บทที่ 4 จากเพื่อนมาเป็นเมีย

1358 คำ
วันนี้ทั้งเมธาวีและปุณกรณ์ ตื่นนอนค่อนข้างสาย ด้วยอ่อนแรงจากบทรักเมื่อคืน กว่าจะออกจากโรงแรมก็เกือบเที่ยงวันเข้าไปแล้ว หลังจากนั้นเมญ่าก็ย้ายเข้าไปอยู่ที่คอนโดมิเนียมของหมอปั้นเพราะใกล้โรงพยาบาลสะดวกต่อการเดินทางของหมอปั้น ซึ่งคอนโดฯ นี้เมญ่าเคยมาหาหมอปั้นบางครั้งคราวตอนที่เป็นเพื่อนกัน แต่การมาครั้งนี้มันตื่นเต้นกว่าทุกครั้ง เพราะเธอไม่ได้มาในฐานะเพื่อน แต่มาในฐานะเมีย เมญ่า Talks พอกลับมาถึงคอนโดฯ ไม่นาน หมอปั้นก็เข้าไปที่โรงพยาบาล เพราะมีผ่าตัดเคสใหญ่ ฉันเลยใช้เวลานี้จัดของใช้ส่วนตัว พอคิดถึงเรื่องเมื่อคืนใจก็เต้นตึกตัก เกือบลืมไปเลย เมื่อคืนหมอปั้นไม่ได้ป้องกัน ถ้าท้องล่ะ จะเป็นการผูกมัดหมอปั้นไหม ไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินดีไหม แต่ว่ายาพวกนี้มันไม่ดีต่อมดลูก มันอันตราย ฉันก็ค่อนข้างกลัว เพราะตัวเองก็เป็นเภสัชกรเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่เดี๋ยวนะ ทำไมวันนี้รู้สึกปวดท้องน้อยนิดๆ ล่ะ พอนับดูแล้วอีกเจ็ดวันเมนส์มานี่นา อ๋อ แบบนี้เอง ถึงว่าทำไมหมอปั้นไม่ป้องกัน เดี๋ยวนะ เขารู้ได้ยังไงว่าระยะปลอดภัย เขารู้เหรอว่าฉันเมนส์มาวันไหน ย้อนไปเมื่อเดือนที่แล้ว “คุณหมอปั้น คุณเมญ่าเป็นลมค่ะ” “ญ่า...ญ่า เมญ่า พาไปห้องฉุกเฉินด่วนเลย” สามสิบนาทีผ่านไป “ปั้น...อือ ญ่าเป็นอะไรเหรอ” “ญ่าตื่นแล้วเหรอ ปวดท้องเมนส์ทำไมไม่กินยาหรือนอนพัก” “พอดีญ่ามีนัดคุยงานที่นี่กับผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเรื่องยาตัวใหม่ค่ะ ก็เลยต้องมาเอง” ฉันรับหน้าที่เป็นรองประธานบริษัทยายักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย บริษัทแอนเดอร์สัน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่คุณปู่เป็นคนก่อตั้ง “งานมันก็สำคัญ แต่เธอต้องดูแลตัวเอง” คำบ่นของเขา ทำให้ฉันยิ้มออกมา นี่คงเพราะเป็นห่วงฉันใช่ไหม “ปั้นเป็นห่วงญ่าเหรอ” “หมอโรง’บาลมีน้อยต้องเสียเวลามาดูแลเธออีก” นึกว่าจะเป็นห่วงที่แท้หมอปั้นก็ขี้เกียจดูแลฉันนี่เอง หน้าแหกไปค่ะ หมอปั้นคงจำได้ว่าฉันเป็นเมนส์วันไหน เมนส์มาแล้วไปฉีดยาคุมไว้ดีกว่า ถ้ากินยาก็กลัวจะลืมอีก ปกติยิ่งขี้ลืมอยู่ด้วย ถ้าจะให้หมอปั้นป้องกัน เผื่อบางทีเขาอาจจะไม่ชอบ เอ่อ...นางสาวเมธาวี เธอคิดอะไรไปไกล หมอปั้นแค่อยากช่วยเธอ เขาไม่ได้คิดจะมีอะไรกับเธอบ่อย ๆ หรอกมั้ง แต่ก็ไม่แน่นะ เมื่อคืนหมอปั้นก็เร่าร้อน อาจจะชอบก็ได้ ...เลิกคิดบ้า ๆ แล้วไปจัดการตัวเองได้แล้ว เสียงในสมองฉันฝั่งขวา ฝั่งซ้ายกำลังเถียงกัน ฉันมองดูเวลาสองทุ่มแล้วหมอปั้นยังไม่กลับอีก ไม่รู้ได้กินข้าวหรือยัง ฉันเลยทำแกงจืดไว้รอจนมันเย็นหมดแล้ว ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด คิดอะไรเพลิน ๆ ก็ได้ยินเสียงกดรหัสผ่านเข้าห้อง ก่อนที่เขาจะเดินมาด้วยท่าทางอิดโรย “ปั้น ทำไมกลับช้าจังงานยุ่งเหรอ” “อือ” คำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ของหมอปั้น แบบที่ฉันคุ้นเลย “กินข้าวมาหรือยัง” “ยัง” “ทำแกงจืดไว้ปั้นกินไหม เดี๋ยวญ่าอุ่นให้” “อือ” ดีใจที่เขายังไม่ทานข้าวข้างนอกมา อย่างน้อยแกงจืดก็ไม่เป็นหมัน “เสร็จแล้วมากินสิ” ฉันรีบจัดแจงอาหารมื้อแรกที่เป็นฝีมือตัวเองให้สามี ยังดีนะที่ตอนเรียนรายการอาหารชื่อดังของเมืองนอกดังมาก ฉันเลยไปเรียนทำอาหารตามกระแส ก็เลยทำอาหารได้หลายอย่าง “ญ่ากินหรือยัง” “กินแล้วค่ะ” “กินอีกได้ไหม ไม่อยากกินคนเดียว” ปั้นอยากให้ฉันกินข้าวด้วย ดีใจจัง “อร่อยไหมปั้น” ฉันตักแกงจืดให้เขาพร้อมทั้งถามออกไปอย่างคาดหวัง “อร่อย” ฉันนั่งกินเป็นเพื่อนหมอปั้นเงียบ ๆ กินไปมองหมอปั้นไป มีความสุขจัง...หยุดเดี๋ยวนี้ แกจะหลงรักหมอปั้นไม่ได้นะ ถึงเขาจะเป็นผัวแกก็เถอะ อีกหนึ่งปีแกต้องหย่ากับเขานะ เดี๋ยวแกจะเสียใจนะเมญ่า รู้แล้วน่ะ ไม่หลงรักหรอก เหมือนเดิมมันคือเสียงที่ตีกันในหัวฉัน ถามคำตอบคำ เฮ้อ! การอยู่กับใครสักคนมันยากเหมือนกันนะ เราข้ามคำว่าเพื่อนมาเป็นผัวเมียกัน มันเลยทำให้เราค่อนข้างอึดอัด ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องปรับตัวตรงไหนบ้าง หมอปั้นเป็นคนเงียบ ๆ มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ปกติฉันจะเป็นคนชวนคุยก่อนเสมอ หมอปั้นไม่เคยขัดใจฉัน ไม่ว่าอยากไปไหน ทำอะไร หากชวนเขาทำอะไรหมอปั้นทำหมด แม้แต่ครั้งนี้ที่ชวนมาเป็นผัวก็ยังมาเลย เขาไม่ค่อยแสดงออก ฉันเลยไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ที่ทำตามเพราะขี้เกียจฟังฉันบ่นหรือเพราะเต็มใจกันแน่ ฉันก็ไม่รู้เลย หรือจะเพราะความสงสารก็ไม่รู้ “พรุ่งนี้ปั้นอยากกินอะไรไหมตอนเช้า เดี๋ยวญ่าทำให้” ฉันถาม ตอนนี้กำลังจัดการล้างทำความสะอาดจานอยู่ “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้เธอต้องพักผ่อน” “ทำไมพรุ่งนี้ต้องพักผ่อน” ฉันเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ ฉันไม่ได้เป็นอะไรก็ไม่น่าจะต้องพักผ่อนนะ “ก็คืนนี้จะไม่ได้นอนไงล่ะ” “หา! ทำอะไรจะไม่ได้นอน” “ก็ทำแบบให้เทวดารู้ว่าเธอมีผัวแล้วไง ทำครั้งเดียวเผื่อเทวดา ไม่แน่ใจ ต้องทำบ่อย ๆ ปั้นทำเพื่อญ่านะ ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง ปั้นไม่อยากให้ญ่าคิดมาก เพราะอีกสองวันก็วันเกิดญ่าแล้ว” เอ่อ นี่คงเป็นประโยคที่หมอปั้นพูดยาวที่สุดตั้งแต่ฉันเจอเขามาแล้วไหม หน้าฉันร้อนมาก มันร้อนจนคิดว่าถ้าเอาเครื่องยิงอุณหภูมิมาวัดคงได้สามสิบเก้าองศาแน่เลย และแล้วคืนนี้หมอปั้นก็พาฉันขึ้นรถไฟเหาะ กระโดดตึก ดำน้ำ ควบม้า ลอยทะเล ใจฉันสั่นไปหมด หมอปั้นจะฆ่าฉันอีกแล้ว ครั้งเดียวก็บอกว่ากลัวเทวดาไม่รู้ ต้องตอกต้องย้ำถึงขนาดไหนปั้น เมญ่าว่าเทวดาเขาคงรู้แล้วมั้ง แต่หมอปั้นก็บอกฉันอีกว่าต้องเพิ่มรอบเพื่อความมั่นใจ “ที่ปั้นทำไปก็เพื่อญ่านะ ถ้าญ่าเป็นอะไรมาปั้นก็เป็นพ่อหม้ายสิ ปั้นต้องมั่นใจว่าเทวดาต้องรับรู้ว่าปั้นเป็นผัวญ่าแล้ว” จนแล้วจนรอดปั้นก็บอกเทวดาไปหลายรอบมาก ๆ คือถ้าใส่ถุงยางอนามัยหนึ่งหรือสองกล่องฉันยังไม่แน่ใจว่าจะพอ และแล้วฉันก็ไม่ได้ตื่นมาทำกับข้าวให้หมอปั้นอย่างที่เขาบอกจริง ๆ และต้องพักผ่อนตามที่หมอปั้นบอก เพราะไม่มีแรงแม้แต่จะก้าวขาลงจากเตียง จากเพื่อนมาเป็นเมีย ไม่ใช่เรื่องง่ายสินะ แล้วอีกสองวันฉันจะ อายุยี่สิบห้าปีบริบูรณ์ ฉันต้องทำให้เทวดามั่นใจว่าฉันมีผัวแล้ว ถึงจะแก้ดวงได้ หรือสิ่งที่หมอปั้นทำจะถูกต้องแล้วนะ “เมียจ๋า ปั้นไปทำงานก่อนนะ” “ค่ะ” “คืนนี้ค่อยมาเพิ่มรอบเพื่อความมั่นใจ” ‘เอ่อ หมอปั้นไม่คิดจะให้พักให้ผ่อนเลยนะ เบาได้เบานะคะ’ เมธาวีได้แต่บ่นในใจ ก็ใครจะกล้าบ่นออกมาตรง ๆ ล่ะ เขาก็บอกชัดเจนว่าทั้งหมดที่ทำเพื่อเธอ เขาทำเพื่อเธอทั้งนั้น ฉันซาบซึ้งใจจนขาสั่นไปหมดแล้วเนี่ย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม