จิ้นฝูหัวเราะเบาๆ พลางจิบน้ำชา ในใจนั้นยังคงคิดว่าเร็วเกินไปที่จะเปิดเผยตัวสู่ภายนอก เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์เอารัดเอาเปรียบจนทำให้นางต้องลำบากใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับองค์รัชทายาทผู้เคยเป็นศิษย์ของเขา เกาหยางผู้นั้นทั้งเฉลียวฉลาดและทะเยอทะยาน หากรู้ว่าเลี่ยงหรงมีพลังถึงขั้นคว่ำเกาะเทวโลก คิดว่าคงต้องหาทางดึงนางเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อเสริมสร้างอำนาจแก่ตัวเองอย่างแน่นอน ในมหาตำหนักสรวงสุริยันล้วนเต็มไปด้วยเหล่าผู้กระหายในอำนาจ หากหลงเข้าไปในวังวนแก่งแย่งชิงดีสักครั้ง คงยากจะถอนตัว โชคดีที่เลี่ยงหรงมิใช่ผู้ลุแก่อำนาจ แม้ว่านางจะใจดีเกินไป แต่ก็รู้ว่าสิ่งใดควรก้าวก่าย สิ่งใดควรหลีกหนี จึงทำให้เขาเบาใจลงเปลาะหนึ่ง เพียงแต่ฝ่ายรัชทายาทคงไม่ปล่อยมือไปง่ายๆ เป็นแน่ จิ่วหวางเห็นว่าเรื่องราวคลี่คลายแต่โดยดีแล้ว จึงไม่คิดสอดปากเข้าไปยุ่งวุ่นวายให้สหายต้องขุ่นเคืองใจอีก “เช่นนั้นข้าจะนำข้อควา