EP 43

1193 คำ
“คุณจะแต่งงานแล้วนี่คะ ทำไมจะต้องซื้อบ้านให้เดียร์ด้วย ไม่กลัวคุณแอลลี่ว่าเหรอคะ” “แอลลี่ก็อยู่ส่วนแอลลี่ คุณก็อยู่ส่วนคุณ ไม่ข้องเกี่ยวกัน” “หลังจากแต่งงานแล้ว คุณกับเดียร์จะอยู่ในสถานะไหนคะ” “ก็! ในฐานะคนรู้จัก หรือเพื่อน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่คุณอยากจะเรียก ผมไม่ขัดหรอก ขอเพียงแค่ให้ผมได้เห็นคุณบ้าง เวลาคิดถึงก็จะได้ไปหาที่บ้านบ้างไงล่ะ” นั่นเป็นคำตอบได้อย่างดี สำหรับหญิงสาวผู้กำลังสงสัยในฐานะของตัวเอง “ไปหาที่บ้าน! แล้วเราจะ...เอ่อ...” หญิงสาวไม่กล้าถาม “ผมซื้อบ้านให้แล้ว คุณก็จะได้อยู่ พอผมคิดถึงก็จะได้ไปหาไงล่ะ แล้วผมก็จะให้เงินเดือนเอาไว้ใช้แบบนี้ คุณไม่ทำงาน ผมก็เลี้ยงได้เสมอ หรือใจจริงคุณจะตัดขาดกับผมไปเลย จะไม่ใจดำไปหน่อยเหรอ” “เปล่าค่ะ” “ว่าแต่คุณอยากได้มั้ยบ้าน” “อืม! ใครจะไม่อยากได้คะ แต่เดียร์จะบอกแม่ว่ายังไงล่ะคะถ้าแม่ถาม” “ก็บอกว่ามีคนซื้อให้” “แม่ก็ต้องถามอีกว่าใครและทำไมต้องซื้อ แล้วก็จะถามเรื่องอื่นๆ ด้วย” “ความจริงก็ย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ ปิดไม่ได้ตลอดไปหรอก ถึงเวลาแม่คุณก็ต้องรู้ หรือถ้าคุณไม่อยากให้รู้ ก็รับเงินเดือนจากผมแบบนี้ไป แล้วก็ออกไปทำงานตามปกติ พอเราคิดถึงกัน คุณก็มาหาผมที่นี่ เอามั้ยล่ะ” “ขอเดียร์ไปคิดก่อนนะคะ ว่าจะบอกกับแม่ยังไงดี แม่ถึงจะยอมย้ายไปอยู่บ้านใหม่แบบไม่สงสัยน่ะค่ะ” “ก็ได้ แต่อย่านานนะ คนของผมหาบ้านให้ได้ในเวลาไม่กี่วันหรอก ผมอยากให้คุณกับแม่ย้ายไปอยู่ก่อนสิ้นเดือนนี้” หญิงสาวรู้ดีว่าเขาอยากให้ย้ายไปก่อนเขาจะแต่งาน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรนอกจากเอาแก้มแนบอกเขาแล้วครุ่นคิดตามเท่านั้น “แต่บอกไว้ก่อนนะว่า ถ้าเป็นผู้หญิงของผมแล้ว ผมหึงแล้วก็หวงแรงด้วย ห้ามผู้ชายหน้าไหนมาเกาะแกะ ไม่งั้นเจออัดน่วมแน่” ความเป็นคนหวงของ ทำให้เขาต้องบอกขอบเขตเอาไว้ให้แน่ชัดตั้งแต่แรก จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง ส่วนคนฟังสะอึกน้อยๆ แล้วแหงนหน้าขึ้นมองเขาค้อนๆ ก่อนเหน็บด้วยน้ำเสียงหนักๆ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน “อันธพาล” “อ้าว! ไม่เคยได้ยินเหรอว่าผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ” ดวงตาคู่สวยมองเขาแล้วค้อนขมับๆ อีกคำรบ ในใจก็อยากถามว่า ตกลงแล้วเขาจะมีผู้หญิงในชีวิตเอาไว้กี่คนกันแน่ และเธอจะเป็นคนที่เท่าไหร่ “มองค้อนแบบนี้เดี๋ยวก็เจอดีหรอก” เขากำลังจะก้มลงมาหา แต่ใบหน้าสวยเบี่ยงหนี มือบางก็ยกขึ้นดันคางเขาไว้ “อย่าค่ะ” “ห้ามทำไมล่ะ ผมต้องได้รางวัลแล้วนะ” “รางวัลอะไรคะ” “อ้าว! ก็รางวัลที่อุตส่าห์เป็นป๋า จะซื้อบ้านให้ไงล่ะ” “แล้วถ้าวันนี้น้องหนูปรนนิบัติป๋าจนถูกใจ เดี๋ยวป๋าจะยกรถคันที่ป๋าเอาไปรับไปส่งหนูให้เลย จะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ไง” แม้เขาจะใช้เงินซื้อความสุขกับผู้หญิง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คิดจะควักกระเป๋าซื้อทั้งบ้านและให้รถที่เพิ่งใช้มาได้ยังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำให้ เขาเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงปล่อยเธอไปไกลตัวไม่ได้ “ไม่เอาค่ะ เดียร์ขับไม่เป็น” และคำตอบที่ได้ ก็ทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อหูนัก เธอช่างไม่โลภ ไม่มักมากเอาเสียเลย แทนที่จะรีบตะครุบไว้ แต่กลับปฏิเสธเสียงใส จนเขาก้มลงไปมองแล้วยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูยิ่ง “ยากอะไร มีป๋าอยู่ทั้งคน เดี๋ยวหัดให้ก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ หนูต้องให้รางวัลป๋าก่อน” ริมฝีปากบาง ถูกคนเรียกตัวเองว่าป๋า ก้มลงไปครอบครองไว้ในที่สุด แม้ในใจของหญิงสาวจะมีเรื่องให้ต้องขบคิดยังไง แต่เมื่อมีเขาอยู่ใกล้ๆ แล้ว ทำให้ลืมเลือนเรื่องต่างๆ ไปจนหมดสิ้น ลืมแม้กระทั่งข่าวเรื่องได้งานที่ตั้งใจจะบอกเขา เพราะความสุขทั้งกายและใจกับรสรักอันหอมหวานที่เขากำลังมอบให้   แต่หนึ่งอาทิตย์หลังจากนั้น หญิงสาวกลับเริ่มไม่เป็นสุขแล้ว เมื่อมีไข้มารุมเร้า กับอาการอ่อนเพลีย จนไม่มีแรงจะลุกไปไหนมาสองสามวัน ต้องอยู่แต่บ้านเท่านั้น รอบเดือนก็เคยมาปกติก็ขาดหายไป ในตอนเช้าก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียน และแม้ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน แต่อะไรบางอย่างบอกให้รู้ว่า มีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายแน่แล้ว “ถ้าพอลุกไหว ก็ไปแต่งตัวหน่อยลูก” “แต่งตัวไปไหนจ๊ะแม่จ๋า” “แม่จะพาไปหาหมอ ปล่อยไว้นานๆ ไม่ดีหรอก เกิดเป็นอะไรมากจะรักษาไม่ทัน” แม้จะค่อนข้างมั่นใจจนเกือบจะตอบได้ว่าใช่ บวกกับพฤติกรรมอันเปลี่ยนไปของลูกสาวในระยะหลังๆ นี้ ทำให้ปรียาจำต้องหาข้อพิสูจน์ เพื่อลูกจะได้เถียงไม่ออก ส่วนลูกนั้นก็แค่สงสัยและไม่ค่อยมั่นใจในอาการของตัวเองเอาเสียเลย พอถูกแม่คะยั้นคะยอให้ไปหาหมออย่างไม่ยอมลดละ ก็จำต้องไป “ตอนนี้อายุครรภ์ได้ราวสองเดือนแล้วนะคะ...” ปริยกรนั่งอึ้งอยู่ตรงหน้าหมอ เพราะทำอะไรไม่ถูก และงงไม่น้อย ในเมื่อกินยาคมมาตลอด หรือถ้าไม่กินเขาก็จะเป็นคนป้องกันทุกครั้ง แล้วจะพลาดได้ยังไง ส่วนคนเป็นแม่นั้น แม้จะเสียใจแต่ก็มีสตินั่งฟังคำแนะนำของหมอแทนลูกจนครบถ้วน จากนั้นไม่ถึงสองชั่วโมงก็กลับถึงบ้าน และต่างคนต่างไม่เอ่ยอะไรเลยแม้แต่คำเดียว คนเป็นลูกนั้นน้ำตาไหลพรากออกมา เมื่อเห็นแม่เข้าไปนั่งอยู่ในห้องร้องไห้อยู่ก่อนหน้าแล้ว เลยเดินเข้าไปใกล้ๆ แม่ คุกเข่าลงตรงหน้าแม่ ยกมือพนมขึ้น ก่อนเอ่ยทั้งน้ำตา “แม่จ๋า! เดียร์กราบขอโทษจ้ะ เดียร์ผิดไปแล้ว เดียร์เป็นลูกไม่ดี ทำให้แม่เสียใจจนร้องไห้ แม่จ๋ายกโทษให้เดียร์ด้วยนะจ๊ะ” แม้จะโกรธลูกมากแค่ไหน แม้จะเสียใจมากแค่ไหน แต่ปรียาก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกับลูกเลยสักครั้ง อีกทั้งที่ผ่านมา ลูกทำตัวดีมาโดยตลอด จนไม่อยากเชื่อว่า ลูกจะเกรกมะเหรกเกเรจนถึงขั้นนี้ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม