#วันจันทร์สีชมพู 10
(ใคร? นี่มีคนมาจีบใช่ไหม! บอกร้านมาเลยนะ จะตามไปบอกมาเลย)
“อันนี้เวอร์เกินไปแล้วเธิร์ส”
(ไม่รู้แหละ ส่งโลเคชันมาด้วย จะตามไป ไม่พักมันแล้ว จะไปดูหน้าใครมันมาจีบพี่สาว)
“เขาไม่ได้จีบ เธิร์สฟัง อ้าว วางไปแล้ว อาเธิร์สจะมากินข้าวด้วยนะครับ” ท้ายประโยคก้มหน้าบอกหลานทั้งสองคน
“เย้!!”
“แฟนเหรอครับ” คุณหมอที่เงียบมาสักพักเอ่ยถาม น้ำเสียงติดกังวลใจนั่นจึงทำให้ฉันไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป
“รอถามเองดีกว่าค่ะ” ฉันบอกคุณหมอและไม่ได้พูดอะไรชัดเจน
“ครับ” คุณหมอเงียบไป สองแฝดนั่งคุยกันไม่หยุด เพราะตื่นเต้นที่อาเธิร์สจะเข้ามาหา คืนนี้คาดว่าสองแสบน่าจะนอนกับอาเธิร์สแน่ ๆ ถ้าน้องค้างกับฉันและหลานนะ
“ถึงแล้วครับ” คุณหมอจอดรถที่ลานจอดรถของร้านอาหารร้านหนึ่งใกล้กับคอนโด จอดรถนิ่งแล้วก็หันมาบอกฉันด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” เมื่อเราเข้ามานั่งที่ร้านและสั่งอาหาร คุณหมอก็นิ่งจนแปลกไปอย่างชัดเจน แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจอะไรหรอกนะ แต่เขาเงียบอ่ะ ไม่ได้ชวนคุยเหมือนแรก ๆ ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ถึงได้เงียบแบบนั้น
“คิดอยู่ครับ ถ้าคนนั้นเป็นแฟนคุณผมจะทำยังไง”
“คะ? ถ้าเป็นแฟนแล้วยังไงคะ ทำไมต้องทำ...”
“ก็ผมชอบคุณ”
“ชอบใครนะครับ?” เสียงทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของเธิร์สเดย์ที่นั่งลงข้าง ๆ ฉัน สองหลานดีใจที่เจออาเธิร์ส แต่คุณหมอมองเธิร์สด้วยสายตาที่แปลกไป เหมือนกำลังชั่งใจคิด
“ว่าไงครับ ชอบใคร แล้วคุณเป็นใครทำไมมากับมันเดย์ได้”
“ผมชื่อพิงก์ครับ คุณ...”
“เธิร์สเดย์ครับ รู้จักกับมันเดย์ได้ยังไงครับ”
“ผมเปิดคลินิกข้าง ๆ ร้านมันเดย์ครับ แล้วก็อยู่ห้องข้างกัน เมื่อเช้ารถผมเสียเลยขอติดรถมาพร้อมกับมันเดย์...” คุณหมอเล่าอย่างเปิดเผย แต่ดูเหมือนจะยังไม่เคลียร์ข้อข้องใจของน้องชายฉัน และยังไม่ทันจะได้คุยกันรู้เรื่อง เธิร์สก็บอกให้ฉันไปสั่งเครื่องดื่มให้เจ้าตัว จะเรียกพนักงานมาก็ได้แต่เธิร์สบอกเกรงใจ ฉันเลยต้องเดินไปบอกพนักงานที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์ และถือโอกาสสั่งปีกไก่ทอดมาเพิ่มด้วย ของโปรดพวกเราเลยล่ะ
“ขอสั่งเครื่องดื่มเพิ่มค่ะ แล้วก็ปีกไก่ทอดอีกสองที่”
“ได้ค่ะ โต๊ะ12 ใช่ไหมคะ”
“ใช่ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
“คุยอะไรกันหน้าเครียดเชียว” ฉันเอ่ยถามผู้เป็นน้องชายเมื่อเดินเข้าไปใกล้โต๊ะแล้วพบว่าผู้ใหญ่ทั้งสองทำหน้าตาเคร่งเครียดกันอยู่ ส่วนสองแสบนั่งแย่งน้ำหวานกันอยู่ ไม่สิ แบ่งกันชิมน้ำในแก้วทั้งที่ในแก้วก็เป็นน้ำส้มทั้งสองแก้ว
“ไม่มีอะไรหรอก นั่งได้แล้วได้สั่งไก่ทอดมาให้ไหม”
“สั่งแล้ว” ซีนั่งข้างเธิร์สส่วนซีนนั่งข้างฉัน โดยที่อีกด้านของโต๊ะเป็นคุณหมอที่นั่งอยู่ พอเริ่มกินข้าวคุณหมอก็ตักกับข้าวมาใส่จานให้ฉันสลับกับตักใส่จานให้ซอลที่นั่งอยู่ใกล้
ฉันดูเด็ก ๆ กินข้าวโดยมีคุณหมอและเธิร์สคุยกันเรื่องกีฬา แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ฉันไม่ค่อยเข้าใจมากนัก จึงเงียบและปล่อยให้พวกเขาคุยกันไป แอบสงสัยอยู่เล็กน้อยที่พวกเขาคุยกันได้อย่างไม่มีปัญหาทั้งที่ก่อนหน้านี้สักยี่สิบนาทียังดูเหมือนจะไม่ถูกกันเลย ความคิดผู้ชายเองก็คงแปลกไม่ต่างจากความคิดผู้หญิงหรอก
“ขับรถอะไรมา” หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันถามน้องชายที่เดินตามหลังมาไม่ห่าง โดยที่เจ้าตัวยังอุ้มซีนอยู่ ส่วนซีจับมือคุณหมอเดินอยู่เคียงข้างกัน
“มอเตอร์ไซค์ วันนี้ไม่ได้ไปนอนด้วยนะ พรุ่งนี้มีนัดตั้งแต่เช้าอ่ะ มันไกล”
“ได้” ฉันรู้ว่าน้องชายมีซ้อมตอนเช้า
“กลับดี ๆ ล่ะ”
“ถึงห้องแล้วโทรมาบอกด้วย ส่งข้อความก็ได้ ฝากดูพี่สาวผมด้วยนะครับคุณหมอ” เธิร์สย้ำกับคุณหมอในช่วงท้ายประโยค
“ได้ครับ กลับเลยไหม? เด็ก ๆ น่าจะง่วงกันแล้ว” คุณหมอเอ่ยชวน
“ไปละนะ”
“ครับ” เธิร์สปิดประตูรถให้ และยืนรอกระทั่งรถพวกฉันเคลื่อนตัวออกจากที่จอด
“คุยอะไรกับเธิร์สคะ?”
“เปล่าหรอกครับ” คุณหมอยังคงปฏิเสธ
“คุณหมอคะ”
“ผู้ชายคุยกันน่ะครับ ไม่มีอะไรหรอก หลานหลับแล้วหรือเปล่าน่ะ” เขาเปลี่ยนเรื่องคุย และแน่นอนว่าถ้าเขาไม่อยากคุยฉันก็จะไม่คุย ซอลหลับไปแล้วล่ะ ซีก็เอนมาหนุนตักฉันพร้อมเคลิ้มหลับ
“ง่วงแล้วเหรอลูก” ก้มหน้าถามหลานชาย
“ง่วง”
“งั้นหนูนอนนะลูก”
“ครับ” หลานทั้งสองหลับไปแล้ว ใช้เวลาไม่นานก็ถึงคอนโด ฉันสะพายกระเป๋าใบเล็กของหลานไว้ที่ไหล่ คุณหมอเข้ามาอุ้มซีไว้ช่วยส่วนซีนฉันเป็นคนอุ้มเอง เมื่อถึงหน้าห้องฉันเปิดประตูห้องก่อนจะรีบพาหลานไปวางบนเตียงและรีบออกมารับซีจากคุณหมอเมื่อจัดแจงพาหลานนอนบนเตียงเสร็จก็เอ่ยขอบคุณคุณหมอที่ช่วยอุ้มหลานเข้ามาส่งจนถึงห้องพัก
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยอุ้มหลานขึ้นมาให้”
“ไม่เป็นไร ขอบคุณที่วันนี้ให้ผมติดรถไปด้วยนะครับ”
“ก็ค่ะ แปลกดีที่ไว้ใจให้คุณไปด้วย”
“ครับ แต่ผมดีใจที่คุณยอมให้ไปด้วยนะ ยังไงคืนนี้ก็รีบอาบน้ำแล้วนอนพักนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ฝันดีนะครับ”
“ฝันดีค่ะคุณหมอ”