เธอเลิกโวยวายแล้ว และดูเหมือนจะเหนื่อยมากด้วย เสียงร้องของเธอแผ่วเบาลง แรงสะอื้นก็ค่อยๆ คลาย บัวหวานทั้งเหนื่อย ทั้งหิว ทั้งสบายตัวจากการเพิ่งอาบน้ำ ถึงแม้เส้นผมของเธอจะยังเปียกอยู่ก็ตาม
แต่ไม่ไหวแล้ว...
ง่วงจัง...
แม่จ๋า... หนูเหนื่อยแล้ว...
“แม่...”
บัวหวานพูดออกมาเหมือนเสียงละเมอ เธอสะอื้นในอก ดวงตาหลับพริ้ม ไม่รู้แล้วว่าหัสดินอยู่ที่ไหนในห้องนี้ แล้วก็ไม่อยากจะรู้ด้วย ตอนนี้วังวนของนิทรากำลังเปิดรับให้เธอเข้าไปซุกตัวนอนอยู่ในนั้นอย่างเหนื่อยอ่อน หลังจากที่ไม่ได้นอนมาทั้งคืน
“...”
หัสดินนั่งรออยู่ข้างเตียงจนเสียงของเธอเงียบลง ทรวงอกที่ขยับขึ้นลงตามแรงสะอื้นเริ่มขยับช้า แล้วใบหน้านองน้ำตาที่นิ่วคิ้วมาตลอดด้วยความเครียดก็ค่อยๆ คลาย เธอหลับใหลไปราวกับเด็กอ่อนขาดมารดา
ชายหนุ่มนั่งรออยู่นาน จนมั่นใจว่าบัวหวานจะไม่ตื่นขึ้นมาฟาดมือฟาดเท้าใส่เขาอีก หัสดินก็ค่อยๆ แกะเศษผ้าออกจากข้อมือบอบบาง แล้วกลัดกระดุมเสื้อสูทกลับให้เธอเหมือนเดิม
ตอนนั้นเองที่เขาเพิ่งสังเกตเห็นรอยแดงช้ำจากการถูกของแข็งกระแทกตรงหน้าท้องแบนราบของเธอ
หัสดินชะงักมือ เขารู้ทันทีว่ารอยบ้านี่เกิดขึ้นจากอะไร!
“ไอ้xหี้ยกาย...”
เสียงนั้นลอดไรฟัน แล้วชายหนุ่มก็โกรธจนแทบคุมตัวเองไม่อยู่ ถ้าเขามีสติน้อยกว่านี้ หัสดินคงก้าวออกจากห้องไปหาเรื่องกายวุธ เตะหน้ามันสักที กระทืบช้างจิ๋วของมันสักหน่อย ด้วยข้อหาที่มันกล้ามาแตะผู้หญิงของเขา!
แต่หัสดินก็รู้ดีว่าเขาทำแบบนั้นไม่ได้ การพิพาทระหว่างเขากับกายวุธเรื่องแย่งตัวบัวหวานมามันจบแล้ว ถ้าขืนเขาดั้นไปหาเรื่องมัน ตัวเขาเองจะตกเป็นรอง และทุกอย่างที่ทนทำมาอาจจะพังไปหมด
ชายหนุ่มห่มผ้าให้บัวหวาน ก่อนจะลุกขึ้นถอดเสื้อเชิ้ตโยนลงตะกร้าผ้า แล้วหยิบเสื้อตัวใหม่ขึ้นมาสวม คราวนี้หัสดินเลือกใส่เสื้อโปโลสีขาวกับกางเกงยีนสีดำ เพราะเป็นวันหยุดนี่ เขาใส่สูทจนชิน ติดมาใส่วันหยุดด้วยทุกที
ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะเปิดเครื่องปรับอากาศทิ้งไว้ แล้วเดินไปเปิดประตูห้องนอน เขาเหลือบมองมาทางเตียงกว้างที่มีหญิงสาวกำลังนอนหลับสนิทอีกครั้งด้วยดวงตาที่ฉายถึงความรู้สึกยุ่งยากอีนุงตุงนังข้างในใจ
เธอไม่เหมาะจะอยู่ที่นี่...
แต่หัสดินก็รู้ว่าทุกอย่างมันสายเกินแก้แล้ว ตอนนี้บัวหวานเป็นผู้หญิงของเขา ที่ฉกชิงมาจากกายวุธ ต่อให้เขาส่งเธอไปอยู่ที่อื่น ก็ไม่ชัวร์ว่าบัวหวานจะปลอดภัยจากไอ้ไฮยีน่านั่น
กายวุธไม่ใช่พ่อค้ามนุษย์ปกติ
แต่มันเป็นพ่อค้าบ้าเลือดที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อความสะใจของตัวเองด้วย ถ้าหมอนั่นรู้ว่าผู้หญิงคนนี้เป็นจุดอ่อนของเขา บัวหวานอาจจะยิ่งตกอยู่ในอันตรายกว่าเดิม ไม่ว่าจะอยู่ที่นี่หรือที่ไหน
เขาต้องทำทุกอย่างให้รัดกุมยิ่งกว่าที่ผ่านมา
ปึ้ก...
เสียงหนักแน่นของประตูปิดลง ก่อนที่ชายหนุ่มจะต่อสายหาไม้อีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายรับสาย หัสดินก็ออกคำสั่งเสียงเรียบขรึม
“เตรียม ‘เสือ’ ไว้ให้กูหน่อย”
หัสดินไม่ได้เห็นว่าชายหนุ่มปลายสายกำลังเลิกคิ้วยิ้มๆ ไม้เป็นชายหน้าเหี้ยม ตัวใหญ่บึกบึน ผิวแทนเข้ม มีแผลเป็นตรงหางคิ้วขนาดใหญ่พาดไปถึงขมับ สวมชุดสูทสีเทาอ่อนๆ ดูยังไงก็แมนเต็มขั้น แต่เขากำลังเลือกชุดชั้นในสตรีอยู่ในห้างสรรพสินค้าอย่างละเมียดละไม ท่ามกลางสายตาหวาดกลัวของลูกค้าผู้หญิงทุกคนที่นั่น
“ได้ครับนาย”
ไม้ตอบ ก่อนที่สายจะตัดไป แล้วชายหนุ่มร่างใหญ่ก็หยิบบราเซียสีขาวนวลตัวหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะหันไปหาพนักงานที่ยืนหน้าซีดเซียวอยู่ใกล้ๆ
“น้อง เอาไซซ์นี้สิบตัวเป็นเซตกับกางเกงในไซซ์สามสิบหก ขอแบบน่ารักๆ นะ เฮียจะซื้อไปฝากเมีย”
พูดจบก็ขยิบตาส่งวิ้ง ทำเอาพนักงานสาวเพื่อนหญิงพลังหญิงถึงกับใจละลาย อ่อนระทวยกับผู้ชายหน้าเหมือนโจรแต่อ่อนโยนกับเมีย
“ได้ค่าคุณสุภาพบุรุษ สนใจรับชุดนี้ไปด้วยมั้ยคะ เป็นคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดเลยนะคะ เผื่อว่าคุณภรรยาจะชอบ”
ได้ทีเลยรีบขายของ และเมื่อไม้ได้เห็นชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่ที่ว่า เขาก็ถึงกับตาโตเป็นไข่ห่าน ก่อนจะครุ่นคิดว่าเจ้านายหน้าตายของเขาก็ผู้ชายเหมือนกัน เขาชอบ เจ้านายก็คงชอบละวะ
ไม้ดีดนิ้วยิ้มร่า นี่ถ้าเขาเป็นพนักงานบริษัท ก็คงได้เลื่อนขั้นคราวนี้นั่นแหละวะ
“เอามายี่สิบชุดคละทุกสีเลยน้อง!”
บัวหวานลืมตาตื่นหลังจากผล็อยหลับไปได้ไม่นาน ความรู้สึกปวดเมื่อยแปลบปลาบแล่นไปทั่วร่าง โดยเฉพาะตรงหน้าท้องมันเจ็บมาก คิ้วเรียวขมวดนิ่วอย่างงุนงง ก่อนที่เธอจะเลื่อนมือมาอังหน้าท้องไว้ และพบกับผิวเนื้อเจ็บแสบที่เปลือยเปล่า
เสื้อหายไปไหนนะ...
บัวหวานค่อยๆ ลืมตามองไปรอบๆ ก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดจะหวนกลับมาอย่างรวดเร็ว จนดวงตากลมโตเบิกกว้าง
“โอ๊ย!”
หญิงสาวร้องออกมาเมื่อเผลอลุกขึ้นกะทันหัน จนร่างกายที่บอบช้ำมันส่งสัญญาณเตือนด้วยความเจ็บปวดไปทั่วร่าง บัวหวานหยีตากุมท้องอยู่พักใหญ่ ก่อนจะมองไปรอบๆ ห้อง และพบว่าไม่มีใครอยู่ในนี้
เธอยกผ้าห่มขึ้นมองร่างกายส่วนล่าง จนเห็นว่าน้องน้อยยังสวมซับในไว้อย่างดี บัวหวานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ร่างบางค่อยๆ ขยับลุกขึ้นแล้วจับเสื้อสูทที่เธอนอนทับอยู่มาสวมปกปิดเรือนร่างตามสัญชาตญาณการระวังตัว
ก็ยังดีที่ไอ้แมงดานั่นไม่ทำอะไรแปลกๆ ตอนที่เธอไม่มีสติ...
คิดถึงเรื่องเลวร้ายที่เพิ่งได้เผชิญ บัวหวานก็หดขามากอดไว้แล้วซบหน้าลงกับเข่า เธอหน้าซีด ร่างกายค่อยๆ สั่นเทาอย่างไม่อาจห้าม ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอต้องมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ด้วย
โคตรแย่... นี่มันโคตรแย่เลย!
แค่คิด ก้อนสะอื้นก็พลุ่งมาจุกอยู่ตรงคอด้วยความหวาดกลัวชะตากรรมที่รออยู่ข้างหน้า หญิงสาวปล่อยตัวเองจมดิ่งอยู่กับอารมณ์อึดอัดหวาดกลัวอยู่พักใหญ่ ก่อนที่บัวหวานจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้มช้าๆ
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ มองไปรอบห้องจนมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ เธอก็ค่อยๆ ขยับตัวช้าๆ เพราะยังเจ็บแปลบตรงหน้าท้องไม่หาย
เท้าเรียววางลงบนพรมสีเทาข้างเตียงอย่างเงียบงัน ก่อนที่ร่างแน่งน้อยจะลุกขึ้นด้วยดวงตาเหมือนลูกกวางระวังภัย บัวหวานมองไปรอบๆ ห้องอย่างกังวลไม่หาย ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่น เธอสูดลมหายใจลึกๆ อีกครั้ง พยายามตั้งสติหาทางรอด
มัวแต่ร้องไห้ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นมา ต้องหนีออกไปก่อน ต้องแจ้งความ แล้วขอให้ตำรวจพากลับไปส่งบ้าน!