เยี่ยนหรงวิ่งตรงไปข้างหน้าอย่างอับจนปัญญา สุดท้ายจึงชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่จนร่างกระเด็นล้มลง นางนอนนิ่งกับพื้นด้วยความมึนงง รู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่ไหลจากหน้าผากลงไปตามเส้นผมที่แผ่สยายอยู่บนพื้น เมื่อครู่ศีรษะคงกระแทกกับต้นไม้แรงเกินไป นอนเช่นนั้นอยู่ครู่หนึ่ง จนเมื่อตั้งสติเรียบเรียงเหตุการณ์ได้ จึงลุกขึ้นนั่งพิงต้นไม้ที่เพิ่งวิ่งชนไปเมื่อครู่อย่างอ่อนล้า ไม่กล้าวิ่งสะเปะสะปะอีก นางยกแขนเสื้อขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลลงมาจากหน้าผากอย่างหมดหวัง แต่ก็ยังไม่ส่งเสียงร้องไห้แม้สักแอะเดียว หมอกหนารอบตัวยังคงไม่สลายไปจึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ หลังจากเช็ดเลือกไม่ให้ไหลเข้าตา นางก็ตั้งสมาธิเค้นพลังหลอมรวมกับกระแสลมอ่อนรอบตัว พบว่ากระแสลมในระยะสองหลีไม่ปั่นป่วน คาดว่าคงหนีสองคนนั้นมาพ้นแล้ว เยี่ยนหรงฉีกชายกระโปรงของตนออกมาพันบาดแผลตามร่างไว้อย่างลวกๆ จนตอนนี้แผลสามแห่งของนางถูกพันจนเหม