“น้องดาครับ ได้ยินพี่หรือเปล่า น้องดาครับ”
จักรยังคงร้องเรียกเจ้าสาวหมาดๆ ของเขาอยู่ด้านนอก โดยไม่ถือวิสาสะที่จะเปิดเข้าไป และเมื่อได้ยินเสียงหวานๆ ตอบกลับมา รอยยิ้มก็ผุดมาอย่างเร็ว อาจเรียกได้ว่าเป็นยิ้มครั้งที่ 500 ตลอดทั้งวันนี้ก็ว่าได้ เพราะเขาช่างเป็นคนที่ยิ้มพร่ำเพรื่อเรี่ยราดจริงๆ ‘ก็มันน่ายิ้ม’
“ได้ยินค่ะ น้องดากำลังจะออกไป”
ดารินตอบรับเสียงเรียกของจักรก่อนจะมองสำรวจตัวเองในกระจกอีกครั้ง เธอยังอยู่ในชุดเสื้อคลุมอาบน้ำเช่นเดิม เพียงแต่ปล่อยเส้นผมชื้นน้ำนั้นสยายออก ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมแล้วที่จะออกไปเผชิญหน้า
แกร๊ก...
เสียงประตูที่กำลังจะเปิดออกทำให้จักรจับจ้องแต่เพียงคนที่อยู่ตรงหน้า หวังจะได้เห็นเรือนร่างงดงามภายใต้ชุดนอนที่เขาสั่งให้ยัยจี๊ดไปจัดเตรียมเอาไว้ให้ พร้อมกำชับเสร็จสรรพให้จัดเปลี่ยนกับชุดที่เจ้าสาวของเขาเตรียมมาให้ได้
ใครกันอยากเห็นเจ้าสาวอยู่ในชุดนอนเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ปกปิดมิดชิดตลอดทั้งตัว ที่เขาวาดฝันไว้นั้นมันต้อง ‘ชุดนอนที่ใส่แล้วไม่ได้นอน’ มากกว่า ทว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้ากลับทำให้จักรต้องขมวดคิ้วมุ่น
“อ้าว... น้องดาไม่เปลี่ยนเสื้อผ้าหรือครับ”
“เอ่อ... เปลี่ยนแล้วค่ะ แต่น้องดาหนาวก็เลยใส่เสื้อคลุมทับไว้ก่อน พี่จักรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ”
“อืม... เดี๋ยวก่อนน้องดา”
อาการสะดุ้งของดารินเกือบทำให้เขาหลุดขำ นี่เขาทำให้เจ้าสาวกลัวมากขนาดนี้เชียวหรือ เขาไม่ใช่ยักษ์ใช่มารนะ ออกจะหล่อไปทุกองศาขนาดนี้ อยากรู้จริงว่าดารินไม่หวั่นไหวในความหล่อไปทุกสัดส่วนของเขาเลยหรือไง
“คะ... พี่จักร”
“มานี่เถอะ เดี๋ยวพี่เช็ดผมให้ ผมชื้นแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เขายื้อผ้าเช็ดผมจากมือเธอ แต่ดารินที่เบิกดวงตากว้างมองเขาอย่างตกใจนั้นกลับยื้อผ้ากลับ
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องดาเช็ดเองได้ พี่จักรไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะค่ะ”
“อื้อ... อย่าดื้อนะคะ พี่มีหน้าที่ต้องดูแลน้องดานะ”
อีกแล้วที่คำพูดมีเหตุผลกับน้ำเสียงออดอ้อนนั้นทำให้เธอว่าง่ายตามที่เขาต้องการ ดารินไม่รู้ตัวว่าถูกเขาพามาที่โต๊ะเครื่องแป้งตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีเธอก็เห็นใบหน้าแดงระเรื่อของตัวเองในกระจก พร้อมกับร่างแข็งแกร่งบึกบึนของจักรที่ยืนอยู่เบื้องหลังของเธอซะแล้ว
หัวใจสาวเต้นระส่ำจนได้ยินเสียง และเธอก็หวังว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงที่บ่งบอกถึงความตื่นเต้นของเธอ เพราะเจ้าบ่าวของเธอนั้นอยู่ในชุดท่อนบนเปลือยเปล่าเผยให้เห็นแผงอกกว้าง หัวนมเป็นสีน้ำตาลจาง และมีลอนหน้าท้องนับได้ 6 แพคพอดิบพอดี ส่วนท่อนล่างนั้นมีเพียงผ้าเช็ดตัวสีขาวพันอยู่อย่างหมิ่นเหม่
ดารินเผลอกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อสำนึกที่รับรู้ของตัวเองนั้นคือ เธอหวังอยากให้มันหลุดออกจากปมที่เพียงเหน็บไว้หลวมๆ นั่น แต่เมื่อฝ่ามือใหญ่นั้นบรรจงเช็ดเส้นผม ภวังค์หวามที่หลุดไปก็กลับคืนสู่ความจริง
เขาบรรจงซับเส้นผมที่ชื้นน้ำของเธออย่างเบามือ เริ่มจากซับน้ำที่ปลายผม ก่อนจะกดเบาๆ ให้เส้นผมกระจายออกจากกันให้ความชื้นถูกดูดซับจากใยผ้าเนื้อนุ่มให้มากที่สุด น้ำหนักมือของเขาช่างนุ่มนวล อ่อนโยนจนเธอเคลิ้ม
“ผมน้องดายาวจังนะคะ และก็หอมมากด้วย”
“เอ่อ... ค่ะ”
ดารินสะท้านไปทั้งร่าง เมื่อจักรก้มลงดอมดมเส้นผมของเธอ โดยเฉพาะเส้นผมที่ละอยู่ข้างแก้มนั้นเขาดูจะชื่นชอบตรงนี้มากกว่าจุดอื่น
“เอ่อ... พอแล้วล่ะค่ะ แค่นี้ก็พอแล้ว”
“อืม... น้องดาง่วงหรือยังคะ”
“ยะ... ยังค่ะ” ดารินตอบเสียงสั่น เขาถามทำไมว่าง่วงหรือเปล่า หรือเขากำลังจะทำกิจกรรมคลายความง่วงกับเธอ
“น้องดา... น้องดากลัวพี่หรือคะ”
เขาถามพลางทรุดร่างลงคุกเข่าด้านหน้าของดาริน เมื่อเจ้าสาวของเขานั้นสั่นไปทั้งร่างแค่เขาแตะต้องเส้นผม และถ้ามากกว่านี้เล่า เธอไม่ไข้ขึ้นเลยเหรอ ในเมื่อนี่มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เรื่องที่ถูกทำนองคลองธรรม และเป็นเรื่องที่เขาไม่มีวันให้คืนนี้ผ่านไปอย่างเสียเปล่าแน่
ดารินไม่ตอบแต่หลุบสายตาลงต่ำ พร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ ให้เขาเป็นเชิงยอมรับ
“เราแต่งงานกันแล้วนะคะ และการเข้าหอก็เป็นเรื่องธรรมชาติที่ใครๆ ก็ต้องผ่านไป 5 ปีที่ผ่านมา ยังไม่พิสูจน์ให้น้องดารู้หรือคะ ว่าพี่รักน้องดามากแค่ไหน พี่รอวันนี้มา 5 ปีแล้วนะคะ ถ้าจะรอต่ออีกหน่อยคงไม่เป็นไร”
แพขนตาที่กะพริบถี่ของดารินพร้อมกับริมฝีปากที่เม้มเข้าหากันไปมา มันคือกำลังใช้ความคิด เขารู้ว่าเธอหวั่นไหวและเขาจะทำให้เธอทลายกำแพงนั้นออกมาด้วยตัวเอง
“ถ้าวันนี้น้องดายังไม่พร้อม พี่ก็จะรอค่ะ พี่จะรอจนกว่าน้องดาจะวางใจในตัวพี่ พี่จะไม่หักหาญเอาแต่ใจตัวเอง จะไม่ทำให้น้องดาต้องเสียใจว่าเลือกคนผิดมาเป็นสามี น้องดานอนนะคะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว พี่จะห่มผ้าให้”
เขาประคองร่างบอบบางให้ลุกขึ้นจากเก้าอี้หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ตรงมาที่เตียงนอน ตลบผ้าคลุมเตียงสีขาวสะอาดตาขึ้นก่อนจะประคองให้เธอนั่งลง ฝ่ามือรั้งเรือนร่างที่ยังคงใช้ความคิดให้นอนลง ก่อนจะเคลื่อนผ้าห่มขึ้นมาคลุมแค่ช่วงอก