อยากได้ใบเป็นเลขา

1751 คำ
บนโต๊ะรับประทานอาหารมื้อค่ำ ทุกคนต่างนั่งประจำที่ของตนเอง โดยโต๊ะอาหารเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า คุณคีรีนั่งหัวโต๊ะ พิลันดานั่งเก้าอี้ฝั่งซ้ายมือว่าที่สามี ฟาร่านั่งติดกับมารดาของหล่อน ส่วนคีรินทรนั่งเก้าอี้ถัดจากบิดาฝั่งขวา ใบบุรินนั่งถัดจากพี่ชายในนาม ตรงที่หญิงสาวนั่งจึงตรงข้ามกับฟาร่าพอดี ลูกเลี้ยงคนใหม่ของคุณคีรีเอาแต่จ้องมองใบหน้าสวยสง่างามของใบบุรินด้วยแววตาริษยา "วันนี้ดาลงมือทำอาหารเองหมดเลยนะคะ ลงมือทำตั้งแต่บ่ายสาม ไอ้เราก็คิดว่าหนูใบจะรีบกลับมาทำมื้อค่ำช่วยแต่ก็ไม่เห็นโผล่หน้ามาซะทีจนเกือบมืด" พิลันดาพูดขึ้น ใบบุรินรู้สึกอึดอัดใจที่นางพูดประชดประชันด้วยรอยยิ้ม ราวกับว่าตนไม่ยอมมาทำมื้อค่ำช่วย ทั้งที่จริงแทบจะกลับมาจากมหาวิทยาลัยไม่ทัน "มหาวิทยาลัยของหนูใบอยู่ไกลจากบ้าน ปกติเขาก็กลับถึงบ้านเวลาค่ำๆ แบบนี้แหละ" คุณคีรีแก้ต่างให้ลูกเลี้ยงคนโปรด "ดาก็เป็นห่วงด้วยนั่นแหละค่ะ กลับบ้านค่ำมืดทุกวัน" พิลันดาหันมามองใบบุรินด้วยรอยยิ้มฝืน "แต่อีกหน่อยใบก็ฝึกงานแล้วไม่ใช่เหรอลูก ที่ฝึกงานอยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา ต่อไปก็คงได้กลับบ้านเร็วแล้ว" คุณคีรีหันมาคุยกับใบบุริน "ค่ะคุณพ่อ" หญิงตอบด้วยรอยยิ้ม เธอรู้สึกขอบคุณคุณคีรีเสมอที่ส่งเสียตนจนเรียนจบและกำลังจะได้ทำงานแล้ว "แล้วใบฝึกงานที่ไหนเหรอครับคุณพ่อ?" คีรินทรอยากรู้จึงเอ่ยถาม เพราะเขาสงสัยเรื่องที่ฝึกงานของหญิงสาว เหตุใดบิดาจึงไม่ยอมให้เข้าไปฝึกงานในบริษัทของตนเอง ทั้งๆ ที่ก็เรียนบริหารธุรกิจมาเช่นเดียวกันกับฟาร่า "พ่อให้หนูใบไปฝึกงานในบริษัทของคาลล์ เพื่อที่หนูใบจะได้สร้างคอนเนคชั่นให้กับตัวหนูใบแล้วก็บริษัทของเราด้วย" "คาลล์ ใครเหรอครับ?" ชายหนุ่มขมวดคิ้วถามด้วยความแปลกใจ "ลูกชายคุณเควิน ฟิลลิปส์ เจ้าของโรงแรม'คาลล์ฟิลลิปส์'ที่มีเครือข่ายทั่วโลกไง พ่อคิดว่าคีน่าจะรู้จักนะ หนูใบสนิทกับคาลล์ พ่อก็เลยแนะนำฝากให้หนูใบไปฝึกงานที่นั่นด้วยซะเลย" "งั้นก็แปลว่าเป็นโรงแรมใหม่ใช่หรือเปล่าครับ เพราะใช้ลูกชายของเขาเป็นชื่อโรงแรม" คีรินทรถามบิดา "คาลล์เป็นชื่อของคุณปู่เขาต่างหาก โรงแรมนี้เก่าแก่หรูหรามากกว่าร้อยปี ตั้งแต่รุ่นคุณปู่เขาแล้ว" ชายหนุ่มฟังแล้วจึงชำเลืองมองใบบุรินเล็กน้อย ที่แท้เธอก็มีหนุ่มข้างกายอยู่แล้วหรอกหรือ สงสัยจะเป็นเช่นนั้น เพราะคาลล์เป็นถึงคนที่บิดาของตนแนะนำให้รู้จักนั่นเอง "แต่ไม่เห็นจำเป็นต้องให้ใบไปฝึกงานที่อื่นเลยครับ คุณพ่อลืมไปแล้วเหรอครับว่าสายการบินของเราก็ออกใหญ่โต" คีรินทรออกความคิดเห็นเพราะไม่อยากให้ใบบุรินไปทำงานที่อื่น จากนั้นเขาจึงลงมือรับประทานอาหาร ฟาร่าจ้องมองใบบุรินอีกครั้ง หล่อนจ้องมองด้วยแววริษยามากยิ่งขึ้น เมื่อได้รู้ว่าหญิงสาวสนิทสนมกับคนร่ำรวยมีชื่อเสียงขนาดนั้น และยังดูเหมือนคุณคีรีจะโปรดปรานใบบุรินเป็นอย่างมากด้วย ฟาร่าอยากไล่ใบบุรินออกจากบ้านเต็มทน เพราะคีรินทรดูจะให้ความสนใจเรื่องราวของหญิงสาวมากเป็นพิเศษ ไม่แม้แต่จะถามเรื่องของตนเลย ฟาร่าปรารถนาคีรินทรมาครอบครอง แต่หากใบบุรินยังคงเป็นเสี้ยนหนามอยู่ในบ้านหลังนี้ โอกาสของหล่อนก็แทบจะเป็นศูนย์ "อ้อ พ่อให้หนูฟาร่าเข้าไปฝึกงานกับลูกด้วยนะ เทอมนี้เป็นช่วงฝึกงานของนักศึกษาพอดี น้องจะได้ไม่ต้องไปฝึกงานที่อื่น" คุณคีรีบอกบุตรชาย เพราะคุยเรื่องฝึกงานจึงเพิ่งนึกขึ้นมาได้ "ผมก็อยากคุยกับคุณพ่อเรื่องนี้เหมือนกันครับ" ฟาร่าเลิ่กลั่ก เมื่อคีรินทรตวัดหางตามองมายังตน เพราะวันนี้ไปต่อปากต่อคำกับชายหนุ่ม จึงกลัวว่าเขาจะไม่พอใจและเอามาบอกบิดา "มีเรื่องอะไรเหรอลูก?" "ผมไม่ต้องการให้ฟาร่าไปฝึกงานกับผมครับ" คีรินทรไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฝืนใจทำงานกับลูกเลี้ยงคนใหม่ของบิดา เพราะเขาทำงานจริงจังไม่ใช่การเล่นขายของ หากหล่อนไปฝึกงานแล้วสร้างภาระให้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไป "แต่พ่อตั้งใจให้หนูฟาร่าไปทำงานกับลูกแล้ว ถึงยังไงน้องเขาก็เป็นน้องสาวของคี ถึงแม้จะไม่ใช่น้องสาวแท้ๆ แต่ตอนนี้เราก็จะเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว" คุณคีรีทำเช่นนั้นเพราะไม่อยากขัดใจพิลันดา อีกอย่างการที่ฟาร่าไปทำงานที่บริษัทก็ไปเป็นเพียงผู้ช่วยเลขาเท่านั้น คงไม่ได้สร้างความรำคาญใจอะไรให้คีรินทรมากนัก "เขาไม่ใช่น้องสาวผมครับ ไม่ใช่ทั้งสองคนเลย เพราะฉะนั้นคุณพ่ออย่ามายัดเยียดใครให้มาเป็นน้องสาวผมอีก" คีรินทรเคยไม่ไว้หน้าคุณคีรีอย่างไรก็ยังคงไม่ไว้หน้าเช่นนั้น เขายอมรับลูกแท้ๆ ของบิดาที่เกิดกับภรรยาคนก่อนๆ แต่ไม่เคยยอมรับลูกติดของภรรยาคนไหนของบิดาเลย "คี ทำไมลูกถึงพูดแบบนี้?" คุณคีรีถามเสียงดุเพราะไม่พอใจคำพูดของบุตรชาย "และที่ผมกลับมาทำงานเพราะผมเห็นแก่คุณพ่อ ผมจะทำงานและรับผิดชอบในส่วนบริหารจัดการ เพราะฉะนั้นผมจึงมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจว่าต้องการใครมาทำงานด้วยหรือว่าไม่ต้องการ" คีรินทรพูดชัดเจนและเด็ดขาด คุณคีรีรู้จักนิสัยอันเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาดของบุตรชายดี ดังนั้นเมื่อคีรินทรพูดว่าไม่ต้องการฟาร่าก็แปลว่าจะต้องไม่มีฟาร่าในที่ทำงาน "เอาแบบนั้นก็ได้ ถ้าแกไม่สบายใจที่จะให้หนูฟาร่าไปทำงานด้วยงั้นหนูฟาร่าก็ไม่ต้องไป พ่อจะให้หนูฟาร่าไปฝึกงานในตำแหน่งอื่นของบริษัทก็ได้" คุณคีรีพูดเช่นนั้น ทำให้พิลันดาและฟาร่าไม่พอใจ แต่นางก็ไม่กล้าพูดอะไรมากในตอนนี้ ทำได้เพียงอดทนเฝ้ารอจนกว่าจะผ่านพิธีแต่งงานไปก่อน "แต่ถ้าพี่คีเปลี่ยนใจอยากให้ฟาร่าไปฝึกงานเป็นผู้ช่วยเลขาก็บอกได้เลยนะคะ ฟาร่าสัญญาว่าจะทำตัวให้ดีขึ้น แล้วก็ไม่สร้างความรำคาญใจให้กับพี่คีด้วยค่ะ" ฟาร่าพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน แต่คีรินทรมองว่าหล่อนเป็นคนไร้วุฒิภาวะทางอารมณ์ เขาไม่สามารถร่วมงานกับคนเช่นนี้ได้ "แต่ถึงยังไงพ่อก็ไม่เห็นด้วยที่ลูกบอกว่าทั้งหนูใบและฟาร่าไม่ใช่น้องสาว พ่ออยากให้ลูกพยายามยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ เราจะได้อยู่ร่วมกันโดยไม่มีปัญหาอีกเหมือนเมื่อหกปีที่แล้ว" คุณคีรีบอก แต่คีรินทรไม่ได้ตอบอะไร และเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตารับประทานอาหาร พลันชำเลืองมองใบบุรินเป็นระยะ หลังจากรับประทานมื้อค่ำเสร็จ ใบบุรินก็ขอตัวกลับขึ้นมาบนห้องนอนชั้นสอง วันนี้เธอรู้สึกเหนื่อยล้าจากกิจกรรมหลายอย่าง ไหนจะประชุมที่บริษัทตอนเช้าและเข้าเรียนตอนบ่าย ทั้งยังเร่งรีบกลับบ้านในช่วงค่ำอีกด้วย 'ก๊อก ๆ ๆ' แต่ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูห้องนอนก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงที่เริ่มจะคุ้นหูดังตามมา "ใบ เปิดประตูหน่อย" เสียงของคีรินทรทำให้ใบบุรินรู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้เพราะเขาเป็นลูกชายเจ้าของบ้าน เธอจึงจำใจลุกเดินไปเปิดประตูให้ชายหนุ่ม "คุณคี มีอะไรหรือเปล่าคะ?" ร่างกำยำแทรกกายเข้ามาในห้องนอนของใบบุรินทันทีที่บานประตูห้องนอนถูกเปิดออก เขารีบเอื้อมมือไปปิดประตูเพราะเกรงว่าจะมีคนเดินมาเห็น "ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอ" "เอ่อ...ค่อยคุยพรุ่งนี้ก็ได้นี่คะ วันนี้ใบจะนอนแล้ว" หญิงสาวปฏิเสธ เธอง่วงนอนและไม่อยากคุยกับเขาด้วย "พรุ่งนี้ฉันต้องไปทำงานแต่เช้า แล้วก็ไม่ได้กลับมานอนที่บ้านอีก ฉันพักที่คอนโดใกล้ๆ บริษัท แต่ว่าวันนี้ฉันจะนอนที่นี่ก่อน" เขาบอก "หมายถึงนอนที่บ้านหลังนี้เหรอคะ?" "ใช่ไง" เธอคิดว่าเขาหมายถึงนอนในห้องนี้ "งั้นเดี๋ยวว่างวันไหนค่อยคุยกันดีกว่านะคะ ตอนนี้คุณคีออกไปก่อนเถอะค่ะ" เธอไม่ได้ตั้งใจจะผลักไส เพียงแค่เห็นว่ามันไม่เหมาะสมที่จะพูดคุยกันในห้องนอนเวลากลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ "ทำไม? ทำไมต้องรอวันถัดไป คุยกับฉันตอนนี้ไม่ได้หรือยังไง" คีรินทรกอดอกเลิกคิ้วถามเสียงดุ เพราะหญิงสาวแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่อยากพูดคุยกับตน "เอ่อ...คือ...ใบง่วงนอนค่ะ อีกอย่างพรุ่งนี้ก็มีธุระหลายอย่างที่ต้องทำด้วย เพราะวันจันทร์หน้าใบจะเริ่มฝึกงานแล้ว" "ก็เรื่องฝึกงานนั่นแหละที่ฉันจะคุยกับเธอ" "เรื่องฝึกงาน ทำไมเหรอคะ?" ใบบุรินขมวดคิ้วแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มจะสนใจพูดคุยเรื่องฝึกงานของตน "ฉันอยากให้เธอไปฝึกงานเป็นเลขาฉัน" "คะ...ว่าอะไรนะคะ?" เธอเผลอจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายด้วยความแปลกใจ "ฉันบอกว่าฉันอยากให้เธอไปฝึกงานเป็นเลขาของฉัน หูหนวกหรือยังไง" "หมายถึงเลขา ไม่ใช่ผู้ช่วยเลขาตำแหน่งที่ว่าจะให้คุณฟาร่าไปทำเหรอคะ?" "ไม่ใช่ ไม่เกี่ยวอะไรกับฟาร่าด้วย" "แต่คุณคีก็มีเลขาอยู่แล้วนี่คะ" "คามที่เป็นเลขาฉันอยู่ตอนนี้เขากำลังจะลาออก" ความจริงคามแค่เข้ามาเป็นเลขาให้คีรินทรช่วงก่อนที่ชายหนุ่มจะเข้ามาทำงานในบริษัทไม่กี่เดือนเท่านั้น ดังนั้นเมื่อคีรินทรเข้ามาทำงานแล้วก็ไม่อยากรบกวนให้เพื่อนสนิทเป็นเลขาอีกต่อไป ชายหนุ่มจึงจำเป็นต้องหาเลขาคนใหม่ และเขาก็มองออกว่าใบบุรินมีคุณสมบัติที่เหมาะสม แม้จะอยู่แค่ในช่วงฝึกงานก็ตาม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม