อย่ามาลองดีกับพี่

2475 คำ
หลังจากที่คีตะวันมีปฏิกิริยาตอบรับย่าหยาก็ยิ่งเดินหน้าชนหนัก​  หยอดทางสายตาทุกครั้งที่เด็กฝึกงานหุ่นล่ำเข้ามาส่งเอกสาร  ทั้งชวนคุยด้วยถ้อยคำส่อเสียดสองแง่สามง่ามพาให้คิดไปไกล​  ทั้งสายตาโลมเลียไปตามกายหนุ่ม​อย่างเปิดเผยเมื่ออยู่​มิดชิด “วันนี้เข้าอบรมด้วยนะ... เด็กฝึกอีกสองคนมาแล้ว​  เดี๋ยวตอนบ่ายพี่จะพาเข้าไปดูงานในสโตร์” ย่าหยาถือโอกาสใช้เวลาว่างเปิดเกมโหมบุกอย่างหนัก  เธอไม่อยากจะอดทนรออะไรอีกแล้ว  เธอหิวเนื้อกวางหนุ่มตรงหน้าอยากจะลิ้มชิมรสใจจะขาด “ครับ  แล้วผมต้องบอกพี่ภณก่อนไหม” พอเปิดทางให้อีกฝ่าย คีตะวันรู้สึกร้อนรุ่มน้อยลง.... แต่รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น  เขาเองในเวลานี้ก็อยากจะลงสนามเล่นเกมกับคนช่างยั่วดูเหมือนกัน “ไม่ต้อง​ เดี๋ยวพี่ไลน์บอกเอง” ย่าหยาว่าก่อนจะส่งยิ้มปิดท้าย หนุ่มหน้านิ่งพยักหน้าตอบก่อนจะผลักประตูออกมา​ เดินกลับมาที่โต๊ะของตัวเองด้วยความปกติ “อะนี่มาดูยอดส่งออกของเซตที่พี่ให้ดูในแค็ตตาล็อกเมื่อสักพักนะ​ เห็นไหมส่วนใหญ่จะเป็นญี่ปุ่นกับเกาหลี เขาซื้อไปเพราะ....” Rrrrrt~ ขณะที่เตชภณกำลังอธิบายงานให้กับคีตะวัน​ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังแทรกขึ้น   พี่เลี้ยงหนุ่มลุกจากเก้าอี้ก่อนจะหันมายกมือขอตัวออกไปคุยธุระแล้วชี้ไปที่จอคอมพิวเตอร์แทนคำสั่ง​   ให้คีตะวันศึกษาข้อมูลในคอมฯเองไปพลางๆ ก่อน ตึ๊ง!!~ ไลน์ของเตชภณที่เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ดังขึ้น​  ปรากฏข้อความจากใครบางคน​  เดิมทีคีตะวันจะไม่สนใจเพราะมันดูเสียมารยาท..... แต่พอเห็นชื่อคนส่งเข้าแล้ว มันทำให้อยากกดดูข้อความในคอมฯขึ้นมา -K’ย่าหยา- รูปที่ปรากฏหน้าโปรไฟล์​ และชื่อ ไม่ตรงกันกับที่เขามีอยู่  อันนี้ดูทางการกว่ามากด้วยเสื้อผ้าที่มิดชิด​  ท่าโพสและทุกอย่างที่ดูสมเป็นประธาน​ ต่างกับที่เขามี... รูปนั้นเหมือนนางแบบชุดนอนไม่มีผิด​ ทั้งแหวกทั้งเว้า​ ท่าโพสยั่วยวนชวนให้คิดนั่นอีก ‘แสดงว่าไลน์ที่ใช้ติดต่อเรื่องงาน กับเรื่องส่วนตัว คนละอันกันสินะ’ เด็กหนุ่มคิดขึ้นในใจ  คีตะวันเองไม่ใช่คนโง่​ เขาคิดตามเรื่องต่างๆ นำมาปะติดปะต่อกันก็พอจะเดาทางได้​  ว่าที่เขาได้ฝึกงานที่นี่​ ท่าทีเฟรนลี่ของประธาน   การพยายามเข้าหา​ เธอกำลังอ่อยเขาอยู่อย่างตั้งใจ!! “อ้าวมาๆ มาต่อนะ” หลังคุยโทรศัพท์เสร็จเตชภณก็กลับมาที่โต๊ะทำงาน​หวังจะอธิบายต่อ​  แต่พอเห็นข้อความของย่าหยาก็ทำให้ทุกอย่างต้องหยุดชะงัก 'พาเด็กฝึกงานไปรวมกับอีกสองคนที่เหลือเพื่อเข้าอบรมความปลอดภัยภายในโรงงาน​ และพบเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลเพื่อเรียนรู้กฎต่างๆ ภายในบริษัท'​ หลังอ่านข้อความเตชภณก็พาเด็ก​หนุ่ม​ฝึก​งานไปยังที่หมาย​  ด้วยเป็น​คำสั่ง​โดย​ตรง​จากประธาน​ “อบรมเสร็จก็ไปหาพี่นะ” เตชภณสั่งก่อนจะเดินกลับไปทำงานต่อ “คิล!!!” เสียงใสใสดังขึ้นเมื่อคีตะวันหันไปก็พบกับแอปเปิล​  เพื่อนร่วมสถาบันที่วิ่งเข้ามาหาเขาด้วยความดีใจ  เขาเองก็พลอยยิ้มตามรอยยิ้มสดใสของคนตัวเล็กไปด้วย “บอกแล้วไง ไม่ต้องเครียด.... ยังไงแอปเปิลก็ต้องได้ อย่างเรายังได้เลย” เขาพูดย้ำความคิดตัวเองอีกครั้ง “เอ้อ!! นี่เดฟเด็กฝึกเหมือนกัน  มาจาก ม.N  เราก็เพิ่งรู้จักตอนนั่งรออบรมนี่แหละ” แอปเปิลหันไปแนะนำเพื่อนใหม่หนุ่มหล่อสไตล์เกาหลีให้กับคีตะวัน​ “เดฟ นี่คิลเพื่อนที่คณะเราเอง” คีตะวันได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกใจหาย  เขาเป็นได้แค่นั้นเองหรือสำหรับเธอแล้ว  คุยกันมาก็ตั้งนาน.... เขาเองก็ชัดเจนว่าชอบ   แนะนำว่าเพื่อนเฉยๆ ว่าเจ็บแล้ว  เพื่อนร่วมคณะยิ่งฟังดูห่างเสียยิ่งกว่า   เขาทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ ให้กับอีกฝ่าย   เมื่อทุกอย่างพร้อมทุกคนก็เข้ารับการอบรม -บ่ายวันเดียวกัน- ช่วงเช้าคีตะวันใช้เวลาหมดไปกับการอบรม  แต่ด้วยเขานั้นเริ่มงานที่นี่มาก่อนแล้วช่วงบ่ายจึงได้กลับมาทำงานปกติไม่ต้องไปทำความรู้จักหน้าที่ใหม่เหมือนแอปเปิลและเดฟ พรานผู้​พร้อม​ล่าเหยื่อ​รอคอยเวลา​ให้คีตะวัน​กลับ​มาที่โต๊ะ​  เธอต้องการช่วงจังหวะนี้เพื่อการอยู่กันตามลำพัง​   “ภณ ทำอะไรอยู่อะ” ขณะที่เตชภณกำลังวุ่นอยู่กับแผนการตลาด  ประธานคนสวยก็เดินเข้ามาทักทาย พร้อมทั้งแอบส่งสายตาให้กับเด็กฝึกงาน “ทำแผนการตลาดครับ ” เตชภณละมือจากคอมพิวเตอร์แล้วรีบหันมาตอบ​ "คุณ​หยามีอะไร​หรือเปล่า​ครับ" “พอดีอยากไปดูของในสโตร์หน่อย​ ยืมตัวน้องฝึกงานได้ไหม” “เอาเลยครับ​ ตอนนี้น้องไม่มีอะไรทำพอดี” เตชภณว่าพร้อมทั้งผายมือเชิญ ‘เข้าทางสิแบบนี้... ’ ย่าหยาแอบคิดในใจเมื่อได้ตัวคนที่ต้องการแล้ว​ ร่างระหงก็เดินนำไปที่สโตร์โดยมีหนุ่มนักศึกษาเดินตามไปอย่างไม่รู้ชะตากรรม ภายในสโตร์​ที่​ประธาน​อย่าง​เธอ​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เข้า​มา​ด้วย​ตนเอง​ เธอ​เดิน​นำหน้า​ยกย้ายสะโพกสวยอวด​สัดส่วน​ของร่างกาย​ที่​มัดใจชายได้ทุกคน​  มีชายหนุ่ม​อายุ​น้อยกว่า​เดินตาม​พร้อม​กับ​สายตาที่จ้องมอง “นี่เป็นสโตร์เก็บชุดที่ตัดเสร็จแล้วรอแพ็คก่อนจะส่ง  เราจะรอยอดสั่งก่อนแล้วถึงจะผลิต  ได้ของจะเช็กความเรียบร้อยแล้วเก็บเข้าสโตร์....” ประธานสาวทำทีเป็นเดินไปอธิบายไป​  แต่ขาเรียวก็ก้าวฉับๆ เข้ามาที่มุมลับตาคนโดยรู้ดีว่าที่ไหนเหมาะ "........" เด็ก​ฝึกงาน​ที่​เข้าใจ​ว่า​มัน​คือ​การมาทำงานจึงจดจ่อ​จ้องมอง​ตามสิ่ง​ที่​คนนำหน้าบอก “ไหนพี่ขอแฟ้มหน่อย.... อุ๊ย!!” เธอกะจังหวะว่าชนแน่ ก่อนจะหยุดเดิน​  ก่อนจะหันกลับไปหาร่างสูงที่เดินตามหลังมาอย่างไม่ระวังตัว แน่นอนว่าทั้งคู่ชนกันเต็มแรงด้วยความตั้งใจ​ เนินอกอวบปะทะเข้าแผ่นอกกว้างจนเกิดจุดสปาร์ค​  อีกทั้งแขนแกร่งที่รีบโอบรัดเอวคอดไว้ไม่ให้ล้ม​  กลายเป็นคีตะวันยืนกอดร่างบางของย่าหยาแนบกาย​   สองสายตาจ้องประสานกันผ่านมุมมืดในโกดังด้วยที่ลับตา​  เมื่อได้สติคีตะวันทำท่าจะผละตัวออกแต่กลับเป็นย่าหยาที่เหวี่ยงแขนขึ้นไปกอดคอคนตรงหน้าไว้​  มีหรือ​ว่าพรานอย่างเธอจะปล่อย​โอกาส​ให้หลุดมือ “จะเฉยกับพี่ไปอีกนานแค่ไหน” เธอทนไม่ไหวกับอาการเฉยชาของเขาแล้ว  เมื่อเช้าก็เหมือนจะดีแต่ตกเที่ยงมานิ่งใส่ “ผมรู้นะว่าพี่คิดอะไร” เขาไม่ได้ปฏิเสธการกระทำของประธานคนสวย​ เพียงแต่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบตอบกลับไปด้วยไว้เชิง “รู้แล้วยังไง ถ้าไม่คิดอะไร.... พี่จะได้พอ​ แล้วลืมเรื่องในนี้ไป” “โดนรุกขนาดนี้  มันก็ตั้งตัวลำบากนะครับ” มือหนาเริ่มลูบไปที่บั้นท้ายงอนงาม​  เขาหมายตาอยู่ก่อนแล้วกับสะโพกสวยที่น่าสัมผัส​   ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะกล้าสัมผัสมันใกล้ชิด​แบบนี้ “พูดง่ายๆ ทำง่ายๆ ก็จบ​ ทำเป็นเฉยอยู่ได้” ย่าหยาต่อว่าคนปากหนักที่ปล่อยให้เธอต้องรุกอยู่ฝ่ายเดียวมาเสียนาน “อยากจะรู้ว่าพี่จะทำยังไง” “ก็ทำอย่างที่ทำอยู่นี่ไง  มีแต่เรานั่นแหละ...ทำได้แค่นี้เองเหรอ” เธอพูดก่อนจะปลายตามองมือที่ลูบอยู่บนบั้นท้ายของตัวเอง​  หมายต้องการให้เกิดการกระทำมากกว่านี้ “พี่เคยเห็นผมตอนเอาจริงหรือยัง  ถ้ายัง..... ก็อย่ามาร้องทีหลังละกัน” เขาก้มลงกระซิบบอกพร้อมกับบีบก้นงอนงามด้วยอารมณ์​ปลุกปั่น​  คนถูกเตือนหาได้เกรงกลัว..... กลับชอบคำกล่าวของเขามากกว่า “ก็รอดูอยู่.... อยากจะรู้ว่ามันจะต้องร้องดังขนาดไหน” ย่าหยาตอบกลับอย่างไม่กลัวเกรง​  “คุณย่าหยาอยู่แถวนี้ไหมครับ มีเอกสารสำคัญที่คุณเลขาตามให้ไปเซ็นครับ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากที่ไกลๆ ทำให้สองร่างกายที่ยังส่งสายตาประสานราวกับนักล่าสวาทต้องแยกออกจากกัน   ย่าหยาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนที่เธอจะใช้หางตามองไปยังเด็กหนุ่มหุ่นล่ำที่เธออยากจะกลืนกินตอนนี้ เกมรุกของเธอกำลังเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆด้วยความขัดใจ ความร้อนรุ่มในกายที่พยายามกดเก็บ  เธอต้องการกลืนกินคนตรงหน้าแต่หน้าที่การงานของเธอก็มากพอที่ต้องรับผิดชอบ ร่างระหงจึงต้องเดินแยกจากคีตะวันไปหาเสียงเรียก ก่อนที่จะเดินกลับเข้าออฟฟิศไปอย่างเสียดายที่ไม่ได้ลิ้มลองอะไรอย่างใจต้องการ ตั้งแต่บ่ายจนเจียนค่ำย่าหยาก็ยังสลัดความรู้สึกร้อนรุ่มออกจากร่างกายไม่ได้  สัมผัสของคีตะวันที่ลากสะโพกอวบของเธอด้วยน้ำหนักที่ร้อนรุ่มยังติดอยู่ที่ผิว  ภาพเหตุการณ์ในโกดังยังฉายวนในหัวซ้ำๆ ไม่จบไม่สิ้น   เธอทำได้เพียงนอนพลิกไปพลิกมาข่มตานอนให้ลืมเรื่องทั้งหมด แต่ยิ่งทำก็ยิ่งคิด.... หลับตาก็ยิ่งเห็น “ฮึ้ยยย!!! จะเอาให้ได้เลยใช่ไหมอีย่า!!  ถ้าไม่ได้มึงก็จะไม่นอนใช่ไหม!!” เธอแผดเสียงโวยขึ้นมาพร้อมกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียง  มือเรียวเอื้อมไปหยิบเอาโทรศัพท์ที่ชาร์จแบตฯบนหัวเตียงด้วยความหงุดหงิด  เธอเปิดแอพไลน์และเลื่อนหาคนที่ทำให้เธอร้อนรุ่มไปทั้งตัว  คนเดียวที่เธออยากจะติดต่อในเวลานี้เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘คีตะวัน’ -คิล- ย่าหยา : ทำไร ..นอนยัง เธอพิมพ์ข้อความก่อนจะกดส่งอย่างไม่ลังเล  เพียงไม่นานอีกฝ่ายก็กดอ่านและตอบอย่างเร็วเช่นกัน   คีตะวัน : ยังพี่ ปกติผมนอนดึก ย่าหยาคลี่ยิ้มอย่างพอใจเมื่อมันไม่ใช่การนิ่งเฉยอย่างที่คีตะวันทำอีกแล้ว การโต้ตอบแม้ข้อความก็ทำให้เธอพอใจได้อย่างมาก ทางฝั่งคีตะวันเองก็อาการหนักใช่ย่อย  เมื่อเขานึกถึงสัมผัสของบั้นท้ายงอนงามของประธานขี้อ่อยแล้วยังติดใจไม่หาย  หากได้ลองสัมผัสดูอีกสักครั้งโดยไม่มีเสื้อผ้ามาเกะกะคงจะดีไม่น้อย  มันคงจะรู้สึกดีกว่านี้หลายเท่าแน่ ย่าหยา : ว่างอยู่หรือเปล่า เพราะนิสัยใจร้อน  อีกทั้งตอนนี้คีตะวันเองก็ลงเล่นเกมนี้กับเธอแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกั๊กอีกต่อไปให้เสียเวลา  ย่าหยาส่งข้อความถามให้เขารู้ว่าเธอเชิญชวนอย่างจงใจ คีตะวัน : ว่าง ทำไมเหรอครับ? ย่าหยา : อยากขี่มอเตอร์ไซค์เล่น  เผื่อจะง่วง  พาไปหน่อยสิ  “.......” คนอ่านเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสนใจ ‘รุ่นใหญ่นี่ใจเด็ดขนาดนี้เลยเหรอ’ แต่นั่นมันก็ทำให้เขาพอใจเป็นอย่างมาก  ร่างสูงลุกจากเตียงเดินตรงไปใส่เสื้อผ้าทันทีอย่างไม่รีรอ  เขารู้และมั่นใจมากว่าคืนนี้ได้ทำศึกแน่หลังจากที่ห่างหายจากเรื่องพวกนี้ไปเสียนาน คีตะวัน : ขับรถแป๊บนะครับ คนถูกชวนไม่ปฏิเสธสักคำ  ซ้ำยังรีบเดินทางไปอย่างเร็ว ย่าหยา : เร็วๆนะ  ....รอไม่ไหวแล้ว คนชวนก็เร่งหวังจะได้สิ่งที่ปรารถนามานมนาน ร่างกายในชุดนอนผ้าลื่นกลิ้งไปบนที่นอนด้วยความพอใจ ก่อนที่เธอจะเดินไปที่กระจกบานใหญ่ของห้อง ร่างบางถอดเปลี่ยนชุดนอนผ้าลื่นออก ก่อนที่เธอจะสวมใส่ชุดนอนบางเบาสำหรับเหยื่อสวาทที่กำลังจะเดินทางมาหา   ฉีดพรมน้ำหอมบางเบาสร้างบรรยากาศ พร้อมกับเครื่องดื่มอ่อนๆที่เธอต้องการให้มีความสุขกว่านี้ กริ๊งงง เพียงไม่นานเกินรอเสียงกริ่งหน้าประตูที่ย่าหยาเฝ้ารอก็ดังขึ้น เธอรีบลุกจากโซฟาตัวยาวแล้วตรงไปเปิดประตูทันที   ด้วยชุดนอนสุดเซ็กซี่ที่มั่นใจว่าคนมองจะต้องอยากจะดื่มด่ำบนร่างกายของเธอ “ทำไมพี่ยังใส่ชุดนอนอยู่ ไหนว่าอยากไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นไง” เขาแกล้งถามทั้งที่รู้ทันแผนของย่าหยาอยู่แล้ว  สาวรุ่นพี่ที่กล้าบุกขนาดนี้คงไม่เสียเวลามากพอจะไปขี่รถเล่นแน่ “เปลี่ยนใจแล้ว ....อยากขี่คนขับมากกว่า” เธอว่าก่อนจะเอื้อมมือไปกระชากแขนเด็กหนุ่มเข้ามาในห้อง  มือหนาเอื้อมไปปิดประตูลงกลอนก่อนจะกลับมาโอบเอวบางที่ร่างกายหอมฟุ้ง  ร่างกายหญิงสาวที่อายุมากกว่าและยังเป็นถึงประธานบริษัทที่พาให้เขาตั้งใจมาที่นี่ในคืนนี้อย่างไม่ลังเล “เครื่องมันแรง... พี่จะขี่ได้เหรอ” คำพูดคำจาผิดกับตอนที่เจอกันที่บริษัทอย่างกับคนละคน สายตาหื่นที่ไล้โลมไปทั่วร่างกายของคนในอ้อมกอด  เขาไม่มีความเกรงใจอะไรอีกแล้วกับประธานบริษัทที่เขาทำงาน ชุดนอนบางเบาที่มองเห็นทะลุไปถึงเนื้อในของร่างกาย ชุดนอนไม่ได้นอนที่เซ็กซี่เสียยิ่งกว่านางแบบญี่ปุ่นที่อยู่บนแค็ตตาล็อกของบริษัท  อกอวบที่มีเพียงชุดนอนบางเบาขวางกั้นขยับเข้าหา  มองได้อย่างชัดเจนว่ายอดถันชูชันบ่งบอกว่าเธอปรารถนาเขามากขนาดไหน “มันจะแรง...จนต้องนอนจมที่นอน ลุกไปทำงานไม่ไหวเลยหรือเปล่า…” ย่าหยาถามพร้อมกับยกมือขึ้นลูบไปบนสันกรามก่อนจะค่อยๆ ประคองโน้มเอาศีรษะของคนตัวสูงให้ก้มลงมาลิ้มชิมรสจูบแสนเร่าร้อนของเธอ ริมฝีปากเล็กเบียดชิดริมฝีปากพร้อมกับสอดแทรกเรียวลิ้นสอดประสานกับชายตัวสูง เขาไม่ได้เกรงกลัวต่อเธอแม้แต่น้อย กลับจูบตอบสนองดูดดึงริมฝีปากบางได้รูป “อื้ม...ก็ต้องลองดู  ..ว่าพี่จะไหวหรือเปล่า” คีตะวันถอนจูบก่อนจะตอบกับสาวสวยตรงหน้า “งั้นก็พิสูจน์สิ  พี่อดใจรอไม่ไหวแล้ว”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม