ตอนที่ 1 งานมงคลสมรส (2) จบ

1213 คำ
ผ่านการฉลองมงคลสมรสไปแล้วหนึ่งคืน เย็นวันนี้ก็เลยมีการจัดเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่ในบ้านเตชะธรรมรงค์สำหรับคนในครอบครัวรวมถึงมีตัวแถมอย่างอัศวเมฆินทร์เพื่อนสนิทของเพลิงกัลป์ที่ตั้งใจมารับแฟนสาวอย่างวารสากลับรีสอร์ตสถานที่ซึ่งเป็นที่ฝึกงานของนักศึกษาปริญญาตรีอย่างหล่อน เมื่อมาถึงแล้วอัศวเมฆินทร์ก็ถูกเชิญชวนให้มาร่วมโต๊ะอาหารอย่างเป็นกันเอง ผู้ใหญ่ทั้งสามเป็นผู้ผูกขาดบทสนทนาซะส่วนใหญ่ คนอื่นมีหน้าที่ฟังเงียบๆ แล้วตอบคำถามบ้างในบางครั้ง บนโต๊ะนั้นสองสามีภรรยาคู่ใหม่ปลามันนั่งข้างกันตั้งแต่เริ่มต้นทว่าไม่ได้พูดอะไรด้วยกันเลย อาจจะเพราะยังไม่เคยชินไม่รู้จะพูดอะไรดีก็เป็นไปได้แต่จะมีบ้างที่ใจตรงกันตักอาหารจานเดียวกัน เพลิงกัลป์สามารถรักษามาดแมนต่อหน้าผู้ใหญ่ได้คือเขามักจะตักอาหารจานนั้นๆ ให้ภรรยาเสมอ หลังจบมื้ออาหารและจบการสนทนาของผู้ใหญ่วารยาเดินไปส่งน้องสาวที่รถยนต์ของอัศวเมฆินทร์ด้านหน้าบ้านเตชะธรรมรงค์ “สา พี่ถามอะไรหน่อยสิ” “ได้ค่ะ” “อย่าหาว่าพี่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเลยนะแต่ที่ถามเพราะพี่เป็นห่วง เอ่อ... สากับคุณเมฆคบกันอยู่ในขั้นไหนอะไรยังไงแล้วเหรอจ๊ะ” “ทำไมจู่ๆ พี่วาถึงถามสาอย่างนี้ล่ะคะ” “พี่แค่อยากรู้เท่านั้นเองจ้ะไม่มีอะไรมาก แต่พี่ก็ยังแอบหวังว่าสาคงจะจำคำที่พี่สอนได้นะ” ถามไปก็หวั่นใจไปกลัวได้คำตอบที่ตรงกันข้าม วารสาลังเลไม่กล้าพูดถึงเรื่องนี้แต่ก็จำเป็นต้องตอบ “สาจำได้ค่ะ สาคบกันคุณเมฆมาเกือบสองปีแล้วแต่รู้ตัวว่ายังเด็กมากห่างกับคุณเมฆก็ตั้งหลายปี สาไม่กล้าปล่อยตัวหรอกค่ะกลัวเขาทิ้งแล้วสาจะเสียใจ” “ได้ยินแบบนี้พี่ค่อยโล่งใจหน่อย” ยิ้มหวานโอบน้องสาวพาไปยังหน้าบ้านที่อัศวเมฆินทร์นำรถยุโรปคันงามมาจอดรอรับแล้ว เขายืนพิงประตูรถมองมาทางนี้พอดี วารยาจึงส่งยิ้มให้ “วาฝากคุณเมฆดูแลยัยสาด้วยนะคะ” “ยินดีรับฝากครับ” “ฝากสาไว้กับเขาทำไมคะพี่วา สาโตแล้วดูแลตัวเองได้” วารสาแย้งเสียงเขียวลอยหน้าลอยตาไม่ยอมสบตาแฟนหนุ่ม พนมมือไหว้พี่สาวแล้ววิ่งเร็วไปนั่งรอในรถยนต์ “คุณเมฆอย่าถือสายัยสาเลยนะคะ ยัยสายังเด็กมากคิดอะไรก็พูดไปอย่างนั้นแต่ก็จะมีบางทีที่แกล้งพูดอย่างทั้งที่ในใจกำลังคิดอีกอย่าง” ขบขันที่ได้เผาน้องสาวจอมดื้อซึ่งในสายตาของหล่อนมองเห็นวารสาเป็นแค่น้องสาวตัวเล็กที่พี่สาวต้องกางปีกปกป้อง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วเพราะน้องน้อยของหล่อนโตเป็นสาวมีคนรู้ใจที่ดีและคู่ควรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ผมไม่ถือสาฝีปากของเด็กดื้อหรอกครับคุณวา ยินดีรับฟังไปตลอดชีวิตเลยก็ว่าได้” อัศวเมฆินทร์ยิ้มกว้างให้คำมั่นสัญญากับพี่สาวของหญิงคนรัก “สาเลี่ยนจะแย่แล้วทำเป็นพูดดี” “ยัยสา เสียมารยาท” “พี่วา!” คนถูกเอ็ดทำหน้ามุ่ยก่อนจะกดเลื่อนกระจกขึ้นตามเดิมไม่แอบฟังไม่พูดแทรกตอนผู้ใหญ่คุยกันอีก วารยากับอัศวเมฆินทร์นั้นถึงกับหลุดเสียงหัวเราะออกมาด้วยความขบขันความซนของวารสา “สองทุ่มกว่าแล้วเชิญคุณเมฆกลับบ้านเถอะค่ะ วาฝากให้ไปส่งยัยสาด้วยนะคะ” “ได้ครับคุณวา” อัศวเมฆินทร์ขานรับแล้วขึ้นรถสตาร์ทขับออกไปจากรั้วบ้านเตชะธรรมรงค์ ทางด้านวารยานั้นยืนมองกระทั่งรถยนต์คันหรูขับเคลื่อนออกไปถึงได้เดินต่อไปยังเรือนหอของตัวเองที่สร้างในรั้วบ้านเตชะธรรมรงค์ทว่าถูกปลูกขึ้นมาใหม่สำหรับหล่อนกับสามี หล่อนรู้สึกเหนื่อยมาทั้งวันเลยเดินตรงไปยังห้องนอนแล้วก็ต้องตกใจที่เห็นว่าบนเตียงนั้นมีใครนอนครอบครองอยู่แล้ว ใครคนนั้นคือสามีของหล่อนเอง! หล่อนตกใจรีบรุดกายเข้าไปดึงข้อมือหนักอึ้งปานหินผาให้ลุกขึ้นจากเตียงนอนส่วนตัว “คุณเพลิงลุกขึ้นเดี๋ยวนี้นี่มันห้องนอนของวานะคะ คุณไปนอนห้องเดิมสิมานอนห้องวาทำไม อย่ามาแย่งเตียงนอนของวานะคนบ้า ฮึบ...” หญิงสาวออกแรงดึงแต่ไม่ว่าจะดึงแค่ไหนเขาก็ไม่ขยับไปไหนสักทีก่อนนัยน์ตาคู่คมจะตวัดมองมาเขียวขุ่น วารยาตกใจรีบปล่อยมือเขาทันที “ไม่ใช่วัวไม่ใช่ควาย ลากถูกไถอยู่ได้” ชายหนุ่มบ่นอุบแล้วตั้งท่าจะไปเฝ้าพระอินทร์ต่อ เขานำมือตัวเองกลับมาซุกไว้ใต้ผ้าห่มปิดเปลือกตาลงตามเดิมก่อนบ่นขมุบขมิบพอให้ภรรยาได้ยิน “ถ้าอยากรู้นักก็ไปดูห้องนอนในบ้านหลังนี้สิว่านอกจากห้องนี้แล้วมีห้องไหนที่ไม่ถูกใส่กุญแจปิดตายบ้าง” ห้องนอนอื่นถูกปิดตาย! วารยาเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนมานึกได้ว่ามิน่าล่ะวันนี้คุณย่าถึงกักตัวหล่อนกับเขาไว้ที่บ้านใหญ่นักที่แท้ก็เป็นแผนการของท่านนั่นเอง “มิน่าล่ะ” “มิน่าล่ะอะไรฮะวา เดี๋ยวเถอะเดี๋ยวก็โดนดี” ลืมตาขึ้นมามองแล้วอดส่ายศีรษะไม่ได้ที่เห็นภรรยาอมยิ้มมุมปากคล้ายจะสมน้ำหน้าเขายังไงก็ไม่รู้ เพลิงกัลป์ขี้เกียจจะเถียงด้วยเลยขยับไปนอนให้เป็นฝั่งเผื่อว่าวารยาอาบน้ำเสร็จแล้วจะมานอนด้วยกัน ทว่ารอแล้วรอเล่าจนเคลิ้มหลับได้สองรอบเตียงนอนข้างๆ ก็ไม่ยวบลงสักทีหันไปมองประตูห้องน้ำก็ไม่เห็นแสงไฟบอกให้รู้ไม่มีคนอยู่ในนั้น เขาผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียงมองไปรอบห้องก็เห็นร่างกายบอบบางของภรรยานอนขดอยู่บนโซฟาตัวเล็กบนกายมีผ้าห่มบางผืนเดียว เขาส่ายศีรษะเชื่องช้าไม่เข้าใจความคิดหล่อนเอาซะเลย “อืม...” เสียงหวานครางแผ่วเบายามถูกมือหนาช้อนกายอุ้มขึ้นพาไปนอนบนเตียง “ครางแผ่วเป็นลูกแมวเชียว นอนไปยัยจอมจุ้น” บ่นพลางจัดแจงท่านอนให้หล่อนได้นอนสบายก่อนล้มตัวนอนเคียงข้าง หากจะว่าไปตามตรงแล้ววารยาก็หน้าตาดีใช้ได้ การแต่งงานครั้งนี้อาจไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออย่างที่คาดคิดไว้ก็ได้ อย่างที่คนโบราณว่าไว้ว่าแต่งๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง เพลิงกัลป์ตั้งใจจะเปิดใจรับวารยาเข้ามาในชีวิตก่อนที่เขาจะพยายามข่มตาข่มใจไม่ยุ่งย่ามกับร่างกายหล่อนอย่างที่มารในกายปลุกเร้า ...................... ติดตามตอน 2 ในหน้าถัดไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม