ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้าที่แมมมอธจะมาหาน้องชาย ไมเนอร์นั้นดื่มจนพอใจเตรียมตัวจะกลับแต่ดันหากระเป๋าตังตัวเองไม่เจอ เขาเองไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำหายไปตอนไหนรู้ตัวอีกที่กระเป๋าตังราคาแพงหูฉีกของเขาก็หายไปกับสายลมเสียแล้ว
“ทั้งหมดสองพันห้าร้อยบาทครับ” พนักงานยื่นบิลมาตรงหน้าของไมเนอร์
“แปบนึงนะครับ” ไมเนอร์หากระเป๋าตังเท่าไรก็หาไม่เจอ
“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับคุณลูกค้า”
“กระเป๋าตังของผมหายครับ”
“ลองหาดูดีๆอีกครั้งหนึ่งดีไหมครับ”
“ผมหาดีแล้ว เดี๋ยวผมค่อยมาจ่ายแล้วกัน”
“จะออกไปแบบนี้ไม่ได้นะครับเรียกผู้จัดการเร็ว”
“ผมไม่ได้จะคิดหนีนะ”
“มีเรื่องอะไรกัน”
“ลูกค้าท่านนี้อ้างว่ากระเป๋าตังหายแล้วจะไม่จ่ายครับ”
“เดี๋ยวผมโทรเรียกพี่มาจ่ายให้ก็ได้”
“จับตัวเอาไว้” อภิวัฒน์สั่งลูกน้องเสียงเข้ม มีกรณีอย่างนี้หบายครั้งที่เด็กวัยรุ่นเข้ามาแล้วเนียนไม่ยอมจ่ายค่าเครื่องดื่ม
“พี่แมมมอธทางนี้ครับพี่ พี่ผมมาแล้วปล่อยผมนะ”
“มีเรื่องอะไรกันทำไมต้องจับตัวน้องชายผมด้วย” เขาถามออกไปเสียงเข้ม
“นะ น้องชายของคุณแมมมอธหรอครับ” อภิวัฒน์ผู้จัดการร้านถามกลับเสียงสั่น
“ใช่”
“ปล่อยตัวน้องชายของคุณแมมมอธสิ” อภิวัฒน์รีบหันไปบอกลูกน้องทันที
“ครับบอส”
“สรุปมีเรื่องอะไรกัน”
“คือน้องชายของคุณแมมมอธกำลังจะออกไปโดยที่ไม่ได้จ่ายตังค์ครับ”
“ผะ ผมโดนขโมยกระเป๋าตังค์ไปครับ พยายามอธิบายแล้วแต่พวกเขาไม่เชื่อ”
“ที่อย่างนี้มีขโมยได้ยังไง” เขาหันไปถามอภิวัฒน์ด้วยความไม่เข้าใจ ผับหรูแบบนี้มันต้องมีการคัดกรองคนก่อนไม่ใช่หรือ
“ผมขอโทษครับทางเรายินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้ครับ ส่วนค่าบิลที่เรียกเก็บวันนี้ทางเราไม่เรียกเก็บแล้วครับ”
“เรื่องจบง่ายจังเลยแหะ” ไมเนอร์พูดออกไปลอยๆ
“แกนี่มันก่อเรื่องได้ตลอดนะไมเนอร์ ไปขึ้นรถสิ”
“คร๊าบ ผมไปแล้วคร๊าบ” ไมเนอร์รีบวิ่งไปที่รถของคนเป็นพี่ทันที เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเขาก็ถามไถ่น้องชายทันทีว่าในกระเป๋ามีของสำคัญอะไรบ้างนอกจากเงินเพราะถ้าคนที่ขโมยไปเอาบัตรต่างๆไปทำธุรกรรมจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน
“มีแค่บัตรฟิตเนสครับชั่งมันเถอะส่วนเงินมีอยู่สามพัน ดีนะที่ผมเอาใบนี้มาเพราะถ้าเอาอีกใบมานะแย่แน่ ในนั้นมีบัตรเครดิตไม่จำกัดที่คุณแม่ให้ไว้ด้วย”
“ก็ดีว่ายังดีแต่นายก็ไม่ควรจะประมาทอีกนะ ที่สำคัญเลิกเที่ยวบ้างเถอะ”
“ผมกำลังปรับตัวอยู่”
“คิดได้ก็ยังดี”
“ผมไปนอนคอนโดกับพี่แล้วกันไม่อยากโดนคุณแม่บ่น”
“ไม่ได้” ชายหนุ่มปฏิเสธออกไปแทบจะทันที แม้จะรู้ว่าไมเนอร์ต้องสงสัยแต่เขาก็เลือกจะปฏิเสธเพราะยังไม่อยากให้คนในบ้านรับรู้เรื่องราวของสาวน้อยที่เขาพามานอนกกกอดตลอดทั้งคืน แค่นึกถึงก็คิดถึงคนที่กำลังนอนหลับปุ๋ยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาออกมาข้างนอก
“ทำไมละครับเมื่อก่อนผมก็ขอไปนอนด้วยออกจะบ่อย แล้วทำไมพี่ต้องยิ้มด้วยมีอะไรดีๆแต่ยังไม่บอกผมหรือเปล่าครับ” ไมเนอร์ถามออกไปด้วยความไม่เข้าใจ คอนโดของพี่ชายนั้นคือฐานทัพสำรองของเขาเลย
“ตอนนี้ไม่ได้ก็คือไม่ได้อย่าถามมากหน่า”
“ฮั่นแน่หรือว่าคืนนี้พี่นัดสาว”
“อืม”
“เซ็ง งั้นผมไม่กวนพี่ก็ได้ผมเข้าใจว่าพี่ต้องการปลดปล่อย” ไมเนอร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“เข้าใจก็ดี”
“คร๊าบ” ยอมให้พี่ชายพาไปส่งที่บ้านแต่โดยดี และแน่นอนว่าโดยคนเป็นแม่บ่นชุดใหญ่เพราะใจจริงท่านไม่อยากให้ลูกชายออกไปไหนดึกๆดื่นๆอย่างนี้ หล่อนคิดว่ากระเป๋าตังหายไม่เป็นไรขอแค่ลูกชายกลับมาปลอดภัยก็พอ
“แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าไม่ให้ออกเที่ยวตอนดึกๆ ถ้าลูกเจอคนไม่ดีจะเกิดอะไรขึ้นบ้างรู้ตัวหรือเปล่า”
“…”
“ลูกต้องให้พี่ชายของลูกเดือดร้อนอยู่เรื่อย แม่ขอบใจมากนะลูกที่พาน้องกลับมาส่ง” แพรวากล่าวขอบคุณลูกชายคนโต เป็นอย่างนี้เสมอที่แมมมอธมักจะจัดการปัญหาต่างๆให้น้องชาย
“ครับแม่ ผมขอตัวก่อนดีกว่า”
“ไม่ค้างที่บ้านหรอลูกนี่ก็ดึกแล้วนะ”
“ดึกแล้วรถไม่ติดสบายๆครับแม่ ผมไปก่อนครับฝันดีนะครับ” แมมมอธก้มลงไปหอมแก้มคนเป็นแม่ฟอดใหญ่ เขาทำเหมือนสมัยยังเป็นเด็กชายตัวน้อยๆ คนเป็นแม่ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข