"ทานเยอะๆสิผมว่าหนูผอมมากเลยนะ"
เขาเอ่ยยิ้มๆแล้วก็ตักกับข้าวมาใส่จานให้ฉัน ฮือออ ดีต่อใจตื้นตันจนน้ำตาพานจะไหล ทำไมเขาถึงดีกับฉันแบบนี้ ดูสิรับมาด้วยพามาทานข้าวอีก จะไม่ให้ฉันมโนไปเองได้ยังไงหรือว่าเขาอาจจะแค่สงสารพนักงานรึเปล่า คงงั้น
"แต่เจ๊บิวบอกว่าหนูเริ่มอ้วนแล้วนะ"
"หืม นี่อ้วนแล้วเหรอ หึ"
ฉันยิ้มแห้งๆก่อนจะทานข้าวต่อ อ้วนสิสูง165 น้ำหนัก50 อ้วนนะ เจ๊บิวก็บอกถ้าแกกินเยอะกว่านี้อีกนิดได้กลายเป็นหมูแล้วก็จะไม่สวยเหมือนเจ๊ หลังจากนั้นฉันก็ไม่กินจุกจิกอีกเลยกลัวอ้วน ฮ่าๆๆ
"อ้วนสิค่ะท่านประธานไม่เข้าใจผู้หญิงหรอก พุงยื่นนิดหนึ่งก็เครียดแล้ว"
"นั้นสินะ ฮ่าๆๆ เรานี่คุยเก่งดีนะอิงฟ้า ผมชอบนะผู้หญิงคุยเก่ง"
ไม่พูดเปล่าแต่ยังมองหน้าฉันแล้วยิ้มกริ่มจนฉันเนี้ยแหละที่ทนไม่ได้ต้องเบือนหน้าหลบสายตาของเขา โอ๊ยยย อย่ามโนๆๆๆ เขาจะมาชอบคนแบบแกได้ยังไงยัยอิงฟ้า ท่องไว้ๆ เจ้านาย เจ้านาย เจ้านาย เจ้านาย อร๊ายยยยยย เจ้านาย!!!!!!!
"แหะๆ ท่านประธานไม่ค่อยทานเลยนะคะ"
"เห็นหนูทานผมก็อิ่มละ"
งื้อออ ตายไปเลยช็อตนี้ไม่นะ!!! เขาเป็นเจ้านาย ท่องไว้ลูก ท่องไว้ เจ้านายจ้าาา
"ทานบ้างสิคะตักให้แต่หนูเนี้ย ถ้าหนูอ้วนแล้วไม่สวยท่านประธานจะรับผิดชอบมั้ยคะ"
ฉันพูดติดตลกไม่ได้จริงจังในคำพูดแต่เฟมือนคนตรงหน้าจะไม่ตลกด้วยนะ
"อยากให้รับผิดชอบมั้ยละ"
"งื้อออ นะ..หนูล้อเล่นเอง แหะๆ"
"ฮ่าๆ เรานี่ตลกจัง ว่าแต่เจ๊บิวของหนูนี่ใครเหรอเห็นพูดถึงบ่อยๆ"
เขาทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแล้วก็ถามอารมณ์ชวนคุยมากกว่า
"อ่อ พี่ที่หนูเคารพนะคะ คือว่าหนูอยู่ตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องเลย ตั้งแต่ม.ปลายแล้วตอนนั้นแม่หนูเสียประจวบกับพ่อแม่เจ๊บิวไปมอบทุนการศึกษาให้แล้วเห็นว่าหนูไม่มีใครก็เลยรับหนูมาดูแลนะคะ เขาเป็นผู้มีพระคุณแต่เจ๊บิวจะบอกว่าหนูเป็นเพื่อน เธอบอกไม่งั้นจะดูแก่ ฮ่าๆๆ"
นึกถึงตอนนั้นฉันว่าฉันก็โชคดีนะ พวกท่านช่วยส่งฉันเรียนจนจบม.ปลาย ตอนเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็เลยอยากจะพยายามทำงานหาเงินเรียนเองไม่อยากรบกวนพวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพึยวแต่ถ้าลำบากต้องบอก คอนโดก็ผ่อนของเจ๊บิวขายให้ห้องหนึ่ง รถก็เพิ่งซื้อตอนทำงานที่บริษัท BEM เนี้ยแหละ นึกถึงก็ยังคิดว่าฉันโตมาได้ยังไงเหมือนกัน
"ยิ้มอะไรคะเนี้ย ชีวิตหนูไม่ได้สวยหรูเลยน้า ถ้าไม่โชคดีไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงเหมือนกัน คงได้ไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่งั้นก็คง.."
นึกถึงตอนนั้นถ้าฉันไม่เจอครอบครัวเจ๊บิวไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน ไม่อยากจะคิดให้ปวดหัวเลย
"หนูเก่งนะ"
"ใครๆก็บอกแบบนี้เลยค่ะ พอแล้วๆหนูไม่น่าเล่าเรื่องชวนปวดหัวให้ท่านฟังเลย เปลี่ยนเรื่องดีกว่าค่ะ"
ฉันไม่อยากให้ใครมาสงสารฉันหรอก ยังมีคนอีกตั้งมากมายที่น่าสงสารกว่าฉันอีกเยอะ เพราะฉะนั้นถือว่าชีวิตฉันโชคดีที่สุดแล้ว
"ไม่เห็นน่าปวดหัวตรงไหน น่าสนใจออกไว้มาเล่าให้ฟังอีกนะ ผมชอบสนุกดี"
ใจเต้นอีกแล้ว ฮือออ ทำไม้องมาพูดจาหวานหยอดด้วย หรือว่าเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่สิพวกทีมงานเขาบอกว่าท่านประธานค่อนข้างจริงจังกับชีวิตไม่มาไร้สาระอะไรแบบนี้หรอกแต่เท่าที่เห็นมันย้อนแย้งจัง ฉันว่าท่านดูใจดี คุยเก่ง หล่อด้วย
"หนูอิ่มแล้วค่ะ"
"อืม งั้นไปเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านนะ หรือว่าพักอยู่ที่ไหน"
"คอนโด B ค่ะซอย2"
"อ่อ โอเค"
เราสองคนลุกขึ้นไปขึ้นรถส่วนค่าใช้จ่ายลูกน้องมาเคลียร์ให้หมด เออดีอ่ะไม่ต้องถือเงินเองมีคนจัดการให้หมดเลย สบายจังชาตินี้หรือชาติไหนฉันจะมีโอกาสแบบนี้มั้ย
"อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ"
"อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ"
ผมถามเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็แค่อยากให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มีใครอยู่ ไม่รู้สิผมอยากรู้ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากรู้
"หนูอยู่คนเดียวค่ะ"
ผมลอบถอนหายใจออกมาแต่ว่าถ้าเธอมีแฟนไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันใช่มั้ย หรือว่าเธอจะมีแฟนแล้วแต่แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หน้าตาก็สวยไม่ได้ขี้เหร่น่าจะไม่รอดแล้วมั่ง หรือผมควรถามดี
"เอ่อ คือว่า"
"คะ..ท่านประธานมีอะไรจะถามคะถามได้เลยหนูตอบได้"
ผมหลุดยิ้มออกมาทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของคนตรงหน้า น่ารักจริงๆเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ทำไมผมรู้สึกถูกชะตาและสนใจเธอแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน
"มีแฟนยังเราอ่ะ"
"ห๊ะ อะ..อะไรนะคะ"
เธอถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองก่อนจะทำท่าแคะขี้หูแล้วถามอีกรอบ
"เมื่อกี้ท่านประธานถามว่า..."
"เอ่อ ช่างมันเถอะ"
ผมหันหน้าไปอีกทางแล้วถอนหายใจออกมา ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กหนุ่มกำลังตามจีบสาวน้อยวะ รู้สึกแปลกๆกับตัวเองจริงๆคนอย่างผมเคยจีบใครที่ไหนยืนอยู่เฉยๆผู้หญิงก็วิ่งเข้าใส่ แต่ตอนนี้กำลังทำตัวไม่ถูกต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่คุยกับผมปกติต่างจากคนอื่นที่มีโอกาสแบบนี้ต้องพยายามเข้าหาผมแล้ว เธอเลยเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครยังไงหละ
"หนูยังโสดค่ะไม่เคยมีแฟน แหะๆ คือทำแต่งานจบมาก็ทำงานกลัวตัวเองไม่มีเงินจะลำบากก็เลยไม่เคยคบใครเลย อีกอย่างหนูกลัวคนอื่นจะมาลำบากกับหนูไม่เอาหรอก ฮ่าๆๆ พูดซะยาวเลย อ๊ะถึงแล้วค่ะคอนโดหนูอยู่ตรงนั้น"
เสียงเล็กชี้นิ้วไปยังคอนโดเบื้องหน้า รถเทียบจอดหน้าประตูทางเข้าเธอหันมามองหน้าผมแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ
"ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะท่านประธาน ไว้มีโอกาสหนูจะตอบแทนนะคะ ขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนด้วยนะคะที่ขับรถมาส่งไปแล้วค่ะ"
"โชคดีนะ ไว้เจอกันอิงฟ้า"
คนตัวเล็กโบกมือบ๊ายบายก่อนจะลงจากรถไปโดยมีผู้ช่วยผมลงไปเปิดประตูให้ มารยาทดีสุดๆไหว้ผมไม่พอไหว้ผู้ช่วยผมอีก ผมมองตามเธอไปจนเธอลับสายตาผมมองผู้ช่วยผมผ่านกระจกพวกเขายกยิ้มมุปากมองหน้าผม
"ป๋าดูมีความสุขนะครับเวลาอยู่กับคุณอิงฟ้า"
"นั้นสิครับ ผมไม่เห็นป๋ายิ้มแบบสบายใจแบบนี้มานานแล้ว"
ผมเงียบไปแล้วคิดตามคำพูดของลูกน้องผม นั้นสินานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ยิ้มแบบนี้ แปลกจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มไม่หยุดเลยคือผมรู้ว่าเธอยังไม่เคยมีแฟนไง มันทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ
"พวกนายคิดว่าไง"
"ป๋าชอบเธอใช่มั้ยครับ"
"ไม่รู้สิ แต่ผมสนใจเธอภาพมันติดตานะ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไง"
ผมบอกไปตามจริง ไม่รู้ว่าความรู้สึกชอบหรือรักใครสักคนมันเป็นยังไงเพราะถ้ารักใครสักคนจริงๆผมก็ไม่เคยเหมือนกัน
"แล้วป๋าจะเอายังไงต่อครับ"
"ซื้อคอนโดที่นี่ให้ผมห้องหนึ่ง ตกแต่งให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ผมจะมาพักที่นี่ ..."