Chapter 3

1414 คำ
"ทานเยอะๆสิผมว่าหนูผอมมากเลยนะ" เขาเอ่ยยิ้มๆแล้วก็ตักกับข้าวมาใส่จานให้ฉัน ฮือออ ดีต่อใจตื้นตันจนน้ำตาพานจะไหล ทำไมเขาถึงดีกับฉันแบบนี้ ดูสิรับมาด้วยพามาทานข้าวอีก จะไม่ให้ฉันมโนไปเองได้ยังไงหรือว่าเขาอาจจะแค่สงสารพนักงานรึเปล่า คงงั้น "แต่เจ๊บิวบอกว่าหนูเริ่มอ้วนแล้วนะ" "หืม นี่อ้วนแล้วเหรอ หึ" ฉันยิ้มแห้งๆก่อนจะทานข้าวต่อ อ้วนสิสูง165 น้ำหนัก50 อ้วนนะ เจ๊บิวก็บอกถ้าแกกินเยอะกว่านี้อีกนิดได้กลายเป็นหมูแล้วก็จะไม่สวยเหมือนเจ๊ หลังจากนั้นฉันก็ไม่กินจุกจิกอีกเลยกลัวอ้วน ฮ่าๆๆ "อ้วนสิค่ะท่านประธานไม่เข้าใจผู้หญิงหรอก พุงยื่นนิดหนึ่งก็เครียดแล้ว" "นั้นสินะ ฮ่าๆๆ เรานี่คุยเก่งดีนะอิงฟ้า ผมชอบนะผู้หญิงคุยเก่ง" ไม่พูดเปล่าแต่ยังมองหน้าฉันแล้วยิ้มกริ่มจนฉันเนี้ยแหละที่ทนไม่ได้ต้องเบือนหน้าหลบสายตาของเขา โอ๊ยยย อย่ามโนๆๆๆ เขาจะมาชอบคนแบบแกได้ยังไงยัยอิงฟ้า ท่องไว้ๆ เจ้านาย  เจ้านาย เจ้านาย เจ้านาย อร๊ายยยยยย เจ้านาย!!!!!!! "แหะๆ ท่านประธานไม่ค่อยทานเลยนะคะ" "เห็นหนูทานผมก็อิ่มละ" งื้อออ ตายไปเลยช็อตนี้ไม่นะ!!! เขาเป็นเจ้านาย ท่องไว้ลูก ท่องไว้ เจ้านายจ้าาา "ทานบ้างสิคะตักให้แต่หนูเนี้ย ถ้าหนูอ้วนแล้วไม่สวยท่านประธานจะรับผิดชอบมั้ยคะ" ฉันพูดติดตลกไม่ได้จริงจังในคำพูดแต่เฟมือนคนตรงหน้าจะไม่ตลกด้วยนะ "อยากให้รับผิดชอบมั้ยละ" "งื้อออ นะ..หนูล้อเล่นเอง แหะๆ" "ฮ่าๆ เรานี่ตลกจัง ว่าแต่เจ๊บิวของหนูนี่ใครเหรอเห็นพูดถึงบ่อยๆ" เขาทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแล้วก็ถามอารมณ์ชวนคุยมากกว่า "อ่อ พี่ที่หนูเคารพนะคะ คือว่าหนูอยู่ตัวคนเดียวไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องเลย ตั้งแต่ม.ปลายแล้วตอนนั้นแม่หนูเสียประจวบกับพ่อแม่เจ๊บิวไปมอบทุนการศึกษาให้แล้วเห็นว่าหนูไม่มีใครก็เลยรับหนูมาดูแลนะคะ เขาเป็นผู้มีพระคุณแต่เจ๊บิวจะบอกว่าหนูเป็นเพื่อน เธอบอกไม่งั้นจะดูแก่ ฮ่าๆๆ" นึกถึงตอนนั้นฉันว่าฉันก็โชคดีนะ พวกท่านช่วยส่งฉันเรียนจนจบม.ปลาย ตอนเข้ามหาวิทยาลัยฉันก็เลยอยากจะพยายามทำงานหาเงินเรียนเองไม่อยากรบกวนพวกท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเพึยวแต่ถ้าลำบากต้องบอก คอนโดก็ผ่อนของเจ๊บิวขายให้ห้องหนึ่ง รถก็เพิ่งซื้อตอนทำงานที่บริษัท BEM เนี้ยแหละ นึกถึงก็ยังคิดว่าฉันโตมาได้ยังไงเหมือนกัน "ยิ้มอะไรคะเนี้ย ชีวิตหนูไม่ได้สวยหรูเลยน้า ถ้าไม่โชคดีไม่รู้ตอนนี้จะเป็นยังไงเหมือนกัน คงได้ไปอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่งั้นก็คง.." นึกถึงตอนนั้นถ้าฉันไม่เจอครอบครัวเจ๊บิวไม่รู้จะเป็นยังไงเหมือนกัน ไม่อยากจะคิดให้ปวดหัวเลย "หนูเก่งนะ" "ใครๆก็บอกแบบนี้เลยค่ะ พอแล้วๆหนูไม่น่าเล่าเรื่องชวนปวดหัวให้ท่านฟังเลย  เปลี่ยนเรื่องดีกว่าค่ะ" ฉันไม่อยากให้ใครมาสงสารฉันหรอก ยังมีคนอีกตั้งมากมายที่น่าสงสารกว่าฉันอีกเยอะ เพราะฉะนั้นถือว่าชีวิตฉันโชคดีที่สุดแล้ว "ไม่เห็นน่าปวดหัวตรงไหน น่าสนใจออกไว้มาเล่าให้ฟังอีกนะ ผมชอบสนุกดี" ใจเต้นอีกแล้ว ฮือออ ทำไม้องมาพูดจาหวานหยอดด้วย หรือว่าเขาเป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่สิพวกทีมงานเขาบอกว่าท่านประธานค่อนข้างจริงจังกับชีวิตไม่มาไร้สาระอะไรแบบนี้หรอกแต่เท่าที่เห็นมันย้อนแย้งจัง ฉันว่าท่านดูใจดี คุยเก่ง หล่อด้วย "หนูอิ่มแล้วค่ะ" "อืม งั้นไปเถอะเดี๋ยวผมไปส่งที่บ้านนะ หรือว่าพักอยู่ที่ไหน" "คอนโด B ค่ะซอย2" "อ่อ โอเค" เราสองคนลุกขึ้นไปขึ้นรถส่วนค่าใช้จ่ายลูกน้องมาเคลียร์ให้หมด เออดีอ่ะไม่ต้องถือเงินเองมีคนจัดการให้หมดเลย สบายจังชาตินี้หรือชาติไหนฉันจะมีโอกาสแบบนี้มั้ย "อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ" "อิงฟ้า เอ่อ หนูอยู่กับใครเหรอ ขอโทษที่เสียมารยาทถามนะ" ผมถามเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมก็แค่อยากให้แน่ใจว่าเธอไม่ได้มีใครอยู่ ไม่รู้สิผมอยากรู้ไม่มีอะไรมากก็แค่อยากรู้ "หนูอยู่คนเดียวค่ะ" ผมลอบถอนหายใจออกมาแต่ว่าถ้าเธอมีแฟนไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกันใช่มั้ย หรือว่าเธอจะมีแฟนแล้วแต่แค่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หน้าตาก็สวยไม่ได้ขี้เหร่น่าจะไม่รอดแล้วมั่ง หรือผมควรถามดี "เอ่อ คือว่า" "คะ..ท่านประธานมีอะไรจะถามคะถามได้เลยหนูตอบได้" ผมหลุดยิ้มออกมาทันทีที่เห็นรอยยิ้มทะเล้นของคนตรงหน้า น่ารักจริงๆเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครจริงๆ ทำไมผมรู้สึกถูกชะตาและสนใจเธอแบบนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน "มีแฟนยังเราอ่ะ" "ห๊ะ อะ..อะไรนะคะ" เธอถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเองก่อนจะทำท่าแคะขี้หูแล้วถามอีกรอบ "เมื่อกี้ท่านประธานถามว่า..." "เอ่อ ช่างมันเถอะ" ผมหันหน้าไปอีกทางแล้วถอนหายใจออกมา ทำไมรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กหนุ่มกำลังตามจีบสาวน้อยวะ รู้สึกแปลกๆกับตัวเองจริงๆคนอย่างผมเคยจีบใครที่ไหนยืนอยู่เฉยๆผู้หญิงก็วิ่งเข้าใส่ แต่ตอนนี้กำลังทำตัวไม่ถูกต่อหน้าเด็กผู้หญิงที่คุยกับผมปกติต่างจากคนอื่นที่มีโอกาสแบบนี้ต้องพยายามเข้าหาผมแล้ว เธอเลยเป็นผู้หญิงที่ไม่เหมือนใครยังไงหละ "หนูยังโสดค่ะไม่เคยมีแฟน แหะๆ คือทำแต่งานจบมาก็ทำงานกลัวตัวเองไม่มีเงินจะลำบากก็เลยไม่เคยคบใครเลย อีกอย่างหนูกลัวคนอื่นจะมาลำบากกับหนูไม่เอาหรอก ฮ่าๆๆ พูดซะยาวเลย อ๊ะถึงแล้วค่ะคอนโดหนูอยู่ตรงนั้น" เสียงเล็กชี้นิ้วไปยังคอนโดเบื้องหน้า รถเทียบจอดหน้าประตูทางเข้าเธอหันมามองหน้าผมแล้วยกมือไหว้ขอบคุณ "ขอบคุณสำหรับวันนี้นะคะท่านประธาน ไว้มีโอกาสหนูจะตอบแทนนะคะ ขอบคุณพี่ๆทั้งสองคนด้วยนะคะที่ขับรถมาส่งไปแล้วค่ะ" "โชคดีนะ ไว้เจอกันอิงฟ้า" คนตัวเล็กโบกมือบ๊ายบายก่อนจะลงจากรถไปโดยมีผู้ช่วยผมลงไปเปิดประตูให้ มารยาทดีสุดๆไหว้ผมไม่พอไหว้ผู้ช่วยผมอีก ผมมองตามเธอไปจนเธอลับสายตาผมมองผู้ช่วยผมผ่านกระจกพวกเขายกยิ้มมุปากมองหน้าผม "ป๋าดูมีความสุขนะครับเวลาอยู่กับคุณอิงฟ้า" "นั้นสิครับ ผมไม่เห็นป๋ายิ้มแบบสบายใจแบบนี้มานานแล้ว" ผมเงียบไปแล้วคิดตามคำพูดของลูกน้องผม นั้นสินานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ได้ยิ้มแบบนี้ แปลกจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มไม่หยุดเลยคือผมรู้ว่าเธอยังไม่เคยมีแฟนไง มันทำให้ผมใจเต้นแปลกๆ "พวกนายคิดว่าไง" "ป๋าชอบเธอใช่มั้ยครับ" "ไม่รู้สิ แต่ผมสนใจเธอภาพมันติดตานะ ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้สึกยังไง" ผมบอกไปตามจริง ไม่รู้ว่าความรู้สึกชอบหรือรักใครสักคนมันเป็นยังไงเพราะถ้ารักใครสักคนจริงๆผมก็ไม่เคยเหมือนกัน "แล้วป๋าจะเอายังไงต่อครับ" "ซื้อคอนโดที่นี่ให้ผมห้องหนึ่ง ตกแต่งให้เสร็จภายในวันพรุ่งนี้ผมจะมาพักที่นี่ ..."
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม