สายตาคมจับจ้องอยู่ที่หน้าจอแล็ปท็อปภายในห้องนอน นิ้วมือคลิกเมาส์สไลด์หน้าจอดูข้อมูลที่เพิ่งค้นหา จินต้องการรู้ว่า ในเคสที่ผู้ชายอายุน้อยกว่าผู้หญิง เป็นไปได้มากแค่ไหนที่จะคบกันยืนยาวไปตลอดชีวิต
จากข้อมูลที่เจอ ก็มีเยอะพอสมควรที่อยู่กันจนแก่เฒ่า บางคู่อายุผู้ชายน้อยกว่าผู้หญิงเป็นสิบปีก็มี ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจล้วน ๆ เมื่อเห็นแบบนั้นก็ยิ่งมั่นใจว่า หากตัวเองจีบปริมมาเป็นแฟนได้แล้ว ยังไงก็ต้องได้อยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตแน่ ๆ
จินรักเธอมาตั้งแต่ตอน มอ.ต้น รักพี่สาวคนสวยที่กล้าเข้ามาช่วยตอนที่เขาโดนเพื่อนในห้องรังแก ปริมลดาเป็นเหมือนฮีโร่ในสายตาของเขาเลยก็ว่าได้ หน้าตาสวยไม่พอ ยังจิตใจดีอีก ไม่รักก็บ้าแล้ว
สายตาเหลือบไปเห็นเวลาที่อยู่บนหน้าจอ ตอนนี้เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ทำให้จินรีบร้อนปิดแล็ปท็อปและหยิบกุญแจรถออกไปจากห้องทันที
ในทุก ๆ คืน เขาจะไปหาปริมลดายังร้านสะดวกซื้อที่เธอทำงานอยู่ แม้จะเห็นหน้าที่มหาวิทยาลัยเกือบทุกวันแล้วก็ตาม แต่ก็ยังอยากจะเห็นใบหน้าสวย ๆ นั้นก่อนนอนอยู่ดี
รถเก๋งรุ่นธรรมดาขับด้วยความเร็วมุ่งหน้าไปตามท้องถนน ที่จริงรถยุโรปก็มี แต่จินไม่อยากจะใช้ขับไปเรียนเท่าไหร่ สาเหตุก็เพราะไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นที่สนใจของผู้หญิงคนอื่นมากนัก เขาอยากจะอยู่แค่ในสายตาของพี่สาวคนสวยคนเดียวเท่านั้น แค่นั้นก็พอแล้ว
ครู่ใหญ่ รถก็มาจอดอยู่ที่หน้าร้านสะดวกซื้อที่มาเป็นประจำทุกคืน นัยน์ตาสีน้ำตาลมองเข้าไปข้างในร้าน แต่ก็ไม่เห็นปริมลดาอยู่ตรงเคาน์เตอร์อย่างเช่นทุกวัน เขากวาดมองไปรอบ ๆ บริเวณด้านนอก จนมาหยุดอยู่ที่มุมมืดข้างร้านที่เคยเห็นเธอทะเลาะกับใครบางคน และในคืนนี้ก็เช่นกัน ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังยืนอยู่ตรงนั้น ท่าทางที่เห็นใครมองก็รู้ว่ากำลังทะเลาะกันแน่ ๆ
“แทนว่า แทนไม่มีอะไรจะพูดกับปริมแล้วว่ะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพูดออกมา สีหน้าท่าทางบ่งบอกชัดเจนว่าเขาไม่แคร์ความรู้สึกของผู้หญิงตรงหน้าเลยสักนิด
“แทนไม่มีอะไรจะพูดกับปริม เพราะว่าแทนมีคนอื่นแล้วไง ปริมเลยไม่มีความหมาย ใช่ไหมแทน” ต่างกับปริมลดา ที่น้ำเสียงสั่นเครือเพราะกำลังร้องไห้ไม่หยุด
จู่ ๆ แทนไทก็มาหาเธอที่ร้าน แล้วบอกว่าคงคบกันต่อไปไม่ได้ เขาหายหน้าไปหลายวัน โผล่มาอีกทีก็บอกเลิกกันเสียอย่างนั้น ใครมันจะไปตั้งตัวทัน
“แล้วปริมจะให้แทนทำยังไงวะ ก็แทนอยากเอา แต่ปริมไม่ให้”
“ทำไมเห็นแก่ตัวอย่างนี้วะแทน”
“ฟังนะปริม แทนเป็นผู้ชาย มีอารมณ์เป็นเรื่องปกติปะ”
“เออ มันปกติ แต่ก็ไม่ควรนอกใจหรือเปล่าวะ”
เธอพยายามข่มอารมณ์ พยายามที่จะพูดดี ๆ แล้ว แต่มันทนไม่ไหวจริง ๆ
“ก็นี่ไง แทนรู้ว่าตัวเองเลว ก็เลยมาขอเลิกกับปริมนี่ไง”
“เป็นผู้ชายที่โคตรห่วยเลยว่ะแทน”
“เออ แทนยอมรับ ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้แหละ เราสองคนเลิกกัน”
ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ แทนไทก็เดินออกไปแล้ว ทิ้งให้เธอยืนร้องไห้อยู่ที่เดิมคนเดียว ปริมลดาได้แต่ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาให้ตัวเองรอบแล้วรอบเล่า แต่ไม่มีทีท่าว่ามันจะแห้งไปเลยสักนิด กลับกัน ยิ่งเช็ดน้ำตาก็ยิ่งไหล
จินเห็นแบบนั้นก็รีบลงจากรถแล้วเดินมาหาเธอ สายตาคมมองดูคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เห็นเธอเสียใจ เขาเองก็เสียใจไม่ต่างกัน
“พี่ปริม”
เสียงที่เอ่ยเรียกทำให้ปริมลดาเงยหน้าขึ้นมามองอย่างช้า ๆ พอเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงหน้า น้ำตาก็ยิ่งไหลมากกว่าเดิม
“ไม่ร้องนะครับ ไม่ร้องนะ” ฝ่ามือหนาถือวิสาสะดันศีรษะเล็กให้เข้ามาแนบกับอกกว้าง
จินไม่ได้ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแล้ว ถึงแม้จะไม่ได้ยินว่าทั้งคู่คุยอะไรกันก็ตาม แต่ไม่ว่าเรื่องจะเป็นยังไง สุดท้ายแล้ว คนเสียใจก็คือผู้หญิงตรงหน้าเขาอยู่ดี
ปริมลดาซบหน้าร้องไห้กับอกแกร่งอยู่แบบนั้นหลายนาที ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกให้เธอหยุดหรือขยับหนี แม้ว่าผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาจะเริ่มมองมาที่พวกเขาทั้งคู่แล้วก็ตาม สายตาของคนอื่นไม่ได้มีผลอะไรเลยสักนิด ตอนนี้จินสนใจแค่ความรู้สึกของเธอเท่านั้น
“ขอโทษนะจิน” เมื่อร้องไห้พอแล้ว ปริมลดาก็ผละตัวออกแล้วเงยหน้ามองคนที่เธอซบหน้าร้องไห้อยู่นาน
“ไม่เป็นไรครับ พี่ปริมสบายใจขึ้นก็ดีแล้ว”
“พี่ไปทำงานก่อนนะ”
“ครับ”
จินตอบออกไป แล้วเดินตามร่างเล็กเข้าไปในร้านด้วย คืนนี้ก็เช่นเดิม เขาซื้อเพียงถุงยางอนามัยกลิ่นสตอเบอร์รี่เท่านั้น
“มาซื้อทุกวันขนาดนี้ ไม่เหนื่อยทำบ้างหรือไง” ปริมเอ่ยถามขณะที่กำลังสแกนราคาสินค้า
“ไม่เหนื่อยครับ เพราะผมไม่ได้ทำอะไร” คำตอบของเขาทำให้พี่สาวคนสวยต้องเงยหน้าขึ้นมามอง แค่เห็นสายตาก็รู้แล้วว่าเธอไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด
“ไม่ทำแล้วซื้อไปทำไม เอาไว้สะสม?”
“รอใช้กับบางคนครับ”
คราวนี้ดวงตาคู่สวยต้องรีบหลุบลงต่ำ เพราะในขณะที่เขาตอบคำถาม สายตาคมคู่นั้นกลับจับจ้องมาที่เธอไม่กะพริบ ราวกำลังจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าบางคนที่พูดถึง คือเธอ
“พี่ปริมจะกลับบ้านยังไงครับ” จินตัดสินใจเอ่ยถาม เขาไม่อยากให้เธอกลับคนเดียว เพราะดูจากอาการคงจะยังเศร้าอยู่แน่ ๆ
“ก็เรียกแท็กซี่เหมือนทุกวันนั่นแหละ”
“ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปส่งนะ”
ปริมลดามองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยเข้าใจนัก หรือว่าเขากำลังจีบเธออย่างที่นรีบอกจริง ๆ
“ไม่เป็นไร อีกหลายชั่วโมงกว่าจะเลิกงาน ไม่อยากรบกวน”
“ผมไม่เคยคิดว่าพี่รบกวนนะครับ”
ไม่เพียงแค่น้ำเสียงที่จริงจัง สายตาของจินเองก็จริงจังไม่ต่างกัน
“แล้วจินจะรอพี่ยังไง”
“เดี๋ยวผมหาร้านกาแฟแถวนี้นั่งรอก็ได้ พี่เลิกงานเมื่อไหร่ก็โทรหาผม”
“ก็ตามใจ อยากไปส่งก็ไม่เกรงใจละกัน”
ทันทีที่ได้ยินคำตอบ เขาก็ฉีกยิ้มกว้าง ดวงตาสีน้ำตาลดูใสซื่อ เปล่งประกายความดีใจจนเห็นได้ชัด จนทำให้เธออดที่จะยิ้มตามไม่ได้
“งั้นผมไปหาที่นั่งรอนะครับ”
ปริมลดาพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วจินก็รีบเดินออกจากร้านไปทันที เขาขับรถหาร้านกาแฟเพื่อจะได้นั่งรอเธออยู่ไม่นาน ก็พบคาเฟ่น่ารัก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากร้านที่ปริมทำงาน
พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ คืนนี้ไม่จำเป็นต้องรีบนอน ได้อยู่กับเธอนานอีกสักหน่อยถือว่าเป็นเรื่องที่ดี
เกือบตีสอง เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น หน้าจอเป็นชื่อของปริมลดา เขารีบกดรับด้วยความดีใจ
“พี่ปริมเลิกงานแล้วเหรอครับ”
“อืม...อีกห้านาทีก็เลิกแล้ว จินออกมาเลยก็ได้”
“ครับพี่ปริม ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ”
หลังจากวางสาย จินก็รีบขับรถกลับมายังร้านที่เธอทำงานอีกครั้ง นัยน์ตาสีน้ำตาลเป็นประกายระยิบระยับด้วยความสุข ตลอดสามปีที่อังกฤษ เขาเฝ้าแต่คิดถึงพี่สาวคนสวยตลอดเวลา วันนี้ได้เข้าใกล้เธออีกนิดแล้ว
รถยนต์จอดตรงหน้า ปริมลดาก็เปิดประตูขึ้นมานั่งข้างคนขับ รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏให้เห็น แต่ดวงตาคู่สวยกลับเศร้าจนเขารู้สึกได้
“พี่ปริม”
“หืม...มีอะไรเหรอจิน”
“ทะเลาะกันบ่อยเหรอครับ”
“ไม่บ่อยหรอก คงจะไม่ได้ทะเลาะกันอีกแล้วล่ะ”
เธอสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ เชิดใบหน้าขึ้นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ต่อให้ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกาย แต่คนเราตกลงเป็นแฟนกัน มันก็เพราะมีความรู้สึกดี ๆ ด้วย พอเลิกกันไปความเสียใจก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้
“ไม่ร้องนะครับพี่ปริม พี่ไม่เหมาะกับน้ำตาหรอก” นิ้วเรียวยาวยกขึ้นเช็ดหยดน้ำใสที่กำลังไหลริน
ปริมลดาช้อนสายตามองชายหนุ่ม ที่ตอนนี้ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ ลมหายใจแทบจะประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงไม่ทราบสาเหตุ จนต้องรีบเบือนหน้าหลบ
“รีบไปเถอะ แม่พี่อยู่บ้านคนเดียวน่ะ พี่เป็นห่วง”
มันเป็นเพียงข้ออ้างที่ให้จินเลิกสนใจเธอ เพราะใบหน้าและการกระทำของเขาทำให้หัวใจเต้นไม่ปกติ เจ้าหมาน้อยไม่เหมือนตอนอยู่ มอ.ต้นเลยสักนิด ทั้งโตขึ้น สูงขึ้น และดูดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
ขนาดเธอที่เพิ่งเลิกกับแฟนมาหมาด ๆ ยังอดที่จะหวั่นไหวกับใบหน้าหล่อ ๆ นี้ไม่ได้เลย
จินขับรถออกมาตามที่เธอบอกโดยที่ไม่ได้เซ้าซี้ถามอะไรอีก แต่สายตาก็ยังคอยเหลือบมองคนที่เอนศีรษะพิงกับหน้าต่างรถเป็นระยะ
“พี่ปริม ถ้าเสาร์อาทิตย์นี้พี่อยากไปเที่ยวบอกผมได้เลยนะ เผื่อจะสบายใจขึ้นบ้าง” เขาเลือกที่จะพูดออกไป ถึงแม้ไม่รู้ว่าเธออยากไปหรือไม่
“ขอบใจนะจิน” ก็รู้สึกดีที่มีคนคอยเป็นห่วง แต่หัวใจในตอนนี้มันก็ยังเจ็บอยู่ดี
///////////////////////////////////////////////////////