'เช้าวันต่อมา 07:30นาที'
"ยัยแพรวาตื่นได้แล้ว..."ทันทีที่รู้สึกตัวตื่นขึ้น เสียงก็หวานเอ่ยปลุกเพื่อนรักที่นอนหลับพริ้มอยู่ข้างกายทันที ก็อย่างว่าเธออยู่ที่อังกฤษมานาน เลยทำให้เธอปรับตัวกับเวลาที่ไทยไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่
"อื้อออ ตื่นแล้ว"เสียงของแพรวางัวเงียดังขึ้นมาเบาๆ ดวงตากลมโตค่อยๆลืมขึ้นรับแสง ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆหยัดกายลุกขึ้นมานั่ง
"เดี๋ยวเช้านี้ฉันจะพาแกไปทานข้าวเช้าที่บ้านฉันนะ ลูกสาวสุดที่รักกลับไทยทั้งทีต้องไปรายงานตัวแต่เช้าหน่อย"เอิงเอยเอ่ยบอกแพรวาที่กำลังงัวเงียอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยื่นมือเรียวไปปัดเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้าสวยของเพื่อนรักอยู่ออกให้อย่างเอาใจใส่
"ได้สิ"ทันทีที่เอิงเอยพูดจบ แพรวาก็ตอบตกลงพร้อมกับรอยยิ้ม
"ป่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ"
พูดจบเอิงเอยก็ก้าวเท้าลงจากเตียงนุ่ม เเล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบล้างเนื้อล้างตัวทันที ส่วนแพรวาก็แยกตัวออกไปอาบอีกห้องที่ด้านนอก เพราะคอนโดของเอิงเอยมีห้องน้ำสองห้อง นั่นก็คือในส่วนห้องนอน และส่วนห้องนั่งเล่น
ทั้งสองคนใช้เวลาอาบน้ำนานนับ 30 นาทีกว่าจะอาบน้ำเสร็จ เมื่ออาบน้ำเสร็จพวกเธอก็พากันรีบแต่งตัวด้วยลุคชุดเดรสสวยสับ ก่อนจะมานั่งแต่งหน้าด้วยกันตามประสาสาวๆที่รักสวยรักงาม ซึ่งในระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังพากันนั่งแต่งหน้าอยู่นั้น แพรวาเองก็ขอให้เอิงเอยสอนแต่งหน้าลุคสายฝอ เพราะเอิงเอยไปอยู่เมืองนอกมานาน เธอคงจะเชี่ยวชาญเรื่องการแต่งหน้าลุคสายฝอมากแน่ๆ...
'20นาทีผ่านไป'
หลังจากที่พวกเธออาบน้ำแต่งตัวและแต่งหน้าเสร็จ พวกเธอก็พากันสำรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนที่พวกเธอจะพากันเดินลงไปที่ลานจอดรถ เพื่อขับรถไปบ้านหลังใหญ่ของเอิงเอยทันที...
'บ้านตระกูลภิญญาดล'
"ป่ะ เข้าไปข้างในกันเถอะแก"เมื่อรถสปอร์ตคันหรูแล่นมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านหลังใหญ่ ที่เธอนั้นได้จากไปเป็นเวลาเกือบ 4 ปี รอยยิ้มแห่งความดีใจก็เผยบนใบหน้าสวยทันที ก่อนที่เธอจะรีบเอ่ยปากชวนแพรวาเข้าไปในบ้าน
"อื้ม ไปกัน..."
สิ้นสุดคำพูดของแพรวา ทั้งสองคนก็พากันรีบลงจากรถ แล้วเดินเข้าไปในบ้านหลังใหญ่อย่างเงียบๆ ซึ่งในระหว่างที่เดินเข้ามา ใบหน้าสวยของเอิงเอยก็ชะเง้อมองดูเข้าไปแต่ไกล ว่าคุณหญิงพิมพ์แขกับคุณท่านประสิทธิ์กำลังทำอะไรกันอยู่....
"คุณพ่อขา คุณแม่ขา~"ทันทีที่เดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่ เสียงหวานก็เอ่ยเรียกผู้เป็นพ่อกับผู้เป็นแม่ด้วยความคิดถึงทันที
"เอยลูก มาให้แม่กอดหน่อยมา"ทันทีที่เสียงหวานคุ้นหูดังขึ้น คุณหญิงพิมพ์แขที่กำลังนั่งดูทีวีกับสามีอยู่ ก็รีบหันหมับไปดูยังต้นเสียงทันที ก่อนที่เธอจะรีบลุกขึ้นจากโซฟาหรู แล้วเดินอ้าแขนเรียวไปหาลูกสาวพร้อมกับรอยยิ้ม เพื่อรอให้ลูกสาววิ่งเข้ามาสวมกอดตัวเอง
ฟึ่บ
เอิงเอยวิ่งเข้ามาสวมกอดผู้เป็นแม่แน่นด้วยความคิดถึง อ้อมกอดที่เธอห่างหายไปนานนับหลายปี เมื่อก่อนอ้อมกอดนี้เคยอบอุ่นยังไง ตอนนี้ก็ยังคงอบอุ่นอยู่เหมือนเสมอไม่เคยเปลี่ยน....
"ไหนดูสิ ลูกสาวแม่โตเป็นสาวแล้วสวยขึ้นเยอะเลย จุ๊บ"เมื่อโอบกอดลูกสาวจนหายคิดถึงแล้ว พิมพ์แขก็ค่อยๆผละกอดออก พร้อมกับเอ่ยปากชมลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อน ก่อนจะตามด้วยการโน้มลงไปจุ๊บแก้มนุ่มของลูกสาวด้วยความเคยชิน...
"แม่คะ เอยไม่ใช่เด็กแล้วนะคะ"เอิงเอยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ด้วยสีหน้าท่าทางออดอ้อน เมื่อพิมพ์แขชอบจุ๊บแก้มเธอเหมือนกับตอนที่เธอนั้นยังเป็นเด็กอยู่
"หึ ก็แม่คิดถึงนี่น่า อ่อ แล้วนี่ลูกๆทานข้าวกันมาหรือยังจ๊ะ"เมื่อนึกขึ้นได้ พิมพ์แขก็รีบเอ่ยปากถามถึงเรื่องปากเรื่องท้องของลูกๆทันที
"ยังเลยค่ะ นี่แพรวาตั้งใจขับรถพายัยเอยมาที่บ้าน เพื่อมาทานข้าวฝีมือคุณแม่เลยนะคะ แพรวาคิดถึงอาหารฝีมือคุณแม่สุดๆเลยค่ะ"เป็นเสียงของแพรวาที่เอ่ยขึ้นด้วยคำพูดที่ดูสนิทสนม ใช่ ตั้งแต่เธอสนิทกับเอิงเอย เธอก็สนิทกับครอบครัวของเอิงเอยด้วย เช่นเดียวกันกับเอิงเอยที่สนิทกับครอบครัวของเธอ...
"ปากหวานจริงๆ มาจ้ะ ไปทานข้าวกับลูกๆกันค่ะคุณ"พิมพ์เเขพูดคุยกับลูกๆอย่างมีความสุข ก่อนจะหันใบหน้าสวยไปบอกสามีที่กำลังนั่งมองเธอกับลูกๆอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม
"ไปทานข้าวกันค่ะคุณพ่อ..."
สิ้นสุดคำพูดของเอิงเอยทุกคนก็พากันเดินไปนั่งร่วมโต๊ะอาหารเช้าอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากัน และทันทีที่ทุกคนนั่งประจำที่กันเรียบร้อยแล้ว ป้าน้อยที่เป็นแม่บ้านของตระกูล ภิญญาดล มาตั้งแต่เอิงเอยเกิด เธอก็รีบเดินมาตักข้าวใส่จานให้คุณท่าน คุณหญิง และคุณหนูของเธออย่างรู้หน้าที่ทันที...
"เป็นไงบ้างลูก การเดินทางครั้งนี้เหนื่อยไหม"ในระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวด้วยกันอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ประสิทธิ์ก็เอ่ยถามลูกสาวสุดที่รักของเขาถึงเรื่องการเดินทางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนทันที
"โอเคเลยค่ะคุณพ่อ ชิวๆเลยค่ะ"ปากเรียวสวยเอ่ยตอบผู้เป็นพ่อพร้อมกับรอยยิ้ม ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาหรืออุปสรรคอะไรสำหรับเธอเลย
"อื้ม ก็ดี ลูกกลับมาก็ดีเหมือนกันพ่อจะได้มีคนช่วยดูแลงานอีกแรง"ประสิทธิ์เอ่ยขึ้นเชิงออดอ้อนลูกสาว ซึ่งเอิงเอยเองก็ดูออก ก่อนที่เธอจะเอ่ยขึ้น...
"แน่นอนค่ะ ช่วงนี้เอยไฟกำลังมาเลยค่ะ คริคริ"เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมกับทำท่าฮึกเหิม ทำเอาทุกคนที่เห็นนั้นต่างก็พากันหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดูเธอ
สาวน้อยที่เป็นคนคอยสร้างยิ้มให้กับครอบครัวเมื่อหลายปีก่อนนั้น ตอนนี้เธอกลับมาสร้างรอยยิ้มให้ครอบครัวอีกครั้งแล้ว...
'2ชั่วโมงผ่านไป'
"คุณพ่อคะ คุณแม่คะ เดี๋ยวเอยพายัยแพรวาไปเดินเล่นที่ห้างก่อนนะคะ"หลังจากที่ทุกคนกินข้าวอิ่ม เอิงเอยก็เอ่ยปากบอกผู้เป็นพ่อกับผู้เป็นแม่ทันที
"ได้สิจ๊ะ นี่จ๊ะ ไปชอปปิงให้สนุกนะลูก"พิมพ์แขเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่น Black card ให้ลูกสาวหนึ่งใบ ซึ่งเธอก็ตั้งใจเอาไว้อยู่แล้วว่าเธอจะให้เป็นของขวัญลูกสาวในวันที่เอิงเอยบินกลับไทย
"ขอบคุณนะคะคุณแม่ จุ๊บ"ทันทีที่พิมพ์แขยื่น Black card ให้ เอิงเอยก็รีบขอบคุณพร้อมกับลุกขึ้นแล้วเดินไปจุ๊บแก้มของผู้เป็นแม่ทันที
"ส่วนนี่ของพ่อ อยากได้อะไรจัดได้เต็มที่เลยนะลูก"ในเมื่อภรรยาให้ของขวัญลูกสาวไปแล้ว คนเป็นพ่ออย่างเขาจะน้อยหน้าได้ยังไงกัน พูดจบประสิทธิ์ก็ยื่น Black card ให้ลูกสาวอีกหนึ่งใบเช่นกัน
"ขอบคุณนะคะคุณพ่อ จุ๊บ"ทันทีที่ผู้เป็นพ่อยื่น Black card ให้ เอิงเอยก็รีบเดินอ้อมไปฝั่งที่ประสิทธิ์นั่งอยู่ แล้วจุ๊บลงที่แก้มของเขาด้วยเช่นกัน
"เอยไปแล้วนะคะ บาย~"พูดจบเอิงเอยก็โบกมือเรียวบ๊ายบายประสิทธิ์กับพิมพ์แขที่กำลังนั่งยิ้มให้เธออยู่ ก่อนที่เธอจะกุมมือของแพรวาแล้วเดินออกไปจากบ้านหลังใหญ่ แล้วเดินไปขึ้นรถเพื่อเดินทางไปห้าง AA สุดหรูของพ่อเธอทันที
'30นาทีผ่านไป'
'ห้าง AA'
หลังจากที่พวกเธอนั่งรถมานานนับครึ่งชั่วโมง ตอนนี้รถสปอร์ตคันหรูของแพรวาก็แล่นเข้ามาจอดที่ลานจอดรถชั้น 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
"ไปกันแก ไปชอปปิงกัน"เอิงเอยเอ่ยปากชวนเพื่อนรักด้วยสีหน้าท่าทางตื่นเต้น เพราะว่าวันนี้เป็นวันแรกที่เธอจะได้ชอปปิงในห้างของพ่อตัวเองในรอบหลายปี
"ย่ะ ไปกันคร้าคุณเพื่อน"
ทันทีที่แพรวาพูดจบ เอิงเอยก็รีบยื่นมือเรียวไปควงแขนของแพรวาอย่างสนิทสนมทันที ก่อนที่ทั้งสองคนจะเดินเข้าไปภายในห้างสุดหรูอย่างมีความสุข
พวกเธอใช้เวลาเดินเข้ามาภายในห้างไม่ถึง 5 นาทีเลยด้วยซ้ำ และทันทีที่เดินเข้ามาถึงภายในห้าง เอิงเอยก็ไม่รอช้า เธอรีบลากแขนเรียวของแพรวาเดินไปชอปปิงเสื้อผ้าที่ชอปต่างๆอย่างตื่นเต้นทันที ถึงแม้ว่าที่นี่จะเป็นห้างของพ่อเธอ แต่เธอก็ไม่เคยคิดที่จะเอาสิ่งของหรือเสื้อผ้ามาฟรีๆเลย....