พันธนาการรักข้ามกาลเวลา EP.01 การมาของน้องสาวคนใหม่ (1)
คฤหาสน์ตระกูลหวัง, ฮ่องกง
‘กานต์’ หรือ ‘ศศิกานต์ นนทศักดิ์’ บุตรสาวเพียงคนเดียวของปีเตอร์ หวัง เจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ชื่อดังแห่งฮ่องกงกับคุณศศิประภา นนทศักดิ์ ภรรยาชาวไทย และยังเป็นภรรยาคนที่สามของเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ เดินมาหยุดอยู่กลางห้องโถงภายในคฤหาสน์หรูราคาหลายร้อยล้านด้วยสีหน้าเย็นชา จับจ้องชายสูงวัยที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยสายตานิ่งเฉย
เธอรู้มานานแล้วว่าบิดาของเธอเป็นใคร และยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่สำหรับเธอมันไม่มีความหมายเลยแม้แต่นิดเดียว อาจเพราะสิ่งที่ท่านกระทำต่อผู้ให้กำเนิดของเธอก็เป็นไปได้ แม้หนุ่มใหญ่ผู้นี้จะเป็นบิดาผู้ให้กำเนิด
แต่สำหรับเธอ ชายสูงวัยที่นั่งอยู่ตรงนี้ก็คือคนแปลกหน้า ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยเจอหน้าท่านสักครั้ง แล้วจู่ๆ เธอก็ถูกส่งให้มาอยู่ที่ฮ่องกงกับท่าน หรือเป็นเพราะมารดาของเธอเพิ่งจะเสียไปเมื่อสองเดือนก่อน ชายคนนี้จึงจำเป็นที่จะต้องรับเธอมาดูแล
ปีเตอร์ หวัง นั่งพิจารณาบุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านที่เกิดจากภรรยาชาวไทยอย่างเอ็นดู ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ท่านไม่เคยรู้เลยว่าตนเองมีลูกกับสาวไทยผู้นั้น จนกระทั่งเมื่อครึ่งปีก่อน ศศิประภาซึ่งเป็นภรรยาคนที่สามโทรศัพท์มาหาแล้วบอกว่าคงอยู่ได้อีกไม่นาน หากนางเสียชีวิตไปก็ขอให้ท่านช่วยดูแลศศิกานต์ บุตรสาวเพียงคนเดียวของท่านที่เกิดกับนางด้วย
“นี่นะหรือคะบุตรสาวของศศิประภา”
คุณนายใหญ่แห่งตระกูลหวังเอ่ยถามสามีด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ในขณะที่สายตายังคงจับจ้องพิจารณาบุตรสาวคนเดียวของสามีกับศศิประภา อดีตสาวใช้ของนาง ยี่สิบปีที่นางไม่ได้เจอสาวใช้ต้นห้อง นับตั้งแต่ศศิประภาตัดสินใจลาออกแล้วขอกลับไปอยู่เมืองไทย นางก็ไม่ได้เจออดีตสาวใช้อีกเลย มาเจออีกทีก็เมื่อห้าปีก่อน
ตอนที่นางเดินทางไปเที่ยวเมืองไทย จึงได้รู้ว่าศศิประภามีลูกกับปีเตอร์ หวัง สามีของนาง ทว่าครั้งนั้นนางเจอแต่ศศิประภาอดีตสาวใช้ต้นห้อง ไม่ได้เจอเด็กสาวคนนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตมันเป็นความผิดของนางที่ปล่อยให้สามีข่มเหงศศิประภา หากนางรู้สักนิดตอนที่หญิงสาวตั้งครรภ์ นางจะไม่ยอมให้สาวใช้ต้นห้องผู้นี้ลาออกแล้วเดินทางกลับเมืองไทยแน่นอน
‘ไม่นึกเลยว่าหน้าตาจะเหมือนกันขนาดนี้ เหมือนกันจนเกินไป’
“ใช่”
“สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า”
ศศิกานต์ยกมือไหว้ปีเตอร์ หวัง กับมาดามหวังอย่างนอบน้อม ให้เธอเรียกชายผู้นี้ว่าบิดามันก็ดูจะยากไปเสียหน่อย หลายปีที่ผ่านมาเธอคิดเสมอว่าบิดาผู้ให้กำเนิดจะต้องเป็นคนดีและมีศีลธรรมกว่านี้ เป็นแค่คนธรรมดา ไม่ใช่เจ้าพ่อมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ของฮ่องกง แต่ความเป็นจริงมันกลับตรงกันข้ามกับที่เธอคิด บิดาของเธอคือเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ ซ้ำร้ายธุรกิจที่ท่านทำเธอก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิดกฎหมายกันแน่
“ทำไมเรียกพ่อแบบนั้นล่ะเหม่ยเยวี่ย”
ปีเตอร์ หวัง ถามบุตรสาวอย่างเสียใจ ไม่นึกเลยว่าจะได้ยินบุตรสาวเรียกชื่อตนเสียห่างเหินเช่นนี้ ทั้งๆ ที่ท่านเป็นบิดาผู้ให้กำเนิดแท้ๆ
“นั่นสิหนูเหม่ยเยวี่ย ทำไมถึงเรียกคุณพ่อว่าลุงล่ะจ๊ะ”
มาดามหวังถามอย่างแปลกใจ ดูท่าความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับบุตรสาวคนนี้คงต้องใช้เวลาสักหน่อย นางจึงไม่แปลกใจเลยสักนิดกับท่าทีเย็นชาและเมินเฉยของเด็กสาว ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้างกายของเด็กสาวก็มีแต่มารดาเท่านั้น จู่ๆ มารู้ว่าตนยังมีบิดาอยู่ก็ต้องต่อต้านเป็นธรรมดา อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างสามีกับมารดาของเด็กสาวคนนี้ก็ไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด เห็นทีสามีนางคงต้องพยายามอย่างหนักกับความสัมพันธ์ในครั้งนี้
“หนูไม่ชินนะคะมาดามหวัง”
“ต่อไปอย่าเรียกแม่แบบนั้นอีกนะหนูเหม่ยเยวี่ย ฉันก็เป็นแม่คนหนึ่งของหนูเหมือนกันนะ”
“เอ่อ...ค่ะ”
ศศิกานต์รับคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอไม่อยากเรียกชายหญิงสูงวัยทั้งสองนี้ว่าบิดามารดาเลย แต่ดูว่าถ้าเธอยังขืนดื้อดึงคงได้เกิดปัญหายุ่งยากตามมาแน่ๆ
ยิ่งเห็นสายตาเจ็บปวดของชายผู้ให้กำเนิด หัวใจของเธอก็อ่อนยวบ อยากจะโกรธ อยากจะเกลียดแต่ใจก็ทำไม่ได้
“มานั่งตรงนี้ดีกว่า ยืนอยู่แบบนั้นเมื่อยแย่เลย”
มาดามหวังพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น สายตาจับจ้องใบหน้าสวยหวานอย่างเอ็นดู แม้ในอดีตนางไม่สามารถดูแลและช่วยเหลืออดีตสาวใช้ต้นห้องได้ แต่นับจากนี้ไปนางจะดูแลปกป้องบุตรสาวเพียงคนเดียวของอดีตสาวใช้ให้ดีที่สุด และจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเด็ดขาด
“ขอพ่อกอดหน่อยได้มั้ยลูก”
ปีเตอร์ หวัง เอ่ยถามบุตรสาวเสียงเบาหวิว อดรู้สึกสะท้อนใจไม่ได้ ตลอดยี่สิบกว่าปีที่ผ่านมา ท่านไม่เคยมอบความรักและดูแลปกป้องบุตรสาวคนนี้เลย ทำไมตอนนั้นท่านถึงไม่ส่งลูกน้องไปสืบหาที่อยู่ของศศิประภา ไม่อย่างนั้นทั้งภรรยากับบุตรสาวคงมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้ บางทีแม่ของลูกคงไม่ต้องตายไปแบบนี้ก็ได้
ศศิกานต์ได้แต่ยืนนิ่งไม่กล้าขยับตัวเข้าไปหาผู้ให้กำเนิด จนร่างสูงใหญ่ตัดสินใจลุกขึ้นยืนแล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ สองมือยื่นออกมาดึงร่างเพรียวระหงเข้าไปกอด
“พ่อขอโทษนะเหม่ยเยวี่ย ยกโทษให้พ่อได้มั้ย จากนี้ไปพ่อสัญญาว่าจะดูแลและปกป้องลูกด้วยชีวิต ให้โอกาสพ่อสักครั้งนะลูก”
น้ำเสียงแหบพร่าสั่นสะท้าน น้ำตาคลออยู่บริเวณหางตา ‘ท่านต้องทำอย่างไรให้บุตรสาวยอมรับในตัวของท่าน’ ปีเตอร์ หวัง คิดอย่างเจ็บปวด สองแขนกอดกระชับร่างบุตรสาวอย่างหวงแหน นี่คือตัวแทนของผู้หญิงที่ท่านหลงรัก ถึงใครจะว่าท่านเลวและต่ำช้าที่ใช้กำลังข่มเหงเพื่อให้ได้ศศิประภามาครอบครองท่านก็ไม่สนใจ
ถึงแม้ลึกๆ จะรู้สึกผิดก็ตามที แต่มาพูดตอนนี้ก็คงเปล่าประโยชน์ เรื่องในอดีตท่านไม่สามารถแก้ไขได้ จากนี้ไปท่านจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้บุตรสาวจากผู้หญิงที่ท่านรักได้มีความสุข
ศศิกานต์ยืนนิ่งไม่ยอมเอ่ยอะไรออกมาสักคำ เพียงแต่แขนยกขึ้นโอบรอบเอวของผู้ให้กำเนิดเท่านั้น ใบหน้าสวยหวานแนบลงบนแผ่นอกกว้าง แม้เธอไม่พูดแต่จากการกระทำของเธอทำให้ผู้สูงวัยทั้งสองถึงกับน้ำตาคลอ พวกท่านต่างส่งยิ้มให้กัน
‘อีกไม่นานทุกอย่างต้องดีขึ้น’
//////////////////////////////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...