ยิ่งใกล้ยิ่งเจ็บ

1522 คำ
เมื่อเนตรดาวเอานาฬิกามาคืนผม ผมก็รีบหยิบจากมือเธอมาสวมทันที แล้วกับยิ้มให้กับเนตรดาวไปตามมารยาท พร้อมกับแอบชำเลืองหางตามองไปที่กันยา ผมไม่แน่ใจว่าที่เธอแสดงออกมาแบบนั้นกำลังหึงผมอยู่หรือเปล่า "ตามหาตั้งนานไปขึ้นห้องเถอะ คลาสแรกพบอาจารย์ที่ปรึกษา แม่ง.... กูอยากจะความรู้จักกับสาวๆ เต็มที" นั่นคือเสียงของไผ่เพื่อนสนิทอีกคนของสิงโต ทั้งสองรู้จักกันมานาน เพราะเรียนมอปลายอยู่โรงเรียนเดียวกัน ผลัวะ!! เขตแดนใช้ฝ่ามือตบลงไปที่ ศีรษะของเพื่อนอย่างแรง ด้วยความหมั่นไส้ ที่ไผ่ตั้งใจจะมาเหล่สาวในวันนี้ "เฮ้ย! ไอ้เขตแดนกูเจ็บนะเว้ย" ไผ่พูดพร้อมกับเอามือลูบลงที่ศีรษะไปมา แล้วใช้สายตามองไปที่เขตแดนอย่างเอาเรื่อง "พวกนายสองคนเล่นอะไรกัน" เนตรดาวเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยู่ในกลุ่มได้พูดขึ้น พร้อมกับทำหน้าเซ็งๆ ซึ่งเนตรดาวกับเขตแดนเป็นเพื่อนสนิทกัน ทั้งคู่รู้จักกับสิงโตและไผ่ในวันสอบ จากนั้นมาก็ติดต่อกันมาโดยตลอด จนกระทั่งผลสอบออก ปรากฏว่าทั้งสี่คนสอบติดที่นี่ จากนั้นพวกเขาก็สนิทกันจวบจนทุกวันนี้ "เนตรเธอเอานาฬิกา ให้ไอ้สิงโตหรือยัง" เขตแดนได้ถามเพื่อนขึ้น เพราะเมื่อคืนทุกคนไปปาร์ตี้กันที่ห้องของเขา แล้วเผอิญว่าไผ่ทำเหล้าหกใส่สิงโต ชายหนุ่มจึงไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดที่ห้องของเขตแดน ซึ่งคอนโดของเขานั้นมีอยู่ ด้วยกันสองห้องนอนและอีกห้องก็เป็นของเนตรดาว เช้าวันใหม่เธอตื่นขึ้นมาแล้วรีบเดินไปปลุกเขตแดนเพื่อมาเรียน จึงเห็นนาฬิกาของสิงโตวางอยู่บนที่เตียงนอน เพราะช่วงกลางคืนเขาเข้าไปอาบน้ำแล้วลืมเอาไว้ หญิงสาวจึงหยิบมาคืนชายหนุ่ม แต่เป็นจังหวะที่กันยาอยู่ด้วยพอดี จึงทำให้เธอนั้นคิดไปไกลและรู้สึกเสียใจ กับประโยคที่ได้ยิน ภายในห้องที่เต็มไปด้วยนักศึกษามากหน้าหลายตา และที่สำคัญหนุ่มสาวสมัยนี้มีแต่หน้าตาดีทั้งนั้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะว่าการศัลยกรรมใบหน้า เป็นเรื่องปกติของคนสมัยนี้ไปแล้ว สิงโตเดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับเพื่อนๆ ของเขา จากนั้นชายหนุ่มได้กวาดสายตามองหากันยาซึ่งตอนนี้เธอนั่งอยู่แถวหน้าริมสุด และนั่นทำให้ชายหนุ่มถึงกับเผลอยกยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก เมื่อเธอยังคงเป็นเด็กเรียนเหมือนอย่างเคย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี กันยากก็ยังคงมุ่งมั่นในเรื่องเรียนไม่เปลี่ยนแปลง "เฮ้ยแก... หล่อจังยังกับโอปปาเลย" หญิงสาวในชุดนักศึกษา ที่นั่งอยู่ด้านหน้า แถวที่สองรองจากกันยาพูดออกมาเสียงดัง ส่งผลให้ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม ในขณะที่ไผ่และเขตแดนนั้นก็หน้าตาดี ไม่แพ้สิงโต เพียงแค่ชายหนุ่มสองคนเตี้ยกว่าเขาเล็กน้อย จึงทำให้สิงโตดูโดดเด่นเป็นสง่ากว่าใครเพื่อน ในขณะที่ทุกคนดูจะตื่นเต้น เมื่อเห็นหนุ่มหล่อ กันยากลับเอาแต่ก้มหน้า นั่งเล่นโทรศัพท์ไม่สนใจใคร ซึ่งเธอพอจะเดาได้ว่าชายหนุ่มที่สาวๆ กรี๊ดกร๊าดนั่นเป็นใคร แต่หญิงสาวกำลังคิดว่า มันคงไม่มีประโยชน์อะไรเมื่อเขามีใครอีกคน เธอก็ไม่ควรที่จะเข้าไปแทรกกลางระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น "สิงโตนายจะไปไหนมานั่งตรงนี้สิ" เนตรดาวคว้าแขนสิงโตเอาไว้ เพื่อให้ชายหนุ่มมานั่งโต๊ะข้างๆ เธอ ในขณะที่ไผ่และเขตแดนก็นั่งลงที่โต๊ะว่างถัดจากเนตรดาว "สงสัยจะมีแฟนแล้ว ดูสิ เขาจับมือถือแขนกันด้วยเสียดายจัง" "อืม... อิจฉาผู้หญิงคนนั้นจังเลยแก" "ฉันว่าแล้วเชียวหน้าตาดีอย่างกับเทพบุตรเหมือนกับพระเอกหนัง ไม่มีทางตกถึงท้องพวกเราหรอกเซ็งชะมัดเลย" คำพูดของเพื่อนร่วมห้อง ที่สนทนากันออกมาเบาๆ แต่ในระยะเผาขนฉันก็ได้ยินอย่างถนัด จนทำให้ฉันอดที่จะชำเลืองสายตาแอบมองไปที่สิงโตไม่ได้ ภาพที่ผู้หญิงคนนั้นกุมมือสิงโตเอาไว้ ทำให้ฉันเข้าใจแล้วว่า สิ่งที่ฉันคิดเอาไว้ไม่ผิดแน่ เขามีแฟนแล้วจริงด้วย "เราว่าจะไปนั่งแถวหน้า มันมีที่ว่างอยู่หนึ่งที่ เผื่ออาจารย์พูดถึงหัวข้อที่สำคัญ เราจะได้เลคเชอร์ทัน" ผมพูดพร้อมกับพยายามจะเดินไปที่โต๊ะด้านหน้า แต่เนตรดาวก็คว้าแขนผมเอาไว้พร้อมกับดึงไม่ให้เดินออกไป "นั่งตรงไหนก็เหมือนกันแหละ นั่งลงสิสิงโต ถ้านายจดไม่ทันเดี๋ยวเนตรจดเผื่อเอง" ในที่สุดข้ออ้างของผมก็ไม่ได้ผล ในขณะที่ไผ่และเขตแดน มองมาที่ผมด้วยความสงสัย ผมเลยต้องยอมนั่งลงไปที่โต๊ะข้างๆ เนตรดาว แต่สายตาของผมยังคงจับจ้องไปที่กันยา ผมอยากรู้ว่าแผลที่เข่าของเธอเป็นยังไงบ้างมันยังระบมอยู่หรือเปล่า แล้วเธอเจ็บตรงไหนไหม แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปถาม ผมคงไม่มีสิทธิ์ที่จะตีสนิทกับเธอ ผมเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงได้เฉยชานัก ทำอย่างกับว่าไม่เคยรู้จักกับผมมาก่อน "กว่าอาจารย์จะเข้ามาก็อีกตั้งครึ่งชั่วโมง กูไม่รอแล้วนะเว้ย! " นักศึกษาชายด้านหลังพูดกันเสียงดัง เพราะพวกเขาเหล่านั้นอยากจะทำความรู้จักกันยา "กูรู้ว่ามึงกล้า มึงเก่ง แต่ท่าทางของเธอเหมือนเด็กเรียนมากเลย เด็กหลังห้องอย่างพวกเราใครเขาจะมาสนใจ" "ตอนนี้กูพนันได้เลยว่า ผู้หญิงสวยๆ หน้าตาคุณหนูอย่างเธอ ไม่มีทางพูดกับพวกเราหรอก" นักศึกษาชายในแก๊งพูดขึ้น เมื่อพวกเขาก็คิดว่าผู้หญิงอย่างกันยาต้องอยู่ในประเภทที่สวยเลิศเชิดหยิ่งอย่างแน่นอน "ไม่ลองก็ไม่รู้ พวกมึงคอยดูก็แล้วกัน เธอจะพูดกับกูไหม" นักศึกษาหนุ่มหน้าตาดีกว่าเพื่อนในกลุ่มพูดขึ้น พร้อมกับลุกเดินตรงไปที่กันยา แต่โดยรวมชายหนุ่มทุกคนในกลุ่มก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไรหน้าตาก็ดูหล่อเหลา แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่มั่นใจในตัวเอง "เอ่อ... ขอโทษนะ เธอชื่ออะไร... เราชื่อจิงโจ้ยินดีที่ได้รู้จัก หรือจะเรียกสั้นๆ ว่าโจ้ก็ได้" ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้ากันยา พร้อมกับเอามือล้วงที่กระเป๋ากางเกง เพื่อทำให้ตัวเองนั้นมีความเขินลดลง ฉันรู้สึกแปลกใจที่อยู่ดีๆ ก็มีชายหนุ่มมายืนตรงหน้าแล้วถามว่าฉันชื่ออะไร และนั่นจึงทำให้ฉันละสายตาจากจอสมาร์ตโฟน แล้วเงยขึ้นไปมองใบหน้าคมที่ดูหล่อเหลาเอาการเหมือนกัน แต่ทำไมหัวใจของฉันจึงไม่เต้นแรงน่าแปลกจัง "เราชื่อกันยายินดีที่ได้รู้จักนะโจ้" ฉันแนะนำตัวกับเขาไปพร้อมกับฉีกยิ้มกว้างตามสไตล์ของฉัน ที่ทุกคนมักจะบอกว่าฉันยิ้มทีไรเหมือนกับโลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพู เพราะรอยยิ้มของฉันนั้นพิมพ์ใจสดใสกว่าใครๆ แต่เขากลับมองฉันมาด้วยสายตาที่หวานหยาดเยิ้ม จิงโจ้ยืนนิ่งราวกับถูกสาปให้เป็นหิน ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมเขาถึงมีท่าทีแบบนี้ด้วย ผมนั่งฟังนักศึกษาชาย ที่อยู่ด้านหลังคุยกัน พร้อมกับความรู้สึกที่อยากจะลุกเดินเข้าไปชกหน้า แค่ได้ยินที่พวกมันพูดถึงกันยา ก็ทำให้ผมนั้นเก็บอาการแทบไม่ไหว ไม่รู้ว่าทำไมถึงรู้สึกห่วง และหวงเธอมากไปแบบนี้ด้วย แถมไอ้หน้าหล่อนั่น ยังเดินตรงไปที่กันยาพร้อมกับแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เหมือนกับพยายามจะจีบเธอ ผมรู้สึกไม่ชอบใจเวลาที่เห็นผู้ชาย เข้าใกล้เธอแบบนี้ มิหนำซ้ำกันยายังพูดกับมันด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรและไมตรี เธอไม่คิดที่จะเล่นตัวหน่อยหรือไง "ไอ้สิงโต" ไผ่ยกเท้าขึ้นมาสะกิดเพื่อน จากทางด้านหลัง จึงทำให้ชายหนุ่มรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ก่อนจะหันหน้าไปมองที่ไผ่ "มีอะไร" ผมถามออกไปเหมือนกับรำคาญไผ่มากกว่า พร้อมกับทำหน้าเหมือนกับว่าไม่ค่อยเต็มใจที่จะพูดกับใครในตอนนี้ แต่ว่าเพื่อนของผมนี่สิ ดูแล้วไม่มีทีท่า แถมมันยังลากเก้าอี้เข้ามานั่งใกล้ๆ ผมอีกด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม