บทที่๒/๑

1123 คำ
แจ่มจันทร์ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงทำเสียงฟึดฟัดอย่างไม่พอใจ ยิ่งมองเห็นแม่กำลังถอดปลั๊กพัดลมออกจากเต้าเสียบแล้วม้วนสายไฟ หญิงสาวยิ่งออกอาการไม่พอใจทำเสียงจิ๊กจั๊กจนแม่หันมาเอ็ดเอา “ทำฮึดฮัดน่าเกลียดนะจันทร์” “ก็เรื่องอะไรแม่จะเอาพัดลมไปให้มันล่ะ” “ก็เด็กมันร้อน” “ฉันก็ร้อนเป็นนะ แม่ก็” แจ่มจันทร์ทำเสียงกระเง้ากระงอด จึงถูกเอ็ดเอาอีกครั้ง “นังจันทร์ ใช้สมองคิดเสียบ้างสิ ลูกแม่ก้อยนะหลานป้าบัวนะ คิดดูว่าหลานในไส้กับหลานนอกไส้อย่างแกใครจะมาก่อนกัน” นางสำรวยปรามและเตือนสติลูกสาว ก่อนหิ้วพัดลมตั้งโต๊ะตัวเก่าๆ เพื่อเอาไปให้กณิศาแต่แจ่มจันทร์เข้ามาแย่ง “ฉันเอาไปให้มันเองแม่” “เอาไปให้แล้วอย่าพูดอะไรมากล่ะยิ่งปากเสียอยู่ด้วยแกน่ะ ไม่ดีกว่าแม่เอาไปเอง” นางสำรวยไม่ยอมวางมือแต่แจ่มจันทร์ก็ยื้อไม่ยอมปล่อยเช่นกัน “ปล่อยมาแม่ ฉันเอาไปเอง รับรองไม่พูดมากหรอก แม่ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงรับแขกมาทั้งวัน อาบน้ำนอนดีกว่า” แจ่มจันทร์ยังยืนกรานและแย่งพัดลมมาจนได้ แล้วรีบหิ้วออกไปนอกห้องทันที นางสำรวยมองตามแล้วถอนใจเหนื่อยหน่าย ทั้งเหนื่อยกายกับงานและเหนื่อยใจในอุปนิสัยใจคอของลูก แต่ถึงอย่างไรแจ่มจันทร์ก็เป็นลูกต่อให้เอาแต่ใจกว่านี้ นิสัยเสียกว่านี้นางก็รัก ขนาดสายบัวพี่สาวของตนถึงมีลูกไม่รักดีเช่นกณิศานางสายบัวก็ยังรัก และรอวันกลับมาบ้านของลูกสาวอยู่วันยังค่ำ แจ่มจันทร์ถือวิสาสะผลักบานประตูเข้าไปโดยไม่ส่งสัญญาณบอกกล่าวคนด้านใน แม้กณิศาจะหันมามองด้วยสายตาตำหนิเธอก็ไม่สน ซ้ำยังพูดแก้ตัวหน้าตาเฉย “มือไม่ว่าง เอานี่” หญิงสาววางพัดลมลงบนพื้นใกล้ประตูนั่นเอง แล้วถอยไปยืนกอดอกพิงขอบประตูมองกณิศาที่รีบเดินมาหิ้วพัดลมไปเปิดให้เด็กน้อยบนเตียงทันที แจ่มจันทร์แบะปากสมเพชกณิศาที่ทำเหมือนถ้าเธอเอาพัดลมมาให้ช้า เด็กมารหัวขนที่นอนหลับอยู่นั้นจะตายเพราะอากาศร้อนเสียในไม่กี่วินาทีข้างหน้า “แกไปอยู่ที่ไหนมา ก้อย” แจ่มจันทร์ละคำว่านังเช่นที่อยากเรียกเอาไว้เมื่ออยากรู้เรื่องราวของกณิศาให้มากกว่าการหนีหายไปพร้อมกับเทวัญคนรักของกนกกร ตลอดเวลาที่กณิศาไม่ส่งข่าวคราวกลับมาบ้านเลยนั้น ชาวบ้านร้านตลาดต่างโจษจันกันไปทุกหัวระแหง ไม่ว่าคนในบ้านนี้จะย่างก้าวไปที่แห่งใดต่างถูกมองอย่างดูหมิ่นดูแคลนแล้วหันไปซุบซิบนินทา ซึ่งเวลานั้นเธอและแม่ย้ายเข้ามาอยู่บ้านนี้อย่างถาวรแล้วจึงตกเป็นเป้าสายตาและขี้ปากชาวบ้านไปด้วย เธอจึงเพิ่มความชิงชังที่มีต่อกณิศามากขึ้นตามลำดับ แจ่มจันทร์ไม่ชอบสองพี่น้องเพราะตนเองด้อยกว่าในทุกเรื่อง ทั้งครอบครัวที่แตกแยกกำพร้าพ่อที่ทิ้งไปตั้งแต่ตัวเล็กๆ จนเธอจำหน้าไม่ได้ ในขณะที่ครอบครัวของกณิศานั้นอบอุ่น แม่พามาขอเงินป้าสายบัวใช้ทีไรก็เห็นแต่รอยยิ้มแจ่มใสและเสียงหัวเราะเป็นสุขของคนในครอบครัวนี้ พอโตขึ้นมารูปร่างหน้าตาของสองคนพี่น้องก็สวยเด่นชัดทิ้งห่างจากเธอที่หน้าตาธรรมดาไปหลายขุมยิ่งเพิ่มความริษยาให้เป็นหลายเท่านัก แม้วันหนึ่งกณิศาจะทำเรื่องงามหน้ามีข่าวฉาวโฉ่และทำให้หนุ่มๆ ในหมู่บ้านอกหักไปตามๆ กัน เธอยิ่งเพิ่มความเกลียดชังเพราะมันบอกให้รู้ว่ากณิศาเป็นที่หมายตาของชายหนุ่มมากมายขนาดไหน แล้ววันนี้ที่กณิศามาปรากฎตัวในวัดทุกสายตาต่างมองเป็นตาเดียว ในดวงตาของผู้ชายนั้นยังแฝงไปด้วยความชื่นชม ก็ใช่นะสิกณิศายิ่งมีลูกยิ่งดูสวยเปล่งปลั่งกว่าตอนแรกสาวเป็นไหนๆ “เมืองนอก” เสียงตอบสั้นๆ ของกณิศาเพิ่มรอยยิ้มเหยียดบนใบหน้าแจ่มจันทร์ หญิงสาวหัวเราะเสียงแหลมอย่างขบขันจนเด็กหญิงน้อยๆ ที่นอนหลับสนิทสะดุ้งผวา กณิศารีบวางมือบนอกลูกปลอบเบาๆ แล้วหันไปมองเจ้าของเสียงแหลมอย่างติเตียน บอกให้รู้ว่าเธอไม่พอใจและไม่สมควรส่งเสียงดัง แต่แจ่มจันทร์ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ซักถามต่อ “เมืองนอกหรือบ้านนอกกันแน่ อย่างไอ้เทวัญนั่นนะมีปัญญาพาแกไปอยู่เมืองนอก จะตอแหลอะไรก็ให้มันสมเหตุสมผลหน่อย ชิ” แจ่มจันทร์เชิดหน้าใส่ก่อนเดินออกจากห้อง กณิศาส่ายหน้าระอารู้ว่าลูกพี่ลูกน้องสาวคงไม่เชื่อและต้องเอาไปขยายต่อตามนิสัย แต่เธอไม่วิตกหรือทุกข์ใจว่าจะเสียหายเสียชื่อไปตามลมปากของแจ่มจันทร์ เพราะไม่มีอะไรให้เสียอีกแล้ว มันป่นปี้ไปด้วยมือเธอเองเสียตั้งแต่วันที่ด่วนตัดสินใจหนีหน้าทุกคนแล้ว เวลานี้จะกลับมายกเหตุผลกล่าวอ้างอย่างไรก็คงหาคนเชื่อยาก กณิศาเดินมาหับประตูและอดไม่ได้ที่จะมองไปยังประตูห้องนอนของแม่ เธอจะทำอย่างไรให้แม่ยกโทษให้โดยไม่กระทบกับคนอื่น ที่ไม่อยากเอ่ยถึง สีหน้าและแววตาที่แม่มองเธอนั้นห่างเหินจนน่าใจหาย แต่คงต้องให้เวลาท่านบ้าง ท่านกำลังพบกับความสูญเสียที่รวดเร็วเกินจะคาดถึง ใครจะคิดว่าคนผมขาวจะต้องมาส่งศพคนผมดำ ใครจะคิดว่าแม่ต้องจัดงานศพให้ลูกในไส้ ตัวเธอเองที่เป็นน้องสาวยังตกใจและอดใจหายไม่ได้เมื่อรู้ข่าว ถึงแม้ว่ากนกกรจะไม่ได้เป็นพี่ที่ดีสำหรับน้องอย่างเธอก็ตามที “ไปสู่สุคติเถิดนะพี่เกด ก้อยอโหสิกรรมให้” แต่พอจะปิดประตูห้องเธอก็นึกได้ว่ายังไม่ได้ยกกระเป๋าขึ้นมา กณิศารีบออกจากห้องลงไปชั้นล่างอีกครั้ง และทันทีนั้นเองประตูห้องของนางสายบัวก็ค่อยๆ เปิด เจ้าของห้องเยี่ยมหน้าออกมาเห็นหลังกณิศาเดินไปทางบันได นางสายบัวจึงออกจากห้องเดินตามมาช้าๆ เมื่อเห็นว่ากณิษาลงบันไดไปชั้นล่าง นางจึงเดินย้อนกลับมาหยุดตรงหน้าห้องนิ่งเหมือนตริตรองอยู่อึดใจหนึ่ง ก่อนจะผลักประตูเข้าไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม