เพียงขวัญ

2205 คำ
“ขวัญๆ เสร็จหรือยังลูก เร็วหน่อยลูกเดี๋ยวรถติด” “เสร็จแล้วค่ะแม่”เพียงขวัญ วัฒนาอนันต์ หรือ คนที่สนิทเรียกสั้นๆว่าขวัญ เพิ่งแต่งตัวเสร็จ เธออยู่ในชุดนักศีกษา และ วันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเธอ และที่พิเศษที่สุดพ่อกับแม่ยอมปิดร้านเพื่อที่จะไปส่งทั้งเธอและน้อง โรงเรียนของคณินทร์ หรือเขต น้องชายของเธอ ที่กำลังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 6 เทอมสุดท้ายเหมือนกัน โรงเรียนของน้องชายถึงก่อนมหาวิทยาลัยของเธอ สองพี่น้องเรียนโรงเรียนรัฐบาลมาตลอด เพียงขวัญตั้งใจเรียนและตั้งใจสอบเข้าโรงเรียนของรัฐบาล รวมถึงมหาวิทยาลัยด้วย และเธอก็ทำได้สมใจ หลักๆคือต้องการช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว ครอบครัว วัฒนาอนันต์ ประกอบกิจการค้าขาย นายคำนึง วัยหกสิบห้าปี นางขนิษฐาวัย หกสิบสองปี สองสามีภรรยา เปิดร้านขายของชำและร้านอาหารตามสั่ง เลี้ยงดูลูกทั้งสองคน และมีรายได้ทางเดียว เดิมสองสามีภรรยา เรียนจบปริญญาตรีทั้งคู่ ทำงานบริษัทฯเดียวกัน คบหากันกระทั่งแต่งงาน ทั้งสองคนมีลูก นายคำนึงลาออกมารับช่วงต่อกิจการร้านชำต่อจากพ่อและแม่ของเขา นางขนิษฐาตามมาอยู่ด้วยกับสามี พร้อมหน้าพร้อมตาครอบครัว นางขนิษฐามีฝีมือทำอาหาร เปิดร้านอาหารตามสั่งช่วยสามีอีกทาง สองคนช่วยกันค้าขาย ก่อนโควิดถือว่ารายได้ดีเลยทีเดียว แต่หลังจากโควิดมาเยือนทุกอย่างไม่เหมือนเดิม อาจเพราะที่บ้านค้าขาย ทำให้ เพียงขวัญ และคณินทร์ ขยันเหมือนพ่อกับแม่ เป็นความโชคดีของสองสามีภรรยา ที่ลูกทั้งสองคนไม่เกเร ขยัน เรียนเก่ง และช่วยงานที่บ้านมาโดยตลอด เพียงขวัญมักมีกับข้าว ขนมไปขายที่โรงเรียนเสมอ ตั้งแต่สมัยเรียนประถม จนถึงมัธยม กระทั่งเรียนปริญญาตรี หญิงสาวความจำดี ลายมือสวย รับจ้างทำรายงาน และเพื่อนๆหลายคนเอ็นดูที่เธอและน้องขยัน ช่วยซื้อช่วยสั่งกับข้าวจากร้านของสองพี่น้องประจำ เหมือนเป็นการผูกปิ่นโต รถเก๋งกลางเก่ากลางใหม่จอดรออยู่หน้าบ้าน นายคำนึงเป็นคนขับรถ นางขนิษฐานั่งเบาะหน้า คณินทร์นั่งรออยู่ที่เบาะหลังแล้ว เพียงขวัญรีบปิดประตูบ้านล็อคกุญแจแล้วรีบขึ้นรถ นานๆพ่อกับแม่จะปิดร้านสองพี่น้องดีใจ “วันนี้สอบวันสุดท้าย ทำให้ดีนะลูก เพียงขวัญ” “ค่ะพ่อไม่ต้องห่วงนะคะ ขวัญตั้งใจเต็มที่” “พรุ่งนี้เดี๋ยวพ่อพาไปกินหมูกระทะ ฉลองที่ขวัญสอบเสร็จ และเรียนจบปริญญาตรี” สองพี่น้องส่งเสียงไชโยอย่างดีใจ นานๆครอบครัวถึงจะออกไปกินข้าวนอกบ้าน แม่ก็ทำอาหารอร่อยอยู่แล้ว เครื่องดื่มที่บ้านก็มีเกือบครบ และอีกอย่างทุกคนประหยัด เลยไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านกัน ส่วนมากจะฉลองกันที่บ้านมากกว่า สองปีมาแล้วที่ค้าขายซบเซามาก จากที่เคยขายของได้วันหลายพัน ยอดค่อยๆลดลงอย่างเห็นได้ชัด โชคดีที่เพียงขวัญเรียนจบ เหลือแค่น้องชาย หญิงสาวคิดว่าจะหางานทำและส่งเสียน้องเรียนจนจบปริญญาตรี จะได้แบ่งเบาภาระของพ่อกับแม่ได้บ้าง เธอเลือกเรียนสาขาบัญชี หลังจากส่งลูกชายคนเล็กหน้าโรงเรียนแล้ว นายคำนึงไปส่งลูกสาวต่อที่มหาวิทยาลัย “เดี๋ยวเย็นขวัญกลับเองเหมือนเดิมนะคะพ่อแม่ วันนี้อาจเลิกเร็วเพราะวันสุดท้ายแล้วเหลือสอบไม่กี่วิชาค่ะ” “เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปธุระสักหน่อย แล้วจะเลยไปวัด ถ้าขวัญกลับถึงบ้านก่อนก็โทรบอกพ่อกับแม่ด้วยนะลูก” เพียงขวัญเดินหอบเอกสารและข้าวกล่องเข้าไปภายในมหาวิทยาลัย วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้มาที่นี่ กระทั่งวันสุดท้ายเธอก็ยังมีข้าวกล่องจากที่ร้านมาฝากเพื่อนๆ “ขวัญหอบอะไรมาเยอะแยะเลย มานนท์ช่วยถือ ”อานนท์เพื่อนร่วมชั้นรีบเข้ามารับของจากเพียงขวัญ “ขอบใจนะนนท์ รายงานของรุ่นน้อง แล้วนี้ข้าวแม่ทำมาฝากเพื่อนๆแบ่งกันคนละกล่อง” “ลาภปากอีกแล้ว ไปเถอะทุกคนรอที่โรงอาหารแล้ว” สองคนรีบเดินไปยังที่ประจำ กลุ่มเพื่อนๆรอกันอยู่ที่นั่นแล้ว กลุ่มของเพียงขวัญมีด้วยกันห้าคน เป็นกลุ่มที่คอยช่วยเหลือกันเรื่องเรียน เรื่องงาน เหมือนสนิทแต่ไม่ค่อยสนิท เพราะเวลาที่เพื่อนๆนัดกันไปเที่ยว เป็นเพียงขวัญเองที่ขอตัวตลอด เธอไม่อยากเอาเปรียบที่บ้านหนีไปเที่ยวสนุกคนเดียว เพื่อนบางคน ก็พูดแดกดันเป็นธรรมดา แต่เธอไม่ถือสา เลือกที่จะอยู่กับครอบครัว ตั้งใจเรียน เพราะมีเป้าหมายอยากเรียนให้จบเร็วๆและหางานทำเพื่อช่วยเหลือทางบ้านเธอรู้ว่าสถานการณ์การเงินของที่บ้านไม่ได้ดีเหมือนสมัยก่อน อะไรที่ประหยัดได้ก็ประหยัด “ขวัญ วันอาทิตย์ที่จะถึงนี่ไปฉลองเรียนจบกันนะ “อานนท์เอ่ยช่วยเพื่อนสาว “วันอาทิตย์เหรอ ขวัญไปได้แค่กลางวัน สักสองชั่วโมงนะ เพราะต้องช่วยที่บ้านทำงาน” เพื่อนทุกคนดีใจที่นานๆเพียงขวัญจะตอบตกลงไปฉลองด้วยกัน คนที่ดีใจที่สุดก็คงจะเป็นอานนท์ ทุกคนนัดกันที่ร้านอาหารใกล้ๆมหาวิทยาลัย เป็นร้านประจำของกลุ่ม กลุ่มที่ไม่ค่อยมีเพียงขวัญไปด้วย เพื่อนๆเข้าใจว่าเธอต้องช่วยงานที่บ้าน สมัยเรียนถ้ามีปัญหาเรื่องวิชาที่เรียน ทุกคนต้องไปหาเธอที่บ้าน ไม่มีทางที่หญิงสาวจะออกมาข้างนอก “ขวัญ จะเอารถไปเองหรือจะไปรถเมล์ลูก หรือจะให้พ่อไปส่ง” “พ่อไปส่งดีกว่าค่ะ ขวัญจะได้อ้างกับเพื่อนได้ว่าอีกสองชั่วโมง พ่อจะไปรับ” “จะเป็นไรไปล่ะลูก นานๆได้ไปสังสรรค์กับเพื่อน”นางขนิษฐาเห็นใจลูกทั้งสองคน ไม่ค่อยมีเวลาส่วนตัวหรือไปเที่ยวสนุกสนานกับเพื่อน เพราะมัวแต่ช่วยงานที่บ้าน “จริงๆขวัญไม่อยากไปเลยค่ะแม่ แต่ไหนๆก็เรียนจบแล้ว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกัน ก็จะไปสักหน่อย อีกอย่างขวัญไม่ค่อยชอบด้วย เลยจะอยู่แค่สองชั่วโมงพอค่ะ” เพียงขวัญอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นตัวโคร่ง กางเกงยีน สวมรองเท้าผ้าใบ ไม่แต่งหน้า ผมที่ยาวเกือบถึงสะโพกถักเปียสองข้าง สะพายกระเป๋าที่มีเพียงโทรศัพท์และกระเป๋าสตางค์อยู่ข้างใน สองพ่อลูกเดินทางไม่นานก็ถึงร้านหมูกระทะ เพียงขวัญโทรหาเพื่อนที่เริ่มมากันบ้างแล้ว “พ่อจ๋า เพื่อนมากันแล้วสามคน พ่อเข้าไปกับขวัญไหมคะ” “โอ้ย....ไม่เอาหรอกลูก เดี๋ยวไม่สนุกกันพอดี หนูเข้าไปเถอะลูกเดี๋ยวเพื่อนจะรอ พ่อจะกลับก่อนอิ่มแล้วก็โทรหาพ่อนะ เดี๋ยวพ่อมารับ” “ค่ะพ่อ ขับรถดีๆนะคะ”หญิงสาวยกมือไหว้นายคำนึงและมองตามท้ายรถไปจนลับสายตา ก่อนที่จะรีบเข้าไปภายในร้านอาหาร “อุ้ย.....ขอโทษค่ะ” หญิงสาวไม่รู้ว่าเธอชนคน หรือคนชนเธอ เพราะความรีบที่จะเข้าไปหาเพื่อน แต่เธอคิดว่าคนชนเธอมากกว่า เพราะเธอเซ มีความรู้สึกว่าเหมือนเดินชนตึกหรืออะไรสักอย่างที่แข็งและหนา “เดินไม่ดูตาม้าตาเรือ”เสียงสบถดังขึ้น เสียงเขาดังมาก ผู้ชายร่างรูปร่างสูงใหญ่ มองมาที่เธออย่างไม่พอใจ เขาใส่แว่นแต่เธอรู้ว่าสายตาหลังแว่นนั่นไม่พอใจมาก ดีที่เขาใส่แว่น ถ้าบังเอิญถอดแว่นคงจะน่ากลัวมากกว่านี้ หญิงสาวยกมือไหว้ขอโทษเขาอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินเร็วหายเข้าไปภายในห้องอาหาร ใจเต้นเขาไม่รับคำขอโทษ เดินหนีเธอไปอีกทาง ก็ยังดีที่เขาไม่ต่อว่าเธอด้วยคำที่รุนแรงมากกว่านี้ แต่สายตาและคำสบถของเขาก็ถือว่าแรงสำหรับเธอ เพียงขวัญพยายามตั้งสติทั้งที่ยังใจเต้นแรงเพราะตกใจ ก่อนที่จะเดินเข้าไปภายในร้านอาหาร ตรงไปหาเพื่อนๆ “ขวัญมาเร็ว กิ่งสั่งทุกอย่างที่ทุกคนอยากกินแล้วนะ ” “น่ารักจังเลยกิ่ง ขอบใจนะเพื่อน นี่ขนมแม่ฝากมาให้ครบทุกคนเลย” “ขอบใจนะขวัญ มีของฝากตลอดเลย ที่สำคัญอร่อยทุกอย่าง” กิ่งแก้ว อานนท์ อรวี เทพไท เพียงขวัญ อรนภา ทั้งหมดเป็นเพื่อนสนิทกัน เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ปีหนึ่ง สนิทกันมาก โดยเฉพาะอานนท์ เพื่อนๆรู้ว่าเขาคิดกับเพียงขวัญมากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เพียงขวัญให้เขาได้แค่คำว่าเพื่อนเท่านั้น ทุกคนพูดคุยและดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีแอลกอฮอร์ “ได้เวลาแล้ว ขวัญกลับก่อนนะทุกคน พ่อใกล้ถึงแล้ว ไว้มีโอกาสเจอกันนะ” “เดินทางปลอดภัยนะขวัญ ไม่ได้ออกไปไหว้พ่อนะ” "ไม่เป็นไร ไปก่อนนะทุกคน" เพียงขวัญแวะล้างมือที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำ รู้สึกเหมือนมีใครสักคนแอบมอง หญิงสาวรีบเดินออกไปด้านหน้าร้านที่นัดพ่อไว้ นายคำนึงยังมาไม่ถึง ดีที่มีเก้าอี้หน้าร้าน เธอนั่งรอพ่ออยู่ตรงนั้น สัญชาตญาณความระวังตัวของเพียงขวัญ รู้สึกว่ามีใครสักคนแอบมองเธออยู่ หญิงสาวกวาดสายตาไปเรื่อยๆไม่ได้จงใจมองนัก แน่แล้วล่ะ ร้านตัดผมที่อยู่ติดกับร้านที่เธอเพิ่งเดินออกมา ในห้องกระจกนั่น เธอจำได้ ผู้ชายที่เธอเดินชนเขานั่งอยู่ในนั้น เหมือนเขาจงใจมองมาที่เธอ หญิงสาวใจไม่ดีมองนาฬิกาอีกครั้ง พ่อผิดเวลา พอดีกับที่น้องชายโทรมา “ว่าไงเขต มีอะไรหรือเปล่า” “พี่ขวัญ หารถมาเองนะครับ รถพ่อสตาร์ทไม่ติด กำลังให้ช่างมาดูครับ” “ได้ๆไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่เรียกรถกลับเอง “หญิงสาวลุกขึ้นเดินออกไปหน้าร้านเพื่อเรียกรถ วินาทีนี้เธออยากออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด จะได้พ้นจากสายตาผู้ชายคนนั้น พูดไม่ดีแล้วมารยาทยังไม่ดีอีก รถมาเร็วทันใจ ขึ้นรถได้ เธอหันกลับไปมองด้านหลัง ผู้ชายคนนั้นเดินออกมาจากร้านตัดผม ไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นใคร และจะไปไหน เวลานี้เธออยากกลับให้ถึงบ้านให้เร็วที่สุด รู้สึกใจคอไม่ดีเลย เพียงขวัญเดินทางมาถึงบ้าน ช่างซ่อมรถของพ่อเสร็จพอดี หญิงสาวยังไม่วายหันไปมองด้านหลัง อยู่ๆก็นึกกลัวและระแวง โล่งใจที่รถพ่อซ่อมเสร็จแล้ว เพราะไม่ง้ันไม่มีรถไปซื้อของแน่ๆ ปกติเธอกับน้องจะเป็นคนไปซื้อของเข้าร้าน และซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องลำบากไปเดินตลาด แม่อยู่หน้าเตาตลอด ทั้งขายก๋วยเตี๋ยว ผัดอาหารตามสั่งยืนนานๆทำให้มีปัญหาเรื่องเข่า ไม่ใช่แค่แม่ พ่อก็หมือนกันทั้งสองคนทำงานหนัก ถ้าเป็นไปได้หากเธอหางานทำได้ มีเงินเดือนพอที่จะเลี้ยงครอบครัว เธอจะให้พ่อกับแม่เลิกทำงาน จะดูแลทุกคนเอง "มาแล้วเหรอขวัญ สนุกไหมลูก"นางขนิษฐาทักลูกสาว "สนุกค่ะแม่ หลังจากนี้คงอีกนานกว่าจะได้เจอกับเพื่อนๆ" "พ่อไม่ค่อยสบายเหรอคะ "เพียงขวัญมองเลยไปที่นายคำนึงที่นอนอยู่บนเก้าอี้โยกตัวโปรด ปกติเธอไม่่ค่อยเห็นพ่อนอนเลยรู้สึกแปลกใจ "เห็นบอกว่าเหนื่อย แม่ก็เลยให้นอนพัก" "แม่ก็พักบ้างหยุดบ้างก็ได้นะคะ" "หยุดได้ยังไงกันลูก ถึงขวัญจะเรียนจบแล้ว ก็ยังไม่ได้ทำงาน ไหนจะน้องอีก ยังต้องเรียนอีกตั้งสี่ปีกว่าจะจบ" "งั้นเดี๋ยวช่วงนี้ขวัญจะเริ่มหาสมัครงานนะคะแม่ ถ้าโชคดีอาจได้งานเร็ว" "ไม่พักก่อนเหรอลูก พักสักสองสามเดือน ช่วยแม่กับพ่อที่บ้านก่อนก็ได้" "ขวัญอยากมีเงินเยอะๆค่ะ ไม่อยากให้ทุกคนลำบาก ไ่ม่เป็นไรหรอกค่ะแม่ เพียงขวัญรู้ว่าช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี พ่อกับแม่เธอไปทำสัญญากู้เงิน มาเพื่อไว้ใช้จ่ายในครอบครัว เป็นทุนค้าขาย และส่งเธอกับน้องเรียน จำนวนเงินเธอไม่แน่ใจว่าเท่าไหร่ ถ้ายังขายของไม่ดีแบบนี้มีหวัง หนี้คงพอกพูนขึ้นเรื่อยๆยังไงเธอก็ต้องหางานทำให้ได้เร็วที่สุด เพื่อที่จะได้เงินมาช่วยพ่อกับแม่ใช้หนี้บ้าง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม