วันจันทร์
นักศึกษาปีหนึ่งของคณะบริหารธุรกิจนั่งรวมกันอยู่บริเวณพื้นที่ว่างใต้ตึกคณะ เพื่อรอเวลาที่จะทำการจับสลากสายรหัส จินสอดส่ายสายตามองหาว่าพี่ปริมคนสวยของเขาอยู่ที่ไหน แล้วก็หันไปเจอเธอยืนอยู่กับกลุ่มเพื่อนไม่ไกลนัก
ปริมลดาหันมาสบตากับเขาพอดี แล้วรอยยิ้มหวานก็ถูกส่งมาให้ ทันทีที่เห็นรอยยิ้มนั้น หัวใจของชายหนุ่มก็เต้นแรงขึ้น มือหนากุมเอาไว้ที่หน้าอกด้านซ้าย ด้วยเกรงว่าก้อนเนื้อที่เต้นอยู่จะกระเด็นออกมาด้านนอก
“น้อง ๆ คะ เราจะเริ่มจับสายรหัสกันแล้วนะคะ ทุกสายรหัสจะมี รุ่นน้องปีหนึ่ง พี่ปีสอง ปีสาม และปีสี่ ยกเว้นว่าสายของใครจะมีรุ่นพี่ซิ่ว หรือดรอปเรียน ก็จะมีจำนวนน้อยกว่าคนอื่น เข้าใจตรงกันนะคะ”
พี่ปีสี่คนสวยที่เป็นประธานรุ่นประกาศใส่โทรโข่งอยู่ด้านหน้าแถวที่รุ่นน้องนั่งอยู่ ทุกคนขานรับเข้าใจอย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้น ก็ลุกขึ้นยืนทีละแถวเพื่อไปจับสายรหัส
จนมาถึงแถวของจิน ยิ่งใกล้ถึงตัวเอง หัวใจที่ว่าเต้นแรงเมื่อกี้ ก็ยิ่งเต้นแรงยิ่งกว่าเก่า แน่นอนว่าเขาอยากอยู่สายรหัสเดียวกันกับปริมลดา อยากอยู่ใกล้ ๆ อยากได้เธอเป็นพี่รหัส
มือหนาที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อเพราะความตื่นเต้นล้วงเข้าไปในโถพลาสติก คน ๆ กระดาษที่อยู่ข้างในสองรอบ ก่อนที่จะล้วงหยิบขึ้นมาหนึ่งแผ่น
“ตัวแม่ สาวท็อป” เขาอ่านคำใบ้ที่อยู่ในกระดาษแผ่นนั้นเพียงเบา ๆ แล้วก็เริ่มมองหาว่าพี่รหัสคือกลุ่มไหน คณะนี้ค่อนข้างมีผู้หญิงเยอะกว่าผู้ชาย จากคำใบ้ที่ได้ หากไม่มีลูกเล่นอะไร พี่รหัสก็น่าจะเป็นผู้หญิงแน่ ๆ
จินกวาดสายตามองดูรอบ ๆ แล้วสองขาก็รีบก้าวเข้าไปกลุ่มที่ปริมลดายืนอยู่ทันที มันมีอะไรสะกิดอยู่ในใจว่าต้องเป็นกลุ่มนี้แน่ ๆ ปริมเคยเป็นดาวคณะ และดาวมหา’ลัยมาก่อน ที่รู้ ก็เพราะเขาสืบเรื่องเธอมาจนหมดแล้ว
“โอ้โห...เรามีรุ่นน้องหล่อขนาดนี้ด้วยเหรอวะ” นรีพูดขึ้นเมื่อเห็นจินเดินตรงมายังกลุ่มของพวกเธอ
“พี่ปริม นี่ใช่คำใบ้กลุ่มพี่หรือเปล่าครับ” เมื่อเดินมาถึง เขาก็ยื่นแผ่นกระดาษไปให้พี่สาวคนสวยทันที คำเรียกที่ดูสนิทกันในระดับหนึ่ง ทำให้นรีและเพื่อนคนอื่น ๆ หันมามองหน้าปริมลดาอย่างพร้อมเพรียง
“ไอ้ปริม แกรู้จักน้องมันเหรอ” นรีเอ่ยถามเพื่อนสนิททันทีด้วยความอยากรู้
“น้องชื่อจิน เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันน่ะ” เธอตอบคำถามแล้วหยิบแผ่นกระดาษมาจากมือของจิน
“ทำไมถึงคิดว่าเป็นกลุ่มพี่” ปริมเอ่ยถามแล้วเงยหน้าขึ้นมอง “รุ่นพี่ผู้หญิงในคณะก็มีตั้งเยอะ”
“สำหรับผม พี่ปริมเป็นตัวท็อปและสวยที่สุดแล้วครับ” จบคำพูดนี้ ทำเอาเพื่อน ๆ ที่ยืนอยู่หันมองหน้ากันเลิ่กลั่ก นี่ไม่เท่ากับเด็กรุ่นน้องคนนี้กำลังจีบเพื่อนของพวกเธอหรืออย่างไร ส่วนคนที่ถูกชมตรง ๆ ก็เขินจนหน้าแดงเกือบถึงติ่งหู
“อื้อหื้อ...ร้ายนะเราน่ะ” นรีเอ่ยแซว “จะจีบเพื่อนพี่หรือไง”
“ไอ้รี แกพูดอะไร เดี๋ยวน้องมันก็เขินเอาหรอก”
“เอาดี ๆ ไอ้ปริม น้องหรือแกที่เขิน หน้าแดงอย่างกับโดนแดดเผาแล้วเนี่ย”
พอได้ยินเพื่อนพูดแบบนั้น ปริมลดาก็รีบยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองทันที จะว่าไปมันก็รู้สึกร้อนผ่าว ๆ อยู่เหมือนกัน
“กลุ่มพี่เองแหละ” เธอรีบหันไปตอบจินที่ยืนอยู่ตรงหน้า อีกอย่าง ก็เพื่อจะได้เปลี่ยนเรื่องคุยด้วย
“ดีใจจังที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับพี่” ทั้งสีหน้าและท่าทางของเขานั้นล้วนแสดงออกมาแบบนั้น ว่าดีใจจริง ๆ ที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน จนทำให้เพื่อน ๆ ของปริมลดาเริ่มมองอย่างสงสัย
“สองคนนี้มีอะไรกันปะเนี่ย” นรีเริ่มถามอีกครั้ง พร้อมกับหรี่ตาลงรอฟังคำตอบ
“มีอะไรรี แค่รุ่นน้องเคยรู้จักกัน”
“ครับ ตอนนี้ผมเป็นแค่รุ่นน้องครับ” ยิ่งเขาตอบ ก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยให้เพื่อน ๆ เข้าไปอีก นี่ไม่เท่ากับกำลังบอกว่าต้องการจีบรุ่นพี่ตรงหน้าหรืออย่างไร
“พอแล้วจิน เดี๋ยวพวกนี้ก็เข้าใจผิดกันไปใหญ่ กลับไปรวมในแถวได้แล้ว” สองมือเล็กรีบผลักให้ชายหนุ่มเดินกลับไปรวมตัวกับกลุ่มนักศึกษาปีหนึ่ง ขืนอยู่นานกว่านี้มีหวังหน้าเธอคงได้แดงจนกลายเป็นดวงอาทิตย์แน่ ๆ
เมื่อรุ่นน้องปีหนึ่งสุดหล่อกลับไปรวมตัวที่เดิมแล้ว นรีก็หันกลับมามองเพื่อนสนิทตัวเองด้วยสายตาคาดคั้นต่อ
“เอาดี ๆ แกกับน้องเขาเป็นอะไรกัน”
“เป็นอะไร ก็บอกไปแล้วว่าเป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน”
“ไอ้เราก็นึกว่าทะเลาะกับไอ้แทน แล้วก็ไปได้น้องคนนี้มา”
ปริมลดารีบยกมือขึ้นส่ายปฏิเสธ พร้อมกับใบหน้าที่ส่ายไปมาเพื่อยืนยันอย่างหนักแน่น
“ไม่ได้มีอะไรจริง ๆ แก น้องมันน่าจะมีแฟนอยู่แล้ว” จากสิ่งที่เห็นมันก็น่าจะเป็นแบบนั้น
“แกรู้ได้ไงว่าน้องมีแฟน ถามมาแล้ว?”
“เปล่า แต่ก่อนเปิดเทอม ฉันเห็นน้องที่ร้านที่ฉันทำงานทุกคืนเลยแก”
พอได้ยินคำตอบ หัวคิ้วของนรีก็ยู่เข้ากันผูกเป็นปมด้วยความไม่เข้าใจยิ่งกว่าเดิม
“แกเห็นน้องที่ร้าน แล้วเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่น้องมีแฟน น้องพาแฟนไปด้วยเหรอ” เพื่อนซี้ยังคงถามต่อด้วยความสงสัย เพราะดูแล้วจินน่าจะชอบเพื่อนของเธออยู่มาก
“ก็น้องมันมาซื้อถุงยางทุกวัน แล้วแกคิดว่าผู้ชายจะซื้อไปทำอะไร เอาไปชักให้ตัวเองหรือไง”
ได้ยินคำตอบแบบนั้น นรีก็รีบถลาตัวเข้ามาประชิด ก่อนที่จะกระซิบถามเพื่อนด้วยเสียงไม่ดังมากนัก แค่พอได้ยินกันสองคน
“ไซส์อะไรวะปริม ใหญ่ปะ”
“นี่แหนะ ทะลึ่ง” ฝ่ามือตีลงบนต้นแขนของเพื่อนสาวอย่างไม่จริงจังนัก “62 ก็น่าจะอลังการเอาเรื่องอยู่”
นรีเบิกตาโตแล้วรีบเอามือปิดปากตัวเองเอาไว้ ด้วยกลัวว่าเสียงแห่งความตื่นเต้นจะหลุดลอดออกมา
“62 จริงดิ แล้ววันละสองกล่อง โห...พูดแล้วก็อยากเห็นหน้าแฟนน้องเขาเลยว่ะ”
“ยัง ๆ ยังไม่หยุดทะลึ่งอีก”
ปริมลดารีบดันหลังเพื่อนตัวเองให้มายืนรวมกลุ่มกับรุ่นเดียวกัน ตอนนี้พี่ปีสี่กำลังชี้แจงเรื่องการรับน้องอยู่ แต่สายตาก็ดันหันไปมองจินที่นั่งอยู่ในแถว ซึ่งเขาเองก็หันมาสบตาพอดี แล้วสมองเจ้ากรรมก็ดันคิดเรื่องที่นรีพูดไปเมื่อกี้ จะว่าไปก็อยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ได้ใช้ถุงยางกลิ่นสตอเบอร์รี่วันละสองกล่องคนนั้นจริง ๆ จะฟินขนาดไหนกันนะ
/////
วันต่อมา
ชายหนุ่มเจ้าของผมสีน้ำตาล ใบหน้าหล่อเหลา ความสูงปานนายแบบชื่อดัง ในมือถือดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ กำลังเดินตรงมายังกลุ่มรุ่นพี่ที่นั่งอยู่หน้าตึกคณะ
“ปริม ๆ ทางนั้น ๆ ” นรีรีบสะกิดแล้วบอกให้เพื่อนหันหน้าไปมอง
ปริมลดาหันไปตามที่เพื่อนบอก ก็เห็นจินกำลังถือดอกกุหลาบช่อโตเดินตรงมาทางเธอ เพียงไม่กี่ก้าวเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าแบบพอดิบพอดี
“พี่ปริมครับ ผมให้พี่ครับ” สองมือของเขายื่นช่อกุหลาบมาให้ ปริมได้แต่ยื่นมือออกไปรับด้วยความงุนงง ท่ามกลางสายตาของนักศึกษาทุกชั้นปีที่กำลังมองอยู่
“จินเอามาให้พี่ทำไม”
“เอามาให้นางฟ้าแห่งความโชคดีของผมครับ”
พอได้ยินคำตอบของเขา เพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้วยกันต่างก็รีบเบือนหน้าหนีเอามือปิดปากเอาไว้ ไม่รู้จะโห่หรือจะอ้วกให้กับคำพูดหวานเลี่ยนนี้ดี
“พูดอะไรพี่ไม่เห็นเข้าใจ” ปริมลดาถามออกไป ใบหน้าสวยแสดงออกชัดว่าเธอไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูดจริง ๆ
“ก็ก่อนจะจับสายรหัส ผมภาวนาอยู่ในใจให้ได้เป็นน้องรหัสของพี่ แล้วก็ได้จริง ๆ” ระหว่างที่พูด ใบหน้าคมหล่อเหลานั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้ม มันช่างดูใสซื่อและน่าเอ็นดูในสายตาของพี่สาวที่นั่งอยู่ตรงนั้น
“ผมเลยคิดว่า พี่ต้องเป็นนางฟ้าแห่งความโชคดีของผมแน่ ๆ ก็เลยเอาดอกไม้มาให้ครับ”
ทุกคำพูดที่ออกมานั้นไม่มีความเขินอายเลยสักนิด แต่เธอที่เป็นคนรับนั้นกลับอายจนไม่กล้าพูดอะไรออกมา ไม่ใช่ว่ารังเกียจ แต่แค่รู้สึกแปลก ๆ ที่มีคนมาทำแบบนี้ด้วยก็แค่นั้น โดยเฉพาะผู้ชายที่เป็นรุ่นน้อง
“จิน ไปเรียนได้แล้วไป เดี๋ยวสาย” เพื่อให้ทุกคนในบริเวณนี้เลิกสนใจที่โต๊ะของเธอ ปริมเลยบอกให้จินขึ้นไปเรียน
“ได้ครับ ถ้าพี่บอก ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย” ไม่ใช่แค่พูด แต่เด็กรุ่นน้องหน้าตาดีรีบเดินขึ้นไปเรียนจริง ๆ
“ฉันว่าน้องมันกำลังจีบแกชัวร์” ทันทีที่จินเดินไปลับสายตา นรีก็พูดขึ้น
“จะบ้าเหรอแก เจ้าหมาน้อยนั่นนะจะจีบฉัน”
“เจ้าหมาน้อย?” เพื่อนซี้ทวนคำพร้อมหรี่ตามอง “แต่ก็เหมือนนะ เหมือนหมาน้อยที่วิ่งตามเจ้าของต้อย ๆ”
ปริมลดาก้มมองช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือ รอยยิ้มบาง ๆ เผยออกมา แต่หลายวันมานี้เขาก็เป็นคนที่ทำให้เธอยิ้มได้จริง ๆ ทำให้คิดถึงเรื่องแทนไทน้อยลง
“นั่นไง ๆ ฉันว่าแกก็คิด” นรียังพูดต่อไปหยุด
“ไอ้รี หยุดพูดได้แล้ว ฉันยังคบกับแทนอยู่นะ” ถึงแม้ไม่ได้คุยกันมาหลายวันแล้ว แต่สถานะในตอนนี้คือยังไม่ได้บอกเลิก เธอจะคิดอะไรกับคนอื่นได้อย่างไร
“คบ คบกับผีน่ะสิ ไม่คุยกันกี่วันแล้ว นี่ไม่ใช่ว่ามันไปนอนกก นอนเอาอยู่กับผู้หญิงคนอื่นอยู่หรือไง” คนเป็นเพื่อนพูดไปก็โมโหแทนเธอไปด้วย
จะว่าไปมันก็จริงอย่างที่เพื่อนบอก ตั้งแต่ทะเลาะกันวันนั้น แทนไทไม่เคยคิดที่จะง้อเธอด้วยซ้ำ ป่านนี้เขาคงกำลังนอนอยู่กับผู้หญิงคนไหนสักคนที่สามารถสนองความต้องการของเขาได้ ที่เลือกมาจีบเธอในตอนแรก ก็คงหวังแค่เรื่องอย่างว่าเท่านั้นแหละ พอไม่ได้ก็เลยต้องไปหาจากที่อื่นแทน
ชีวิตดาวมหา’ลัย สาวสวยตัวท็อปของรุ่น ได้เป็นแฟนกับหนุ่มนักกีฬาสุดฮอตจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ใคร ๆ ก็คิดว่ามันน่าอิจฉา แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเบื้องหลังมันตลกสิ้นดี
///////////////////////////////////////////////////////