ติ้งๆๆ
วาน่าก้มลงไปมองที่ข้อความในมือถือที่เด่งขึ้นมาเป็นข้อความกลุ่มที่เราพึ่งได้เพื่อนมาแม้ว่าจะได้มาแบบงงๆ ก็ตามทีแต่อย่างน้อยเราก็มีเพื่อนที่สามารถคุยเล่นได้ เพราะไม่ได้ไปเรียนสังคมของวัยเดียวกันเลยไม่มีและอีกอย่างคนพวกนี้ก็เป็นมิตรมากด้วย
อิรัส: วาน่าของพวกเราดังใหญ่แล้วต้องขอบคุณเจ้า เซอร์เทียที่สมัครให้วาน่าเลย
เซอร์เทีย: ทุกคนจงขอบคุณข้าซะ 555
อีเทอร์เนียร์: ทำบ้าอะไรกันเดี๋ยวอาจารย์ก็รู้หรอกว่าเล่นมือถือในคาบ เขายิ่งประสาทๆ อยู่ด้วยเลือกคาบก่อนคิดว่าวาน่าว่างหรือไง
“เหมือนเล่นเฟสเลยแหะ เราต้องพิมพ์ไปว่าอะไรดีล่ะเนี่ยถ้าพิมพ์ไปข้อความจะแจ้งเตือนหรือเปล่า”
ฮาเดล: เรียนๆๆๆๆ
เจเพียร์: วาน่าว่างหรือเปล่าเจ้าพวกนี้คงไม่รบกวนเธอหรอกใช่ไหม ไม่เห็นตอบเลย
คาเอด้า: สมาชิกผู้หญิงคนเดียวของแก๊งเรา เข้ามาแบบงง 555
คาเอด้า: น่าเอ็นดู
วาน่า: ว่างๆๆ กำลังเดินหาซื้อดินอยู่นะ
อีเทอร์เนียร์:เห็นไหมเขาไม่ว่างเจ้าพวกนี้ก็ทักกันอยู่ได้ทำเหมือนเด็กประถมที่พึ่งมีเพื่อนใหม่ไปได้ เลิกๆๆๆ
เซอร์เทีย:ยังไม่ได้คบเลิกแล้วเหรอ เขาเสียใจนะ (T^T)
อีเทอร์เนียร์: ประสาท ?
เมื่อเห็นว่าคนในแชทกำลังเรียนอยุ่เจ้าตัวจึงเลือกที่จะปิดมือถือเพื่อหาร้านค้าที่ต้องการต่อในใจก็คิดไปถึงเรื่องที่อยู่ดีๆ ตัวเองก็มีชื่อเสียงขึ้นมาเฉยๆ เสียอย่างนั้น วาน่าเดินมาจึงถึงร้านค้าแผนกอาหารสดที่ปกติจะเห็นแต่ผู้หญิงเดินไปกันมาและทุกคนที่เดินมาจับจ่ายจะนำอาหารสดทั้งหลายไปแปรรูปกันหมด
นี้ถ้าทุกคนกินอาหารกระป๋องมีหวังพ่อค้าแม่ขายตกงานกันเป็นแถวแน่
“ร้านหมึกอวกาศเหรอ ชื่อน่าสนใจคงจะไม่ใช่เอาหมึกมาโยนขึ้นฟ้าไปมาแล้วบอกว่าเป็นหมึกอวกาศหรอกนะ” อยู่ประเทศไทยประเทศที่สร้างสรรค์เกินไปก็จะมีแบบนี้เป็นเรื่องปกติขนาดไข่เจียวลอยฟ้ายังเจอมาแล้ว ไอติมลอยฟ้าแล้วให้เรารับอีกนี่ถ้าเราไปซื้อร้านนั้นนะมีหวังทั้งวันก็ไม่ได้กินเสียดายไอตินเปล่าๆ
พอชื่อของมันน่าสนใจเจ้าของร่างจึงไม่รอช้าที่จะเดินตรงดิ่งเข้าไปหาด้วยความสนใจว่ามันใช่หมึกมีหนวดยาวๆ ที่เธอรู้จักหรือเปล่าแต่เมื่อเดินเข้าไปก็จะเห็นเป็นพ่อค้าคนขายที่ไม่รู้ว่ามาจากดาวไหนเพราะที่เธอเห็นตรงหน้าคือพ่อค้ามีผมหรือที่แทนที่มันจะเป็นเส้นๆ มันกลับกลายเป็นหนวดเสียอย่างนั้น ใบหน้าเกือบจะเหมือนมีปากที่เหมือนหนังในเรื่องโจรสลัดของกัปตันแจ๊คอยู่พอสมควรต่างกันแค่ว่าเขาสะอาดและไม่มีบรรดาสัตว์น้ำต่างๆ ติดส่อยหอยมาด้วยแค่นั้นเอง
สุดยอดเลย!! (*0*)
“แม่หนูอยากได้อะไรไหม ร้านของฉันมีหมึกอวกาศนะสนใจไหมอร่อยแน่รับรองกินแล้วหนึบหนับ” พ่อค้าคนขายพูดไปยิ้มไปด้วยความอยากขายแบบสุดๆ หน้าตาของเจ้าหมึกอวกาศมีรูปร่างเหมือนปลาหมึกบ้านเราต่างกันแค่ว่าขนาดตัวของมันใหญ่กว่า ใหญ่มากด้วย ขนาดเท่าตัวเธอได้มั่ง
คือถ้าเราซื้อเราต้องซื้อทั้งตัวเลยหรือเปล่าอะ แล้วถ้าซื้อไปมันจะแพงไหมจะกินหมดหรือเปล่าเนี่ย
เจ้าของร้านที่เห็นว่าเป็นวัยรุ่นทำสีหน้าเหมือนไม่รู้จักเจ้านี้มาก่อนจึงยิ้มรับด้วยความเอ็นดู “ราคาไม่แพงหรอกแม่หนูอยากได้ส่วนไหนเดี๋ยวลุงแบ่งขายให้”
“ออ หนูก็นึกว่าหนูจะต้องซื้อทั้งหมดนี้เสียอีกตกใจไหม” วาน่าพูดตามที่ใจคิดจนอีกฝ่ายหัวเราะเบาๆ ให้กับความไม่รู้ของเด็กสาวก่อนที่เธอจะถามถึงที่มาของมันเพราะหน้าตามันเหมือนปลาหมึกบ้านเธอมากต่างกันแค่ว่ามีความเป็นทรงกลมๆ มากกว่าและมีหัวที่ค่อนข้างจะน่ากลัว
ดีนะที่มันตายแล้ว ถ้ามันดิ้นได้เราจะวิ่งเป็นคนแรกเลยคอยดู
“เจ้าหมึกนี้ส่วนใหญ่จะหาได้จากดาวบ้านเกิดของลุงนะ ส่วนใหญ่มันจะอยู่บนอวกาศหาตัวจับยากมากชอบกินดาวเคราะห์ที่ลอยไปมาหรือไม่ก็สิ่งมีชีวิตนะ”
“เออ...แล้วอย่างนี้มันจะกินได้เหรอลุงมันกินดาวเคราะห์เลยนะ” (o_o)
“ฮ่าๆๆ ตลกจริงแม่หนูคนนี้เจ้าตัวนี้มันมีสารบางอย่างในตัวทำให้ย่อยของแข็งให้ละลายให้ไม่แข็งได้ว่ากันว่ายิ่งมันกินดาวเคราะห์ที่แตกกระจายที่มีแร่ธาตุมากเท่าไรคนกินก็จะยิ่งแข็งแรงขึ้นนะ สาวๆ ชอบนักแหละกินแล้วตรงนั้นของแม่หนูนะจะกลับมาเป็นเด็กอีกครั้งสาวใหญ่ที่มีสามีชอบกินมันสามีจะได้ติดใจ ฮิๆๆๆ”
“(+_+!)” ไปไม่เป็นเลยเรา
“แม่หนูจะเอาส่วนไหนล่ะ ลุงบอกเลยนะว่าส่วนหนวดนะขายดีมากกินแล้วแฟนจะติดใจ ฮิๆๆ”
“เอ่อ คือหนูไม่มีแฟนนะแค่อยากลองกินดู” วาน่ายิ้มแห้งๆ ไปให้ลุงคนขายที่อารมณ์ดีเวอร์วัง แถมตอนพูดยังพูดเสียเสียงดังจนคนอื่นหันมามองกันหมดแล้วอยากรู้จังว่าถ้าคนอื่นมาซื้อเขาจะอายกันไหม แต่ไม่เป็นไรเราไม่ได้ซื้อไปเพราะเรื่องนั้น
ใจเย็นๆ วาน่าเธอยังซิงท่องไว้ว่าเราซื้อเพื่อไปกิน เพื่อไปกิน ไม่จำเป็นต้องอาย ใช่ไม่ต้องอาย
“ไม่ต้องอายหรอกยัยหนู ลุงนะเจอมาเยอะก็พูดกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละลูงเข้าใจ”
ยัง ยังไม่หยุด
“ทั้งหมด 4 เหรียญ”
“ขอให้ขายดีๆ นะลุง” ทันทีที่ได้ของมาร่างเล็กก็หยิบมาจ่ายเงินเสร็จก็บอกลาตามมารยาทแล้วเดินหนีทันทีเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อให้ไปจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด เสียดายที่ที่นี่ไม่มีรสดีที่ซื้อเครื่องปรุงไปได้ก็มีไม่กี่อย่างที่พอจะทดแทนไปได้อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ค่อยมีใครทำอาหารปรุงสุกบริษัทที่ขายเครื่องปรุงจึงมีแค่บริษัท 1-2 บริษัทเท่านั้น ส่วนใหญ่คนที่มาซื้อจะเป็นร้านอาหารเสียมากกว่า
หมึกก็มีแล้วอยากกินกุ้งจังเลย กุ้งย่าง กุ้งทอด กุ้งอบวุ้นเส้นก็น่ากินเย็นนี้กินกุ้งอบวุ้นเส้นดีกว่าเราที่เหลือก็หาซื้อกุ้งแล้วค่อยไปหาซื้อแป้งมาทำขนมปังกิน เผื่ออยากจะกินขนมปังทำเองเพราะของที่นี่แข็งมากคือถ้าเอาไปตีหัวคนมีเลือดออกอะ
แข็งชนิดที่ว่าก้อนหินยังอาย
40 นาทีต่อมา
แม่เจ้า แม่จ้าช่วยหนูด้วยของเยอะมากขนไปยังไงดีเนี่ยเราสรุปอยากจะมาซื้อดินกับเมล็ดเอาไปปลูกแต่ตอนนี้ยังไม่ได้อะไรเลยนอกจากของกิน รู้อย่างนี้เราไม่น่าเดินเข้าไปใรห้างก่อนเลยเพราะของมันล่อตาล่อใจแท้ๆ เลย
ขนาดเดินมาจนทั่วร้านขายดินยังไม่มีหรือว่าเขาจะไม่มีขายในห้อง ทำไมเราโง่จังแบบนี้เราต้องแบกของไปดูที่อื่นนะสิ
แม่เจ้าแบกยังไงดี บ้านเราไกลเกินไปอยากมีรถจังเลยหรือว่าเราต้องทำเป็นหน้าด้านโทรไปขอที่สหพันธ์ดีด้านได้อายอด
“คุณลูกค้าสนใจที่จะใช้บริการขนส่งหรือไม่” เสียงจากด้านทางซ้ายมือที่เดินมาไม่ไกลจากที่คิดเงินส่งเสียงมาตามหน้าที่ที่มันต้องทำ เสียงที่ดังออกมาทำให้วาน่าหันไปอย่างไม่กลัวว่าคอจะเป็นอะไรหรือเปล่า ทำให้เห็นว่ามันเป็นเหมือนร้านตั้งโต๊ะขนาดไม่ใหญ่มากบริการส่งเหมือนขนส่งที่เธอพึ่งจะเจอเมื่อเช้าโดยจะมีพนักงานคอยดูแลและจัดการกันอยู่ประมาณ 5-6 คนนอกนั้นจะเป็นหุ่นยนต์ทั้งหมดร่างบางไม่รอช้าใช้เท่าที่มีเดินไปหาพนักงานด้วยใบหน้าแดงเหมือนก้นลิง
ปัง!!!
วางของเหมือนโกธรใครมา เจ้าของร่างยกของทีตนซื้อมาวางเอาไว้ที่โต๊ะที่มีพนักงานกำลังยิ้มแห้งๆ ในใจก็นึกคิดว่าลูกค้าคนนี้คงจะโมโหที่เขาไม่เดินเข้าไปช่วยแน่เลยถึงว่าเสียงดังแบบนี้
“คุณลู...”
“ส่งเลย หนูต้องการส่งไปที่บ้านนานหรือเปล่า คิดราคาเท่าไร ไปถึงที่บ้านตอนไหน ของจะหายหรือเปล่า”
“(^_^!)” หน้าพนักงาน
“(+^+!)” หน้าวาน่า
“ทั้งหมด 2.6 เหรียญของจะไปถึงที่บ้านของคุณลูกค้าไม่กี่ชั่วโมงเที่ยวต่อไปจะถึงบ้านของคุณลุกค้าตอนบ่าย 2 ขอบคุณที่ใช้บริการ”
“ขอบคุณที่ช่วยนะ นี้เงินหนูไปล่ะบ๊ายบาย” วาน่าที่พอตัวปลิวก็อารมณ์ดีทันทีก่อนจะให้เงินไม่ลืมที่จะโบกมอลาแม้ในใจจะคิดว่าค่าส่งแพงมากแค่ไหนก็ตาม
ตีเป็นเงินบาทนี้คือ 260 บาทเลยนะแพงจังบ้านเรายังไม่ถึงกิโลด้วยซ้ำ แพงจุงช่างเถอะต่างที่เงินก็ต่างกันไปหาซื้อดินต่อดีกว่า
เวลาผ่านไป
“ทางเราจะขับไปส่งให้ไม่เกินครึ่งชั่วโมงนี้คุณลูกค้าสามารถไปรอที่บ้านได้เลยไม่ต้องกังวลเรื่องขนส่งเลยของทั้งหมดมีดิน 15 ถุงใหญ่เมล็ดพันธุ์ดอกไม้และพืชอีก 12 ชนิดรวมเป็นเงิน 25 เหรียญ ค่าส่งอีก 2 เหรียญเป็น 27 เหรียญขอบคุณที่อุดหนุน”
บ้าบอทำไมของที่นี่ถึงแพงอย่างนี้แค่ดินกับเมล็ดไม่กี่ถุงเนี่ยนะ ถุงเมล็ดก็เท่ากับที่เราเคยซื้อซองละ 25 บาท แค่นี้ทำไมต้องขายแพงด้วยสรุปหมดไปตั้ง 2 พันกว่าเกือบ 3 พันคงจะแพงเพราะค่าเมล็ดแน่เลยเพราะมันต้องผ่านห้องแลปด้วยและผ่านขั้นตอนนั่นนี้โน้นอีกเยอะ อีกอย่างคือเมล็ดส่วนใหญ่พวกนี้จะอยู่แต่ในร้านชั้นนำที่ผ่านการรับลองเท่านั้นว่าปลอดภัย
ไม่รู้อันตรายอะไร แต่ก็นะปกติคนไม่คอยปลูกกันนี้น้าถ้าเราไปหาซื้อทางตลาดสดที่เขาวางขายกันทั่วไปอาจจะถูกกว่านี้เพราะที่นั่นจะนำไปปลูกเองเอาผักมาขายส่วนเมล็ดที่ได้จะนำมาจายหรือปลูกอีกต่อหนึ่ง
แต่ประเด็นคือเราไม่รู้ที่นะสิแต่อย่างน้อยก็ได้ของแล้วนะ
ติ้งๆๆๆ
เซอร์เทีย:ซื้อของมาครบหรือเปล่า ให้พวกเราไปช่วยนำทางไหม
อีเทอร์เนียร์:วาน่ามีขาเดินเองได้ อย่าลืมสิ
อิรัส:แต่เธอมาจากกาแล็กซี่อื่นเลยนะ อีเทอร์เนียร์หัดดูข่าวซะบ้างโลกมันไปถึงไหนแล้วเนี่ย
วาน่า: ได้ของมาครบแล้วล่ะ ขอบคุณที่เป็นห่วง
คาเอด้า: มีอะไรบอกพวกเราได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ เราเพื่อนกันทั้งนั้น
อีเทอร์เนียร์: พวกแกหน้าด้านไปขอเธอเป็นเพื่อนเองต่างหาก ไปสมัครพร้อมเชิญเข้ามาในกลุ่มเองเลยด้วยนะถามนางหรือยังว่าอยากจะเป็นเพื่อนกับเราไหม
จะว่าไปเจ้าอีเทอร์เนียร์นี้ดูจากการพูดการจาตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรกแล้วดูเหมือนไม่ชอบเราเลย เราไปทำอะไรให้เขาไม่ชอบหรือเปล่าหรือเพราะว่าเราเป็นผู้หญิงเขาอาจจะเข้าหาไม่เป็นหรือพูดกับผู้หญิงไม่เป็นก็เป็นได้ ช่างเถอะเราต้องคิดใจแง่ดี
เจเพียร์: แกพิมพ์แบบนี้เดียวน้องวาน่าก็คิดว่าแกไม่ชอบน้องหรอก วาน่าอย่าคิดมากนะเจ้านี้มันไม่ค่อยมีเพื่อนผู้หญิงเลยไม่รู้ต้องทำตัวยังไงนะว่าแต่อยู่ที่ไหนเหรอ
คาเอด้า: ใช่เดี๋ยวพวกเราไปรับ
วาน่า: ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูก็กำลังจะกลับแล้ว
ฮาเดล: เจอแล้ววาน่ากำลังเดินอยู่ใช่หรือเปล่า (^v^)
ปริ้นๆๆ
“แม่เจ้าตกใต้ถุนบ้าน!!” ร่างบางที่กำลังเดินไปอ่านข้อความไปถึงกับอุทานด้วยน้ำเสียงและท่าทางตกใจจนต้องเอามือทาบอกเพื่อให้ใจเย็นลง ก่อนที่จะหันรถที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอตกใจเมื่อหันหน้าไปกลับพบว่าเป็นเจ้าของบรรดาข้อความที่กำลังพิมพ์หาเธออยู่โดยที่คนขับคือฮาเดลกับอีกขันน่าจะเป็นคาเอด้าที่ลดกระจกพร้อมส่งยิ้มมาให้เธอตามฉบับคนอารมณ์ดี
“ขึ้นรถพี่เลยไอ้น้อง ฮิๆๆๆ อยากพูดแบบนี้มานานแล้ว” ฮาเดลพูดพร้อมกับทำหน้าตาบอกให้ขึ้นข้างหน้าเลยเพราะข้างหลังเต็มแล้ว
มาน้อยหน่อยแต่ก็มานะ ทุกคนเป็นไงบ้างพาน้องมาซื้อของไรท์คิดว่าถ้าจะเขียนแบบให้นางสตรีมตลอดเวลาไม่เจอโลกภายนอกเลยก็ใช่เรื่อง ไม่รู้ทุกคนจะชอบไหมกับเรื่องราวยังไงก้ถ้าอ่านแล้วอย่าลืมมาพูดคุยกับไรท์ด้วยนะ อย่าลืมนะอยากให้ไรท์ต้องพูดคนเดียวแบบนี้