“ถ้าพี่ภามไม่ชอบทำไมไม่ปฏิเสธ” บทเพลงถามขึ้นทันทีเพราะถ้าคนจะปฏิเสธมันก็ทำได้อยู่แล้ว แต่พี่ภามของเธอเลือกที่จะจูบตอบและเป็นฝ่ายรุกเธอกลับอีกด้วย
“เพราะพี่รู้ว่าเพลงกำลังอ่อยพี่” แน่นอนว่าสิ่งที่ภามพูดออกมามันถูกต้องเพราะบทเพลงตั้งใจอ่อยภามจริงๆ
“เพลงก็รู้ว่ามันได้ผลเพราะพี่ภามทำปากเพลงแตก” ภามไม่ได้เพียงจูบแต่ภามยังกัดปากของบทเพลงจนเลือดไหลออกมาและไหนจะบีบเอวจนตอนนี้เป็นรอยแดงไปหมดแล้ว
“รู้ไหมว่าถ้าพี่ไม่ทนเพลงคงโดนพี่ไปแล้ว” เพราะตอนนี้ภามเองก็กลั้นอารมณ์ของตัวเองไว้เยอะมาก รสจูบของบทเพลงและความหวานในปากของเธอทำเขาแทบจะตบะแตก
“เพลงไม่ได้ขอให้พี่ภามทน” เพราะอะไรที่เป็นภาม บทเพลงก็พร้อมจะยอมอยู่แล้ว
“แค่เราจูบกันมันก็มาพอแล้วเพลง พี่น้องมันไม่ควรทำแบบนี้” ภามพูดขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึกผิดที่เผลอไปรู้สึกดีและเผลอจูบน้องสาวคนสนิทอย่างบทเพลง
“แล้วใครอยากเป็นพี่น้องกับพี่ภาม”
บทเพลงก็ไม่เคยอยากเป็นพี่น้องอยู่แล้วเพราะสิ่งเดียวที่เธออยากเป็นคือการเป็นเมีย
“พี่ว่าเพลงลงจากตัวพี่ก่อนดีกว่า ก่อนที่อะไรมันจะเลยเถิดไปมากกว่านี้”
ยิ่งบทเพลงนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขา กลิ่นความหอมจากตัวของบทเพลงก็ยิ่งตีเข้าจมูกยั่วยวนร่างกายของเขาเป็นอย่างมาก
“เพลงไม่ลงเพราะเพลงรู้สึกปวดหัว ปากพี่ภามทำเพลงเมามากกว่าเหล้าที่กินไปอีก” จะพูดแบบนี้ก็ถูกเพราะตอนนี้บทเพลงหลงมัวเมาไปกับรสจูบของภามและแน่นอนเธออยากได้มันอีก
“อาเพชรกับอาบัวรู้หรือเปล่าว่าเพลงกินเหล้า” ภามเองก็ไม่รู้หรอกว่าบทเพลงกินไปเยอะแค่ไหนแต่เหล้าที่หายออกไปมันเยอะพอสมควร
“พ่อรู้แต่แม่ไม่รู้” บทเพลงตอบกลับไปตามตรงก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบแก้วเหล้าสีอำพันของตัวเองขึ้นดื่มอีกครั้ง
“ดื่มเก่งใช่เล่นเลยนะ” เพราะเธอโดนพ่อฝึกมาดีและแน่นอนว่ามันเป็นผลดีเพราะเธอจะได้ไม่เมาในสถานการณ์ไหนๆ
“พี่ภามก็ดื่มเก่ง ตอนเพลงอยู่บนเวทีเห็นพี่ภามมองเพลงและยกแก้วขึ้นดื่มตลอดเลย” ภามเองก็ไม่ปฏิเสธหรอกนะเพราะเขามองบทเพลงจริงๆ
ตอนที่บทเพลงอยู่บนเวทีเรียกได้ว่าเธอสะกดทุกสายตาของคนดู
“พี่ว่าเรากลับกันดีไหมเหมือนเพลงจะเมาแล้วนะ” เพราะตอนนี้น้องสาวคนสนิทของเขาพูดเยอะมากๆและเขาก็คิดว่าบทเพลงก็คงจะเมามากแล้ว
แต่หารู้ไม่ความจริงแล้วบทเพลงไม่ได้เมาเลย ที่เห็นอยู่คือการแสดงของเธอที่ได้มาจากการไปเรียนการแสดงเพื่อใช้ประกอบในการถ่ายทำเอ็มวี เรียกว่าเรียนมาไม่เสียเปล่าแล้วล่ะ
“อุ้มได้ไหม เหมือนเพลงจะเดินไม่ไหว” บทเพลงพูดขึ้นอีกครั้งเพราะอะไรที่เป็นวิธีที่ทำให้เธอใกล้ชิดภามได้ เธอก็จะทำ
“บอกการ์ดให้เขาเคลียร์ทางก่อนดีไหม ถ้าใครมาเห็นพี่อุ้มเพลงออกไปแบบนี้คงไม่ดีแน่” ภามพูดขึ้นทันทีเพราะเขารู้ดีว่าการเป็นศิลปินที่กำลังโด่งดังของบทเพลงหากมีเรื่องตรงนี้ออกไปก็คงเป็นกระแสด้านลบ
“บอกแล้วไปกันเถอะ พี่การ์ดรออยู่ด้านนอก” ภามพยักหน้ารับก่อนจะอุ้มน้องสาวของตัวเองด้วยท่าเจ้าสาวเดินตามการ์ดสามสี่คนมาทางหลังร้านจนถึงรถของตัวเอง
“กลับบ้านไปสภาพเมาแบบนี้ พ่อกับแม่จะไม่ว่าใช่ไหม” ภามถามขึ้นอีกครั้งเพราะเขาเองก็กลัวว่าบทเพลงจะโดนดุและก็รู้ด้วยว่าครั้งนี้คือครั้งแรกของการมาคลับของบทเพลง
“งั้นขอไปนอนกับพี่ภามได้หรือเปล่า” บทเพลงพูดขึ้นทันที
ความจริงพ่อกับแม่ของเธอไม่ดุหรอกเพราะเธอขออนุญาตแล้วอีกทั้งเธอไม่ได้เมาอีกด้วย
“ถ้าไปนอนกับพี่จะบอกพ่อกับแม่ว่ายังไง”
“บอกว่านอนกับนารี”
“นารีคือใคร” ภามถามกลับไปทันทีเพราะเขาไม่รู้ว่าคนที่บทเพลงพูดถึงคือใคร
“เพื่อนที่มาด้วยกันแต่ตอนนี้คงออกไปกับผู้ชายแล้ว” คำตอบของบทเพลงทำภามพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ ก่อนที่มือเล็กของบทเพลงจะหยิบโทรศัพท์และทักไลน์ไปหาคุณพ่อผู้เป็นที่รักว่าจะไปนอนกับพี่ภามเพราะเธอไม่มีทางที่จะโกหกแน่นอน
“เพลงบอกแล้ว” บทเพลงพูดขึ้นทันทีก่อนที่ภามจะขับรถตรงไปบ้านใหญ่ของตัวเองหลังที่บทเพลงมาบ่อยๆ
“เพลงไปนอนในห้องพี่ เดี๋ยวพี่จะนอนโซฟาด้านล่าง”เพราะถ้าหากภามขึ้นไปนอนกับคนเมาแบบนี้ มีหวังเขาต้องจับคนเมาขี้อ่อยคนนี้ทำอะไรแน่ๆ เพราะทั้งทางที่ขับรถมา มือของบทเพลงไม่เคยอยู่นิ่งเลย จับนู้นจับนี่ของเขาไปหมด
“ไปนอนด้วยกันสิ พี่ภามเป็นเจ้าของห้องนะจะมาหนีกันแบบนี้ไม่ได้” บทเพลงพูดขึ้นอีกครั้งเพราะสิ่งที่เธอต้องการมันไม่ใช่แบบนี้ เธอต้องการนอนกับภามมากกว่าการที่ภามมานอนโซฟาด้านล่าง
“งั้นเพลงนอนบนเตียง พี่นอนโซฟาในห้อง” ภามพูดขึ้นทันทีเพราะเขาไม่มีทางนอนบนเตียงกับบทเพลงเป็นแน่
“นอนบนเตียงด้วยกัน”
“ถ้าเพลงยังดื้อแบบนี้ พี่จะให้เพลงนอนบนห้องคนเดียวแล้วพี่จะนอนตรงนี้นะ” ภามยื่นคำขาดอีกครั้งเพราะน้องสาวคนสนิทของเขาตอนเมามันดื้อชะมัด ดื้อจนเขาอยากจับตีก้นให้เข็ด
“เพลงยอมแล้ว พี่ภามเดินนำไปสิ” จากนั้นภามก็เป็นฝ่ายเดินนำน้องสาวคนสนิทขึ้นมาด้านบน ระหว่างทางก็ไม่ลืมที่จะหันไปมองเพราะกลัวว่าบทเพลงจะก้าวขาพลาดตกบันได
“จะอาบน้ำหรือเปล่าเพลง” ภามถามขึ้นอีกครั้งเมื่อทั้งสองคนเข้ามาอยู่ในห้อง และนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยแหละที่ภามและบทเพลงจะได้นอนด้วยกัน
“อาบ”
“ถ้าอาบเข้าห้องน้ำไปเลย เดี๋ยวพี่เตรียมผ้าขนหนูกับเสื้อผ้าให้” แน่นอนว่าตอนนี้บทเพลงเข้าห้องน้ำไปแล้วส่วนภามก็กำลังเตรียมของต่างๆก่อนจะเคาะประตูเรียกคนในห้องน้ำ
“ถ้าถอดเสื้อผ้าแล้ว ออกมาแค่แขนนะเพลง” เพราะภามไม่ไว้ใจคนเมาอย่างบทเพลงอยู่แล้ว แต่หารู้ไม่ว่าตอนนี้บทเพลงกำลังยิ้มร้ายอยู่หลังประตูห้องน้ำเพราะเธอตั้งใจจะแวบๆแวมๆไปให้พี่ภามเห็นอยู่แล้ว แต่ในเมื่อเอ่ยปากบอกกันแบบนี้ เธอจะเป็นเด็กดีเชื่อฟังก็ได้
หลังจากนั้นไม่นานบทเพลงก็ออกจากห้องน้ำด้วยเสื้อตัวโครงของภามกับกางเกงบอลที่ใหญ่เกินตัว แน่นอนว่าบทเพลงไม่ใส่ชั้นในเพราะมันจะทำให้เธออึดอัด
“พี่ภามจะอาบน้ำหรือเปล่า” บทเพลงพูดถามทันทีเพราะตอนนี้เธอจัดการตัวเองแล้ว เหลือแต่คนพี่นี่แหละที่นั่งมองเธอจนไม่ทำอะไร
“ดึงคอเสื้อขึ้นหน่อยดีไหม มันตกมาจนจะเห็นด้านในหมดแล้ว” ภามเอ่ยปากเตือนขึ้นเพราะตอนนี้คอเสื้อที่ตกลงมามันทำให้เห็นเนินหน้าอกขาวๆ จนเขาแทบไม่เป็นตัวเองกับความขาวของบทเพลง ก็รู้แหละว่าเป็นคนขาวแต่ไม่คิดว่าข้างในจะขาวขนาดนี้
“ก็เสื้อพี่ภามใหญ่อะ” บทเพลงพูดขึ้นอีกครั้งก่อนจะล้มตัวนอนลงทันที แน่นอนว่าเธอไม่ได้ห่มผ้านอนเพราะเธอต้องการจะอ่อยภามอีกสักนิด
“ขาเกงเกงเปิดขนาดนั้น ห่มผ้าปิดไว้หน่อยดีไหมเพลง” ภามเอ่ยเตือนขึ้นอีกครั้งเพราะขากางเกงบอลมันกว้างและบทเพลงที่นอนแบบไม่ระมัดระวังตัวก็ทำให้ภามเห็นไปไหนถึงไหนแล้ว
“พี่ภามก็อย่ามองสิ เพลงยังร้อนอยู่” บทเพลงตอบกลับมาทันทีก่อนที่ภามจะถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่ายและจัดการกับตัวเองรวมถึงภามน้อยที่ตอนนี้ขยายใหญ่ขึ้นมา
“จนได้เลยกู” เสียงสบถของภามดังขึ้นพร้อมกับตัวของเขาที่กำลังเร่งช่วยตัวเองเพราะตอนนี้เขาใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำนานพอสมควรแล้ว
ถ้าอยู่คนเดียวมันไม่เป็นอะไรหรอก แต่นี่มีบทเพลงน้องสาวคนสนิทด้วย
หลังจากที่ภามออกมาจากห้องน้ำ เขาก็ไล่สำรวจร่างกายของบทเพลงอีกครั้ง แน่นอนว่าเธอยังนอนอยู่ในท่าเดิมจนภามต้องเอาผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้เพราะถ้าเห็นบทเพลงในสภาพแบบนี้คงเป็นตัวของเขาเองที่จะลำบาก
เช้าวันต่อมา
เช้าวันนี้บทเพลงตื่นก่อนภามเพราะเธอไม่ได้เมาและทั้งหมดที่เธอทำคือการแกล้งทำเท่านั้น ยกเว้นการอ่อยที่เธอตั้งใจอ่อยภามด้วยใจจริง
หลังจากที่บทเพลงจัดการกับตัวเองเสร็จ เธอก็ลงมาด้านล่างของบ้านพร้อมกับเจออาโอ๊ตและอามะนาวที่อยู่ที่โต๊ะกินข้าว
“สวัสดีค่ะ” บทเพลงพูดขึ้นและยกมือไหว้ทักทายคุณอาทั้งสองคนของเธอทันที
ด้านคุณอาก็ดูแปลกใจเล็กน้อยเพราะวันนี้หลานสาวไม่ได้มาจากทางหน้าบ้านแต่ลงมาจากด้านบนของบ้าน
“ลงมาจากด้านบนแบบนี้อย่าบอกนะว่าหนูเพลงจะมาเป็นลูกสะใภ้อาแล้วจริงๆ” มะนาวพูดขึ้นทันทีด้วยความดีใจเพราะเธออยากได้ลูกสาวเพื่อนสนิทมาเป็นสะใภ้คนโตของตระกูล
“ไม่ใช่ค่ะ เมื่อคืนเพลงไปร้องเพลงที่คลับอาทัตมา เจอพี่ภามเลยขอมานอนด้วยเพราะเพลงเมา” บทเพลงตอบกลับไปทันทีเพราะขืนไม่พูดไปตอนนี้อามะนาวของเธอได้คิดไปไกลกว่านี้แน่ๆ
“คิดว่าจะมีลูกสะใภ้ซะแล้ว” โอ๊ตผู้เป็นสามีเอ่ยแซวขึ้นอีกครั้งเพราะทุกคนก็ต่างดูบทเพลงกันหมดนั่นแหละ
“ฮ่าๆ พี่ภามยังไม่เปิดใจให้เพลงเลยค่ะ อาๆอย่าพึ่งรีบนะคะ” บทเพลงพูดขึ้นอย่างติดตลกพร้อมกับนั่งลงบนโต๊ะอาหารเพราะเธอหิว
“อามีวิธีให้ลูกชายตัวดีเปิดใจให้หนูเพลง สนใจไหม”
“วิธีอะไรหรอคะ”
“ย้ายไปอยู่กับพี่ภามที่คอนโดสิเพราะยังไงหนูเพลงก็เรียนที่เดียวกันคณะเดียวกัน”
❤️
เขาทำงานกันเป็นทีม