บนตั่งหยกขาวอันสูงส่งของเทพทั้งสอง กู้เฉิงเลิกคิ้วเล็กน้อยขณะมองเหตุการณ์ในลานประลอง ส่วนเสี่ยวเฟิ่งกลับยิ้มชอบใจกล่าวกับกู้เฉิงอย่างสนุกสนาน “การประลองครั้งนี้ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดไว้ ใช้ได้ๆ”
“เรื่องเพียงแค่นี้กลับทำเสียวุ่นวายกันยกใหญ่ ความจริงสุ่มเลือกมนุษย์ไปสักคนก็ได้แล้ว” กู้เฉิงจิบชาบนโลกมนุษย์ที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้เขาอย่างเรียบเรื่อย มิได้สนใจคนในลานประลองอีก
“ได้อย่างไร มนุษย์ที่สามารถเปิดกระจกแปดทิศได้นั้นอย่างไรก็ต้องมีความสามารถเสียหน่อย” เสี่ยวเฟิ่งค้านด้วยรอยยิ้ม
“มีเจ้าอารักขาอยู่ ยังจะต้องกลัวอีกหรือ” กู้เฉิงแม้จะพูดด้วยความเบื่อหน่ายไปเช่นนั้น แต่ก็เพียงพอให้เสี่ยวเฟิ่งยิ้มรับจนแก้มแดงได้
กลางลานประลอง คนของสำนักอู่เฉิงกับคนของสำนักฟู่หลิงตกอยู่ในสภาวะตึงเครียด ฝ่ายหนึ่งปกปิดความผิด อีกฝ่ายเรียกร้องความยุติธรรม เรื่องราวไม่อาจจบลงอย่างง่ายดาย
“ก็แค่มาจับตัวศิษย์ที่ไม่ได้รับเชิญออกไปจากลานประลองเท่านั้น พวกเจ้ายังบังอาจแสดงกิริยาเช่นนี้กับสำนักของเรา ช่างไร้การศึกษา” อาจารย์คนหนึ่งของสำนักฟู่หลิงกล่าวขึ้น
“ไร้การศึกษาก็คงเป็นข้าที่สั่งสอนไม่ดีกระมัง” หลิวเส้าชงพลิ้วร่างลงด้านหน้าเชียนจือหวากับหยางผู่เยว่
“แต่ศิษย์สำนักอู่เฉิงไม่รบกวนท่านทั้งสองก้าวก่าย อีกทั้งข้าต้องการคำอธิบายจากพวกท่านว่าเหตุใดศิษย์ข้าจึงมีสภาพเช่นนี้” หลิวเส้าชงผายมือไปที่ร่างของเยี่ยนหรง ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเขา แม้จะยังคงยิ้มแย้มเช่นเดิม แต่กลับเป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกน่าขนลุกอยู่หลายส่วน
แม้สำนักอู่เฉิงจะจัดเป็นสำนักบำเพ็ญเพียรขนาดเล็กที่สันโดษเรียบง่าย มิได้โดดเด่นเท่าอีกเจ็ดสำนักที่เหลือ แต่ทุกคนต่างรู้ว่าฝีมือของหลิวเส้าชงนั้นไม่ธรรมดา ปกติเขาทำตัวไม่โดดเด่น ทั้งยังรักสงบ แต่หากเทียบกับเจ้าสำนักอันดับหนึ่งอย่างเจ้าสำนักฟู่หลิงแล้ว กลับยากจะบอกได้ว่าใครเหนือกว่า
อาจารย์ของสำนักฟู่หลิงทั้งสองนิ่งงันไปชั่วขณะ หากเหตุผลคือแค่นำเยี่ยนหรงออกจากลานประลอง การที่พวกเขาลงมือเช่นนั้นก็นับว่าเกินเหตุไปจริงๆ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงของพวกเขาคือไม่ให้นางเผยความลับต่างหาก จึงได้ผลีผลามลงมือไปเช่นนั้น สุดท้ายหนึ่งในอาจารย์ทั้งสองจึงเอ่ยปาก
“พวกเราพลั้งมือไปด้วยความวู่วาม ขอเจ้าสำนักหลิวโปรดอภัยด้วย เมื่อการประลองจบสิ้นพวกข้าจะไปขอขมาต่อท่านด้วยตนเองอีกครั้ง”
ตอนนี้เจ้าสำนักฟู่หลิงก็เข้ามาถึงในลานประลองแล้ว เมื่อได้ฟังการสนทนาของทั้งสองฝ่ายก็รีบเข้ามาไกล่เกลี่ย และขออภัยกับหลิวเส้าชง ไกล่เกลี่ยไปไกล่เกลี่ยมาจนเหมือนเรื่องราวจะจบลงเพียงเท่านั้น
“แล้วเรื่องอาวุธลับล่ะ” เยี่ยนหรงยังคงไม่ยอมแพ้ การประลองฝีมืออย่างไรก็ต้องยุติธรรม
เจ้าสำนักฟู่หลิงสั่งให้ผู้ติดตามค้นตัวศิษย์สำนักฟู่หลิงทั้งสองทันที แต่หาจนทั่วก็ไม่มีใครเจอเข็มเงินอย่างที่เยี่ยนหรงกล่าว เจ้าสองคนนั่นอาศัยช่วงที่ทุกคนชุลมุนทำลายหลักฐานไปอย่างรวดเร็ว
ในเมื่อไม่มีหลักฐานก็ไม่อาจกล่าวโทษสำนักฟู่หลิงได้ เยี่ยนหรงที่บุกเข้ามาในสนามประลองโดยพลการก็ไม่ได้ถูกลงโทษแต่อย่างใด เพราะผู้อาวุโสของสำนักฟู่หลิงก็ลงมือเกินกว่าเหตุเช่นเดียวกัน สุดท้ายเรื่องราวก็ถูกตัดจบลงแค่นั้น เจ้าสำนักฟู่หลิงประกาศให้การประลองเริ่มขึ้นใหม่อีกครั้ง
ส่วนเยี่ยนหรงก็ถูกหามไปที่หน่วยพยาบาลตามระเบียบ ถึงแม้ว่าจะเอาผิดกับสำนักฟู่หลิงไม่ได้ แต่อย่างน้อยศิษย์สำนักฟู่หลิงทั้งสองนั่นก็ไม่อาจเล่นลูกไม้ได้อีก
ขณะที่เจ้าสำนักฟู่หลิงเอ่ยข้อสรุป ทุกคนก็ถือเป็นอันตกลงโดยไม่มีใครโต้แย้ง มีเพียงเสี่ยวเฟิ่งที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ประธาน พอเห็นเหตุการณ์ก็เริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายขึ้นมา
การประลองที่มีศิษย์หญิงหน้าตาสะสวยผู้นั้นบุกเข้ามากลับน่าสนุกน่าตื่นเต้นกว่าเหล่าผู้ร่วมการประลองทั้งสี่คนเป็นไหนๆ ดูอย่างไม่ตั้งใจยังรู้ว่าฝีมือของผู้เข้าร่วมการประลองทั้งหมดไม่อาจเทียบศิษย์สำนักอู่เฉิงที่เพิ่งมาขัดขวางการประลองได้ นางจึงนึกสนุกถ่ายทอดเสียงให้ดังไกลออกไป
“ช้าก่อนเจ้าสำนักฟู่หลิง ข้ามีความคิดหนึ่งอยากเสนอ” เสี่ยวเฟิ่งเอนหลังพิงพนักพิงอย่างสบายๆ เมื่อเห็นว่าทุกคนต่างรอฟังข้อเสนอของนาง จึงชี้มือไปที่เยี่ยนหรงที่กำลังถูกหน่วยปฐมพยาบาลหามออกไป
“ข้ากลับรู้สึกว่านางผู้นั้นมีฝีมือไม่เลว มิสู้ให้นางร่วมประลองด้วยอีกคน อย่างไรพวกเราก็เลือกไปแค่คนเดียวอยู่แล้ว คนจากสำนักไหนก็ต้องสู้กันเองอยู่แล้ว คงไม่ถือว่าไม่ยุติธรรมกระมัง”
กู้เฉิงที่นั่งนิ่งมาตลอด มิได้สนใจการประลองตั้งแต่ต้น เมื่อเห็นเสี่ยวเฟิ่งทำเช่นนี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “อย่าก่อเรื่อง”
เสี่ยวเฟิ่งเพียงหันมาย่นจมูกใส่เขาอย่างขี้เล่น แต่ก็มิได้ล้มเลิกความตั้งใจ นางยังคงจ้องมองไปที่เจ้าสำนักฟู่หลิงและเจ้าสำนักอู่เฉิงอย่างคาดคั้นเล็กน้อย
หลิวเส้าชงที่ยืนสีหน้าเคร่งเครียดมาตลอดรีบประสานมือกล่าวกับเสี่ยวเฟิ่ง “เห็นจะไม่เหมาะ ศิษย์ของข้าผู้นั้นเห็นอยู่ว่าบาดเจ็บสาหัส คงเข้าร่วมการประลองไม่ไหว อีกทั้งผู้ที่สามารถชิงกระจกแปดทิศได้ก็ถือเป็นหน้าเป็นตาของสำนัก หากสำนักอู่เฉิงใช้คนเข้าร่วมประลองถึงสามคน ต่อไปข้าผู้เป็นเจ้าสำนักจะมองหน้าผู้คนในยุทธภพได้อย่างไร”
เจ้าสำนักฟู่หลิงเห็นหลิวเส้าชงยืนกรานเช่นนั้นก็ระบายลมหายใจอย่างโล่งอก ดีที่หลิวเส้าชงเป็นคนเที่ยงธรรม มิเช่นนั้นตัวเขาเองคงปฏิเสธเรื่องเช่นนี้ได้ลำบาก
“เช่นนั้นก็ง่ายมาก เจ้าสำนักฟู่หลิงก็หาศิษย์ฝีมือดีของสำนักท่านมาเข้าร่วมอีกสักคนก็ใช้ได้แล้ว ส่วนอาการบาดเจ็บของนางพวกท่านไม่ต้องห่วง” เสี่ยวเฟิ่งผายมือมาทางกู้เฉิงที่นั่งอยู่ด้านข้าง
“องค์ชายใหญ่แห่งหุบเขาวิหคไฟฝีมือทางการแพทย์จัดเป็นอันดับหนึ่งในแดนเทพ บาดแผลธรรมดาในโลกมนุษย์เขารักษาครู่เดียวก็หายแล้ว”
เยี่ยนหรงที่นอนอยู่ในเปลสองคนหามตาเบิกกว้างขั้นทันที นิ้วทั้งสิบกำไม้เปลแน่นจนข้อนิ้วกลายเป็นสีขาว
เหตุใดเหตุการณ์จึงกลายเป็นเช่นนี้ได้
นางได้แต่ภาวนาให้อาจารย์ช่วยแก้ต่างให้นางโดยเร็ว อย่าได้ปล่อยนางไว้ในเงื้อมมือของเทพทั้งสองนั่น ไม่ได้เด็ดขาด!
หลิวเส้าชงเหลือบมองเจ้าสำนักฟู่หลิงอย่างลำบากใจ แต่ก็ไม่มีข้ออ้างที่จะปฏิเสธอีก เขาลอบมองขึ้นไปบนอัฒจันทร์สูงอย่างแนบเนียน เมื่อเห็นว่าคนบนนั้นไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบรับหรือปฏิเสธ เขาก็ถอนหายใจยาว หันไปพยักหน้ากับเจ้าสำนักฟู่หลิง
“หากเป็นประสงค์ของท่านเทพ เช่นนั้นข้าน้อยก็ไม่อาจปฏิเสธ” เจ้าสำนักอู่เฉิงและเจ้าสำนักฟู่หลิงกล่าวพร้อมเพรียง
หน่วยปฐมพยาบาลสำนักฟู่หลิงสองคนที่แบกเปลอยู่รีบเปลี่ยนทิศจากที่จะมุ่งหน้าไปหน่วยพยาบาล กลายเป็นเดินจ้ำอ้าวไปที่บัลลังก์ที่เทพกู้เฉิงนั่งอยู่แทน
เยี่ยนหรงนอนทำสีหน้าหมดหวังกับชีวิตอยู่บนเปล ต่อหน้าคนมากมาย จะหนีก็ไม่ได้จะแกล้งตายก็ไม่ดี แน่นอนว่ากู้เฉิงเป็นอันดับหนึ่งในแดนเทพเรื่องการแพทย์ อาการบาดเจ็บบนโลกมนุษย์นั้นแทบไม่อยู่ในสายตาของเขา แต่ว่าเลือดที่ท่วมร่างอยู่นี้เป็นนางเสกขึ้นมาเอง จะเก็บกลับไปตอนนี้ก็คงไม่ได้
เขาจะดูออกหรือไม่ว่านางแกล้งบาดเจ็บ จะไม่สงสัยได้อย่างไรว่ามนุษย์ที่ร่างกระแทกเนินหินจนสะเทือนเลื่อนลั่นขนาดนั้นเหตุใดจึงไม่บาดเจ็บสาหัส
แม้เขาจะไม่เคยเห็นใบหน้าจริงของนางมาก่อน อาจจะจำไม่ได้ว่านางคือเยี่ยนหรงอดีตภรรยาที่เขาเกลียดชัง แต่หากเขาดันสำรวจอาการบาดเจ็บภายในร่างนางอย่างละเอียด ไม่แน่เขาอาจจะรู้ว่านางไม่ใช่มนุษย์ หากเป็นเช่นนั้นดวงนางคงถึงฆาตอย่างไม่ต้องสงสัย
หากโชคดีหลุดรอดพ้นสายตาของกู้เฉิง ก็ไม่แน่ว่าในลานประลองนางอาจจะพลาดท่าแตะโดนกระจกแปดทิศจนร่างแหลกสลายก็เป็นไปได้
เหตุใดฟ้าดินถึงชอบกลั่นแกล้งนางเช่นนี้ นางไม่อยากเข้าร่วมการประลอง ไม่อยากโดนหามไปส่งให้กู้เฉิง!