้อยู่ในห้องเธอ ท่อนล่างมีแต่กางเกงบอกเซอร์ และท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า มัดกล้ามทั้งแผงอก แผงหน้าท้องแน่นหนั่นสวยสมบูรณ์แถมหน้าตาไทยแท้ จมูกเป็นสันรับกับใบหน้ารูปวงรี หล่อคมเสมือนหนุ่มจากหนังไทยกระโจนออกมา
“อะไรของคุณ จำไม่ได้สักนิดเลยหรือครับ”
“ไม่” พูดด้วย ส่ายหน้าไปด้วย อาการที่เมาค้างเหมือนจะหายไปด้วย จะไม่หายไปได้อย่างไร ตกใจแทบสิ้นสติ ผู้ชายแปลกหน้ามาอยู่ในห้องนอน
และเอาจริง ๆ ไม่เคยมีผู้ชายคนไหน นอกจากธาราที่ได้เข้ามาในห้องนี้
“อื้อ” เขาลูบคาง เพราะจะหาคำตอบอะไรดีมาคุยกับเธอ
“นึก ๆ หน่อยสิคุณที่ผับ เพื่อนของคุณที่ชื่อปลายฟ้า แล้วก็คุณถูกทิ้ง คุณนั่งดื่มคนเดียว จนร้านปิด จำได้ไหม”
“...” หญิงสาวทำท่านึก
“อ้า... เพื่อนคุณจ้างผมมาดูแลคุณไง หมดหน้าตัก สามแสน จำได้หรือยัง” เขาพยายามช่วยให้เธอนึก
มนัสยาตกตะลึง
‘เรื่องที่ปลายฟ้าพูดเล่น ๆ หยอกเย้า ยายนี่เอาจริงหรือ’ ใบหน้าของหญิงสาวหดเหลือสองนิ้ว
เพลงเลือดกรุ๊ปบีก็ลอยเข้ามาในหัว โดยเป็นเสียงของน้องมุ้ยเป็นคนร้อง หลงคีย์ แต่ตรงจังหวะ
‘ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน ไม่เข้าใจเลยสักครั้ง ไอ้ที่เขาทำฉันนั้นก็ทำ แต่ทำและไม่เคยสมหวัง หรืออาจเป็นเพราะพื้นดวงหรือเปล่า หรือเป็นที่ราศีของดวงดาว เลยทำให้ฉันต้องเหงาอย่างนี้อยู่ใช่ไหม ก็แค่ต้องการให้ใคร มาคอยช่วยดูแลความเหงา หรือเป็นเพราะเราเกิดมาในเดือนประจำคนโสดอยู่ใช่ไหม หรือเป็นเพราะเลือดกรุ๊ปบีหรือเปล่า ต้องเปลี่ยนเบอร์โทรสักทีรึเปล่า ขอแค่ให้ฉันมีคนมารักหน่อยได้ไหม ไม่โสดอีกแล้วได้เปล่า’
มิหนำซ้ำมนัสยาไม่รู้ตัวเลยสักนิด ในตอนนั้นความทรงจำทั้งหมดก็กลับมา เธอพูดอะไรกับเขาไปเยอะแยะ จำไม่ได้ทั้งหมด แต่จำได้ในตอนสุดท้ายว่า
‘นอนกับฉันได้ไหม ทำให้ฉันครางได้ทั้งคืนได้หรือเปล่า’ แล้วดึงโน้มใบหน้าของเขา แล้วเธอก็เป็นฝ่ายเริ่มต้นจูบเขาเอง
“อ้าย!” มนัสยายกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตา ทำให้คนที่ยืนมองอยู่หัวเราะขึ้นมาเบา ๆ หญิงสาวรับรู้แต่เพียงว่า หัวใจเต้นแรง และใบหน้าของเธอร้อนออกมาผ่าว ๆ ลามมาจนถึงใบหู เธอยังคงยกมือขึ้นมาจับใบหูที่ร้อนจนต้องลูบเบา ๆ
“คุณคือผู้ชายที่ผับเมื่อคืน”
“โฮสต์” เขาบอกย้ำว่าตนเองเป็นใคร
มนัสยาแทบลมจับ อยากจะหงายหลังตึงลงไปนอนบนที่นอน ทว่าร่างของเธอกลับรูดลงไปพื้น และนอนเลื้อยเป็นงู
ชายหนุ่มเห็นอย่างนั้นก็ตกใจ
“คุณเป็นอะไร แล้วทำไมทำแบบนั้น”
มนัสยายังคงเขย่าแข้งเขย่าขา และดีดดิ้นไปมา ในใจก็ยังคงคิด
‘แล้วเมื่อคืนฉันเสียตัวให้กับผู้ชายคนนี้หรือเปล่า’ คิดได้อย่างนั้นก็เอามือลูบเนื้อตัว สำรวจตัวเองไปทั่ว
‘ฮือ... ยายฟ้า ถ้าฉันเจอหน้าแก ฉันจะหักคอแก’ คิดถึงแต่ใบหน้าของเพื่อนที่เล่นพิเรนทร์กับเธอ
“นี่คุณมัส คุณรีบขึ้นมานั่งบนเตียงเถอะครับ ตรงที่พื้นมันเย็นนะ แล้วเนื้อตัวเปลือยแบบนั้นมันจะเป็นหวัดเอาได้”
“หา!” เสียงอุทานดัง แม้มือตัวเองจะลูบไล้อยู่ เธอก็ยังไม่ได้สติว่าตัวเองเปล่าเปลือย หัวของมนัสยารีบผงกขึ้นและมองดูตัวเอง ทั้งตัวเปลือยเปล่าเหลือกางเกงในตัวเดียวเท่านั้น ดีที่มีผ้าขนหนูที่เขาห่อพันตัวเอาไว้ตกมาอยู่ข้าง ๆ
“ว้าย!” เธอหวีดร้องขึ้นมาอีกครั้ง รีบคว้าเอาผ้าขนหนูนั้นมาห่อกายา
“ถอยออกไปนะ” ใจเต้นกระหน่ำหนัก เขาคงจะเห็นอะไรของเธอไปถึงไหน ๆ
“นี่ ๆ จะมามัวอายอะไรกัน ผมเห็นหมดจนทะลุปรุโปร่งแล้ว และคุณคิดว่าใครเป็นคนถอดเสื้อผ้าของคุณ แล้วเช็ดล้างอ้วกที่เลอะไปทั้งตัวแบบนั้น”
มนัสยาจำอะไรไม่ได้เลย
“นี่อย่าเสียเวลาเลยครับ จะว่าไปแม้ของของคุณจะสวยมาก แต่ก็อย่างว่าแหละ คือผมเห็นจนเบื่อแล้ว”
“คุณทำไมไม่ปิดตา แล้วใครใช้ให้คุณมองร่างกายของฉัน”
“อ้า... ไม่มีใครใช้ แต่ต้องใช้บัตรเสือก ไม่อย่างนั้น คุณจะนอนจมกองอ้วก” เขาทำสีหน้าเหม็น ๆ และปิดจมูกด้วย
“แล้วไม่รีบหรือครับ อย่าลืมสิครับว่าวันนี้ วันอาทิตย์”
“วันอาทิตย์ แล้วไง วันหยุดของฉันนี่นา ฮึ... ฉันไม่สนหรอกนะ รู้แต่ว่าตอนนี้คุณน่ะหมดหน้าที่แล้ว คุณต้องออกไปจากห้องฉันตอนนี้เลย ไป ๆ” มนัสยาออกปากไล่