บทที่ 9

1600 คำ
ดวงตางามเศร้าลงทันที..ความผิดของเราหรือเปล่า ที่ทำให้เขาต้องได้หยุดเรียนไปอีกครั้ง เราไม่น่าดึงเขาเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย..ทำไงดี เที่ยงวันเดียวกัน.. ช่อชบาเห็นนิสาเดินออกจากห้องไปก่อนวัลลภ หญิงสาวก็เลยเดินเข้าไปเพื่อที่จะสอบถามอะไรบางอย่างกับเขา "ฉันถามอะไรนายหน่อยสิ นายต้องตอบตามความจริงนะ" ที่จริงช่อชบาไม่อยากจะเจรจาอะไรกับเขาอีกแล้ว ตัดก็คือตัด แต่เรื่องนี้เธอต้องรู้ความจริงให้ได้ "เธอจะถามอะไรฉันอีก" วัลลภมองไปที่ประตู กลัวว่าเมียจะเดินกลับมา "จะถามก็รีบถามมา" "นายเป็นคนจ่ายค่าโรงแรมนั่นจริงไหม" หลายวันมานี้ ช่อชบาคิดว่าคนที่จ่ายค่าโรงแรมก็คือวัลลภ เพราะถ้าเขาจะจ่ายให้ มันเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับคนที่มีฐานะอย่างพวกเขา เธอก็เลยไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ แต่พอได้ยินดารินพูดขึ้นมา ทันใดนั้นนิสาก็เดินกลับมา..เพราะมองกลับไปด้านหลังสามีไม่เดินตาม ก็เลยต้องรีบกลับมาดูที่ห้องเรียน "ที่เธอถามหมายความว่ายังไง" และนิสาก็ได้ยินเต็มสองหู วัลลภรีบมองไปที่ประตู ใบหน้าหล่อของเขาซีดลงทันตา "นิสา" "ตอบมันไปสิคะวัลลภ นิสาก็อยากจะรู้เหมือนกัน ว่าคืนนั้นใครเป็นคนจ่าย" "เราไม่ใช่คนบ้านะ ที่จะไปจ่ายค่าโรงแรมตั้งหลายแสนขนาดนั้น" จบคำพูดวัลลภก็เดินมาควงแขนภรรยาออกไป โดยที่ไม่สนใจช่อชบาเลย "ถ้าไม่ใช่วัลลภ..งั้นเป็นนายใช่ไหมธนู" ช่อชบาวิ่งออกมาที่หน้ามหาวิทยาลัย เธอตรงไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อจะไปที่... @โรงแรมที่ใช้จัดงานคืนนั้น.. "สวัสดีค่ะฉันอยากจะสอบถามเรื่องผู้ชายที่ชื่อธนู..เขาเคยทำงานที่นี่" หญิงสาวไม่เข้าเรียนภาคบ่าย เพราะเธอจะมาสอบถามเรื่องของเขาให้แน่ใจ "ธนู? ธนูไหนคะ คุณเป็นญาติหรือเปล่า" "ฉันไม่ใช่ญาติค่ะ แต่อยากจะสอบถาม เพราะไม่เห็นเขาไปเรียนหลายวันแล้ว" "เรียน?" พอพนักงานได้ยินมาถึงตรงนี้ คงไม่ใช่ธนูเดียวกันแล้วล่ะ ก็เลยตอบปฏิเสธไปว่าไม่รู้จัก ช่อชบาไม่ทิ้งความตั้งใจ เธอแอบเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง แต่ก็ไม่เจอใคร หญิงสาวแอบเดินไปเรื่อย ๆ เผื่อเจอเขา เพราะยังไงวันนี้เธอก็ว่างแล้ว.. หนึ่งเดือนผ่านไป ในระยะเวลาเดือนกว่าที่ผ่านมา เธอถูกเพื่อนล้อมาโดยตลอด ว่าถูกผู้ชายทิ้งกลางอากาศ เพราะอยู่ดี ๆ เขาก็หายไปและไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย "แกเก่งจังเลยว่ะที่อดทนได้" ดารินชมเพื่อน เพราะถ้าดารินเป็นคนเจอสถานการณ์แบบนี้เอง คงถอยไปนานแล้ว "ฉันมีทางเลือกเหรอ ฉันจำเป็นต้องเรียนให้จบ เพราะฉันคือความหวังเดียวของครอบครัว" เรื่องอับอายใครจะไม่อายล่ะ แต่เธอก็เป็นคนผิดเอง ที่ดันไปแนะนำเขาว่าเป็นสามี ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักเขาเลยด้วยซ้ำ เรื่องใครเป็นคนจ่ายค่าโรงแรมในคืนนั้น มันยังคาใจของช่อชบามาจนถึงทุกวันนี้ และตอนนี้เธอได้ศึกษาจนจบปริญญาตรี แถมยังคว้าเกียรตินิยมอันดับ 2 มาครองได้ และทางมหาวิทยาลัยได้ติดต่อที่ทำงานให้กับนักศึกษาที่จบใหม่ ถ้าใครยังไม่มีที่ทำงานก็สามารถเข้าไปทำงานในบริษัทนี้ได้ โดยยื่นเอกสารของทางมหาวิทยาลัย และมีเพื่อน ๆ ในห้องหลายคนสนใจ เพราะยังไงทุกคนต้องหางานทำอยู่แล้ว และนี่มันก็เป็นโอกาสดีมากสำหรับนิสิตนักศึกษาที่จบใหม่ "เราคงคิดถึงแกแย่" ช่อชบาคว้าตัวของดารินเข้ามากอดไว้ "คุณพ่อกับคุณแม่ อยากให้เราต่อให้จบปริญญาโท" ใช่แล้วดารินไม่ได้ไปทำงานด้วย เพราะเธอจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเป็นเวลา 2 ปี "เราคงต้องรีบทำงานสร้างเนื้อสร้างตัว แกโชคดีที่ไม่ต้องดิ้นรนอะไรเลย" ช่อชบาต้องรีบซับน้ำตาออก เธอคงจะคิดถึงเพื่อนคนนี้มาก เพราะชีวิตนี้เธอมีเพื่อนแค่คนเดียวที่เข้าใจ งานรับปริญญาได้ผ่านพ้นไป..และวันนี้ทุกคนที่สมัครไปทำงานที่บริษัทนั้นก็ได้มารวมตัวกันที่หน้าบริษัท "ป้าดดด บริษัทอีหยังมาใหญ่โตป่านนี้" บางคนก็เป็นคนอีสานที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ถึงกับอุทานเป็นภาษาบ้านเกิด (บริษัทอะไรทำไมถึงใหญ่โตขนาดนี้) "น้อง ๆ ที่มาจากมหาวิทยาลัย ที่สมัครงานไว้..ใช่ไหมจ๊ะ" ฝ่ายบุคคลของบริษัท ไม่ใช่แค่ห้องเรียนของช่อชบาที่มาขอทำงานที่นี่..รุ่นเดียวกันอีกหลายห้องก็มาสมัครทำงานที่นี่เหมือนกัน ถือว่าเป็นความโชคดีของรุ่นนี้มาก ที่มีบริษัทรองรับ เพราะทุกรุ่นไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ต้องเดินหางานเองจนรองเท้าสึกไปหลายคู่ก็ยังไม่ได้งาน บริษัทที่พวกเธอเข้ามาทำงานเป็นบริษัทเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตชิ้นส่วนเล็ก ๆ ของคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งโทรศัพท์ "สวัสดีพนักงานใหม่ทุกคนจ้า เรามารู้จักกับหัวหน้าแผนกกันหน่อย" และทุกที่ในที่ทำงานต้องมีหัวหน้ารองหัวหน้า "พี่ชื่อเนตรนภา ส่วนรองหัวหน้าแผนกนี้ก็เพิ่งจะจบมาใหม่รุ่นเดียวกับพวกน้อง ๆ เลย" ทุกคนต่างก็มองหน้ากันแบบสงสัย ใครที่จบมารุ่นเดียวกันแล้วได้เป็นรองหัวหน้าแผนกที่นี่ "ไฮ..เราเอง" คนที่เดินมาก็คือนิสา..นิสาใช้เส้นสายของตัวเองเพื่อที่จะเข้ามาทำงานที่นี่ก่อนเพื่อน เพราะอยากให้เพื่อน ๆ เห็นว่าตัวเองเส้นใหญ่ขนาดไหน "ไหนนิสาบอกว่าจะไปเรียนต่อไง" คนที่ถามขึ้นก็คือมยุรี หนึ่งในนั้นก็คือมยุรีอีกนั่นแหละ ที่เข้ามาทำงานในบริษัทนี้ "เอาไว้ไปเรียนต่อปีหน้าพร้อมกับวัลลภ" เพราะตอนนี้วัลลภยังไม่พร้อมที่จะไปเรียน นิสาก็เลยรอที่จะไปพร้อมสามีและมันก็มีอะไรให้เธอทำสนุก ๆ ในระหว่างที่รอ ชีวิตนี้ฉันจะหนีไม่พ้นพวกเธอเลยใช่ไหม.. ช่อชบาได้แต่คิดในใจ ตอนนี้เธอยืนอยู่หางแถว เพราะไม่อยากเป็นจุดเด่นอะไรอีกแล้ว และมันคงเป็นเวรกรรมที่เคยทำกับพวกเขามาในชาติก่อน..ถ้างั้นก็ขอชดใช้ให้หมดในชาตินี้เลยแล้วกัน จะแกล้งอะไรก็จัดมาให้เต็มที่เลย.. หญิงสาวถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เพราะเธอคิดไว้แล้วว่าชีวิตในการทำงานคงจะสนุกน่าดู "หนักเลยนะ ยังตามมาเจอที่ทำงานอีก" เอมอรเพื่อนในห้องเดียวที่ไม่ค่อยสนิทเท่าไรหันไปคุยกับช่อชบา "ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันก็จะทำงานส่วนของฉัน" ถ้ามีงานบริษัทอื่นรองรับ สาบานได้เลยว่าช่อชบาจะขอไปทำงานบริษัทอื่นทันที แต่บริษัทนี้ทั้งเงินเดือนสวัสดิการดีทุกอย่าง..แถมดีมากด้วย "เราถามจริง ๆ นะ..เธอไปมีประเด็นกับนิสาตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมโดนหนักกว่าเพื่อนในห้อง" เพื่อนคนเดิมพยายามจะสอบถามรายละเอียด แต่ช่อชบาก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง เพราะนอกจากดารินแล้ว เธอไม่สามารถที่จะพูดกับคนอื่นได้เลย ถ้าพูดไปพอลับหลังพวกเขาก็เอาไปพูดให้นิสาฟังอยู่ดี เงียบไปดีกว่า "พอจัดโต๊ะทำงานเสร็จ ให้ไปที่ห้องประชุมนะจ๊ะ วันนี้จะมีการปฐมนิเทศพนักงานใหม่" "ค่ะ" "ครับ" ทุกคนตอบหัวหน้าแผนกพร้อมกัน แล้วต่างก็เดินไปดูที่โต๊ะตัวเอง ที่มีรายชื่อติดไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว ไม่รู้ว่าช่อชบาถอนหายใจกี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว ชีวิตการทำงานจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง กว่าจะดิ้นรนผ่านพ้นชีวิตเป็นนักศึกษามาได้ ยังมาเจอกับอุปสรรคอีก ห้องประชุมใหญ่.. ที่ใช้สำหรับปฐมนิเทศพนักงานใหม่ นักศึกษาที่จบมาใหม่เกือบร้อย ได้มาพร้อมกันที่ห้องประชุม และปรากฏการณ์ในครั้งนี้ มันทำให้คนในบริษัทแอบสงสัยว่า ทำไมต้องจ้างแต่นักศึกษาที่จบใหม่ด้วย..เพราะบริษัทไม่เคยมีนโยบายแบบนี้มาก่อน เพราะแต่ก่อนทางบริษัทจะรับเฉพาะพนักงานที่เคยผ่านงานมาแล้วเท่านั้น "สวัสดีจ้าน้อง ๆ ทุกคน พี่เป็นผู้จัดการแผนกทั่วไปนะ..พี่ชื่อริสา" "ทำไมหน้าคล้ายนิสาจังเลย แถมชื่อยังคล้ายกันด้วย" ชะเอมคนที่พยายามคุยกับช่อชบาก็ยังพยายามต่อ "พี่ขอแนะนำใครบางคนให้พวกน้อง ๆ ได้รู้จักก่อนนะ ท่านชื่อคุณคันศร เป็นผู้บริหารระดับสูง และงานที่พวกน้อง ๆ ทำ ต้องได้ผ่านการพิจารณาจากท่าน" พอจบคำแนะนำทุกคนต่างก็มองไปที่ผู้ชาย คนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องประชุมนั้น "เธอว่าหน้าคล้ายไหม" พอทุกคนเห็นผู้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามา ต่างก็มองกลับไปที่ช่อชบา ?ชะนีติดมันส์ @มัดหมี่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม