ตอนที่ 5 ผมจะจีบพี่ครับ

2070 คำ
ร่างบางก้าวเท้าไปตามทางเดินในมหาวิทยาลัย ระหว่างที่กำลังเดินอยู่เสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น ปริมรีบควานหาโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายขึ้นมารับสาย พอเห็นเบอร์ก็ต้องแปลกใจ เพราะรู้สึกไม่คุ้นเอาเสียเลย “สวัสดีค่ะ” //สวัสดีครับ คุณปริมลดาหรือเปล่าครับ// “ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ” //ผมเป็นพนักงานส่งของครับ พอดีมีของจะส่งให้คุณ ไม่ทราบว่าตอนนี้อยู่ที่มหา’ลัยหรือเปล่าครับ// “อยู่ค่ะ ตอนนี้อยู่หน้าคณะบริหารธุรกิจค่ะ” ถึงจะแปลกใจว่าใครกันที่ส่งของมาให้ เพราะเธอเองไม่ได้สั่งสินค้าอะไรให้มาส่งที่นี่ แต่ปริมลดาก็ยืนรอคนที่เรียกตัวเองว่าพนักงานส่งของอยู่หน้าคณะ ไม่นาน รถเก๋งที่มีโลโก้ของบริษัทส่งของแห่งหนึ่งก็แล่นมาจอดเทียบด้านหน้าฟุตบาทที่เธอยืนอยู่ ผู้ชายที่อยู่ในรถรีบวิ่งลงมาจากด้านคนขับ มาเปิดประตูอีกฝั่ง แล้วหยิบช่อดอกกุหลาบสีขาวที่อยู่ด้านในมาส่งให้ “ของคุณปริมลดาครับ” “ของปริมเหรอคะ” สองมือยื่นออกไปรับอย่างงุนงง ส่วนพนักงานคนนั้นก็ถ่ายรูปการส่งงานแล้วก็กลับไป จังหวะเดียวกันกับนรีที่เดินมาถึงพอดี “โอ้โห...แม่จ้าววว ได้ดอกไม้แต่เช้าเลยวุ้ย” เพื่อนสาวเอ่ยแซวพร้อมทำหน้าทำตาทะเล้น “วันนี้สาวสวยตัวท็อปของเราได้ดอกไม้จากใครค่า” ปริมลดาได้แต่ส่ายหน้าไปมา เธอเองก็ไม่รู้จริงๆ ว่าได้มาจากใคร “ปริม ดูดิว่ามีการ์ดแนบมาด้วยหรือเปล่า” พอนรีพูดแบบนั้น ปริมลดาเลยมองหาการ์ดที่อาจจะเสียบอยู่ข้างใน ซึ่งมันก็มีจริง ๆ แต่ยังไม่ทันได้อ่าน เพื่อนสาวตัวดีก็แย่งไปเสียก่อน “ขอให้เป็นเช้าที่สดใสนะครับพี่ปริม ไม่ร้องไห้แล้วนะครับ จากจิน” พออ่านจบนรีก็เงยหน้าขึ้นมามองเพื่อนตัวเองอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ ส่วนอีกฝ่ายก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเพื่อบอกว่าไม่รู้เรื่องจริง ๆ “ตกลงว่า แกกับน้องจินสุดหล่อนี่มันยังไงคะคุณเพื่อน” “ไม่มีอะไรจริง ๆ แก” “ไม่มี ๆ แต่นี่น้องมันกำลังจีบแกชัด ๆ เลยนะ” นรียังคงคาดคั้นต่อ “คืนนั้นที่กลับด้วยกันมีอะไรดี ๆ หรือเปล่า” “ไม่มี ไม่มีอะไรจริง ๆ” ปริมลดายังคงปฏิเสธเสียงแข็ง คืนนั้นเท่าที่จำได้ก็แค่คุยกับจินไม่กี่ประโยค แล้วเธอก็หลับไปเลย มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เขาปลุกให้ตื่นเพื่อจะถามว่าบ้านเธออยู่ตรงไหนนั่นแหละ ดอกกุหลาบสีขาวช่อโตที่อยู่ในมือนั้น ดึงดูดทุกสายตาให้มองมาที่เธอเพียงคนเดียว ทั้งเขิน ทั้งอาย แต่ก็ไม่สามารถจะเอาไปแอบไว้ที่ไหนได้ เธอจึงจำเป็นต้องหอบหิ้วขึ้นมายังชั้นเรียนด้วย ติ๊ง... กำลังจะเริ่มคลาสแรก เสียงข้อความก็ดังขึ้น ปริมลดาหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดู หน้าขาวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อกะทันหัน จนนรีที่นั่งอยู่ข้างกันอดสงสัยไม่ได้ “ไอ้แทนส่งข้อความมาง้อเหรอ ยิ้มหน้าบานเชียว” ได้ยินคำถามของเพื่อน ปริมก็หันหน้ามามองพร้อมกับส่ายไปมา “ไม่ใช่ไอ้ผู้ชายเฮงซวยคนนั้นหรอก” “ใครอะ บอกเพื่อนหน่อยดิ” “ไม่บอก ปล่อยให้แกสงสัยไปอย่างนี้แหละ” เธอไม่ได้บอกนรีว่าใครส่งข้อความมา แล้วรีบเก็บมือถือลงในกระเป๋าทันที ‘วันนี้ผมไม่มีเรียน แต่ผมจะแวะไปรับนะครับ’ จินคือเจ้าของข้อความที่ส่งมาหาเธอ ไม่รู้ว่าจะดูเป็นผู้หญิงที่ใจง่ายไปหรือเปล่า หรืออาจเป็นเพราะเพิ่งอกหักก็ยังไม่แน่ใจ ถึงทำให้รู้สึกดีกับข้อความที่ได้รับมาก เหมือนหัวใจที่อยู่ด้านในจะพองโตแปลก ๆ แถมยังเต้นแรงอีกต่างหาก ปริมลดามีเรียนเพียงครึ่งวัน หลังจากเลิกคลาสสุดท้าย เธอก็มายืนรอชายหนุ่มคนที่บอกว่าจะมารับอยู่หน้าตึกคณะ แล้วก็มีนรีมายืนชะเง้อชะแง้รอดู ว่าใครกันนะที่จะมารับเพื่อนสาวคนสวยของตัวเอง เมื่อรถเก๋งจอดเทียบด้านหน้า นรีก็เบิกตาโต หันมองหน้าเพื่อนสลับกับใบหน้าของผู้ชายที่ลงมาจากรถ “สวัสดีครับพี่รี” จินเอ่ยทักท่ายรุ่นพี่ตรงหน้า แล้วก็หันมาส่งยิ้มให้พี่สาวคนสวยของเขา “กลับเลยมั้ยครับพี่ปริม” “อืม...กลับเลย” ปริมลดาพยักหน้า แล้วก็หันไปหานรีที่ยังยืนเงียบ เหมือนจะตกใจที่เห็นว่าใครมารับเธอ “ฉันกลับก่อนนะแก” นรีทำเพียงพยักหน้าแล้วโบกมือให้เพื่อนซี้ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกไป ไม่นาน แฟนของเธอก็มารับเช่นกัน จินขับรถมาเรื่อย ๆ ตามทาง สายตาคมเหลือบมองช่อดอกไม้ที่วางอยู่บนตักของคนตัวเล็กแล้วก็เผลอยิ้มออกมา อย่างน้อย ๆ เธอก็ไม่ได้โยนมันทิ้งลงถังขยะ แสดงว่าเขามีหวังที่จะจีบเธอติด “พี่ปริมอยากไปไหนก่อนหรือเปล่าครับ หิวข้าวไหม” เขาถามออกไป เพราะตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงพอดี เธอน่าจะยังไมได้กินข้าวเที่ยง “ก็หิวนะ แต่ถ้าจินรีบก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่กลับไปกินที่บ้านเองได้” “ไม่รีบครับ สำหรับพี่ผมว่างตลอดอยู่แล้ว” จินรีบตอบออกไปทันที “ถ้าอย่างนั้นแวะกินข้าวก่อนนะครับ” “เอาแบบนั้นก็ได้” ปริมลดาเองก็ไม่ปฏิเสธ อยู่กับเขาก็สบายใจดี อย่างน้อย ๆ ก็ทำให้ลืมแทนไทไปได้บ้าง รถแล่นเข้าจอดหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งคู่ลงจากรถแล้วเข้ามานั่งในร้าน “พี่ปริมอยากกินอะไรสั่งได้เลยนะครับ ผมเลี้ยงเอง” “พี่กินเยอะนะ เลี้ยงไหวเหรอ” “ให้เลี้ยงทั้งชีวิตผมก็เลี้ยงพี่ไหวครับ” ปริมลดาถามออกไปเล่น ๆ เท่านั้น แต่คำตอบของเขาที่ตอบกลับมานั้นจริงจังจนเธอไม่กล้าพูดอะไรต่อ ไม่ใช่แค่คำตอบ แต่นัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้นก็ด้วย ดวงตาคู่สวยรีบหลุบลงต่ำมองเมนูอาหาร เธอต้องการซ่อนอาการประหม่าเมื่อได้อยู่ใกล้ ๆ เขา ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมาน้อยเมื่อในอดีต จะกลายเป็นผู้ชายที่สามารถทำให้หัวใจเธอเต้นแรงได้มากขนาดนี้ ทั้งสองคนสั่งอาหารจานเดียวมาคนละอย่างเท่านั้น ระหว่างที่กำลังกินข้าว จินก็เอาแต่มองคนตรงหน้าแทบไม่ละสายตา ทำให้คนถูกมองต้องช้อนสายตาขึ้นมาดู แล้วเอ่ยถามด้วยความสงสัย “จิน มองหน้าพี่ทำไม” “พี่ปริมสวย ผมอยากมองนาน ๆ” แล้วฟังคำตอบสิ มันไม่มีอะไรที่จะอ้อมไปกว่านี้หรืออย่างไร เปิดปากพูดมาแต่ละคำทำเอาเธอแทบจะม้วนลงไปอยู่ใต้โต๊ะอยู่แล้ว “นี่ อย่าเที่ยวไปพูดแบบนี้ให้ไอ้รีได้ยินนะ” “ทำไมครับ” “เดี๋ยวมันจะคิดว่าเราตามจีบพี่อยู่น่ะสิ แค่นี้ไอ้รีก็คิดเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนแล้ว” “เหรอครับ” เขาตอบกลับมาแค่เพียงสั้น ๆ แต่ริมฝีปากหยักนั้นกลับอมยิ้มเอาไว้อย่างมีเลศนัย ไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่า บางครั้งจินก็ดูเป็นผู้ชายใสซื่อเหมือนลูกหมาตัวน้อย แต่บางครั้ง เขาก็ดูเหมือนสุนัขจิ้งจอกที่กำลังหยอกเล่นกับเหยื่อ “แต่ผมจะจีบพี่จริง ๆ นะครับ” ปริมลดาชะงักนิ่งเมื่อได้ยินคำพูด ช้อนที่อยู่ในมือร่วงลงกระทบกับจานข้าว ดวงตาคู่สวยเงยมองคนตรงหน้า ซึ่งเขาเองก็กำลังมองเธออยู่เช่นกัน “จิน อย่ามาล้อเล่นนะ” เธอรีบพูดออกไปแก้เขิน มือไม้เริ่มวางไม่เป็นที่ อาการอกหักยังไม่หายดีด้วยซ้ำ จะมาหวั่นไหวกับอะไรแบบนี้อีกไม่ได้ “ผมไม่ได้ล้อเล่นนะพี่ปริม” เสียงทุ้มต่ำยังยืนยันคำพูดของตัวเอง “ผมรักพี่มาตั้งแต่ตอน มอ.สาม รักมาตลอดเลย” เขาจะรู้ไหมว่าตอนนี้วิญญาณเธอกำลังจะออกจากร่างไปแล้ว จู่ ๆ ก็มาโดนสารภาพรักอย่างไม่ทันตั้งตัว แถมยังเป็นรุ่นน้องที่รู้จักกัน แล้วอีกอย่าง หัวใจเธอมันยังไม่พร้อมที่จะเปิดรับใครตอนนี้จริง ๆ ถึงไม่ได้รังเกียจ แต่ก็ยังไม่พร้อม “ขอโทษนะจิน แต่พี่ยังไม่อยากคบกับใครน่ะ” ปริมลดาเลือกที่จะพูดออกไปตามตรง “ผมก็ได้เร่งรัดอะไร แค่บอกพี่เอาไว้เฉย ๆ ว่าผมจะจีบพี่ ก็แค่นั้นเอง พี่เตรียมตั้งรับก็พอครับ” แววตาของเขาเป็นประกายระยิบระยับ คล้ายกับแสงดวงดาวที่กำลังล่อลวงแมลงตัวน้อยอย่างเธอให้หลงใหล ไม่แน่ ถ้าเขายังเป็นอย่างนี้ไปอีกเรื่อย ๆ เธออาจจะหลงรักรุ่นน้องคนนี้จริง ๆ ก็ได้ ใครจะไปรู้ “พรุ่งนี้ผมมีเรียน ยังไงจะแวะไปรับพี่ที่บ้านนะครับ” “อืม...เอาแบบนั้นก็ได้” ///// เช้าวันต่อมา เวลา 07.00 น. รถของจินจอดอยู่หน้าบ้านของปริมลดา บ้านหลังนี้ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก เป็นบ้านเช่าทั่วไป เขาลงจากรถแล้วหยิบของที่ซื้อมาฝากแม่ของเธอลงมาด้วย เสียงกริ่งหน้าบ้านดังอยู่ไม่นาน ร่างบางก็ออกมาเปิดประตูให้ เธออยู่ในชุดนักศึกษา แต่เหมือนว่าจะยังแต่งตัวไม่เสร็จเรียบร้อยดี “รอแป๊บนะจิน เป่าผมแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว” “ครับพี่ปริม ว่าแต่ ผมขอเข้าไปข้างในได้หรือเปล่า พอดีซื้อของมาฝากคุณน้าด้วยครับ” เขาเอ่ยบอกพร้อมกับยกถุงขนมและกับข้าวหลายอย่างขึ้นให้เธอดู “โห...ซื้ออะไรมาเยอะแยะ แม่พี่กินคนเดียวหมดที่ไหน” ถึงจะพูดออกไปแบบนั้น แต่บานประตูก็ถูกเปิดออกจนกว้างแล้วให้ชายหนุ่มเข้ามาข้างใน “ใครมาเหรอปริม” ปรางทิพย์ที่เดินออกมาจากในครัวเอ่ยถาม แล้วก็ยิ่งเพิ่มความสงสัยมากขึ้นเมื่อเห็นจินยืนอยู่ในบ้าน “รุ่นน้องที่มหา’ลัยค่ะแม่ ชื่อจิน” “สวัสดีครับ ผมซื้อขนมมาฝากคุณน้าด้วยครับ” จินรีบยกมือขึ้นไหว้ ส่วนปริมก็เอาถุงขนมกับของกินเข้าไปเก็บในครัว “ทีหลังไม่ต้องลำบากนะลูก น้ากินไม่เยอะหรอก” “ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี” ใบหน้าหล่อเหลาระบายด้วยรอยยิ้มที่มีสเน่ห์ ยิ่งเวลาเขาพูดกับแม่ของเธอก็ยิ่งดูอ่อนน้อม ปริมลดาที่แอบมองอยู่ก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้ ที่จริงเขาก็เป็นผู้ชายที่น่ารักมาแต่ไหนแต่ไร ตอนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันก็เป็นแบบนี้ ชอบหิ้วถุงขนมวิ่งตามเอามาให้เธอบ่อย ๆ “ไปเถอะจิน เดี๋ยวสาย” เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อย เธอก็เดินออกมาตรงนี้จินกับแม่นั่งคุยกันอยู่ “หนูไปเรียนก่อนนะคะแม่” สองมือยกขึ้นไหว้บุพการีอย่างนอบน้อม จินเองก็เช่นกัน เด็กทั้งสองคนออกไปแล้ว ส่วนปรางทิพย์ก็ได้แต่อมยิ้มอยู่คนเดียว เมื่อนึกถึงคำพูดที่จินพูดกับเธอเมื่อครู่ ‘คุณน้าครับ ผมกำลังจีบพี่ปริมอยู่ เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้พี่ปริมเสียใจเด็ดขาด’ คนเป็นแม่ก็หวังเพียงให้ลูกได้เจอคนดี ๆ ก็เท่านั้นเอง ///////////////////////////////////////////////////////
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม