ตอนที่3 ทิฆัมพร
“เป็นไปได้ยังไงคะ
พี่ยศเคยมีลูกอย่างงั้นเหรอคะคุณทนาย ฟ้าไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้วตัวพี่ยศเองก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟังด้วยนะคะเท่าที่รู้มา”
ทิฆัมพรแทบลมจับเมื่อฟังทนายความอ่านพินัยกรรมของนาย ยศนันท์ พี่ชายแท้ๆ เพียงคนเดียวของเธอ แล้วข้อความบางอย่างในพินัยกรรมฉบับช็อกโลกนั่นก็ทำให้เธออ้าปากค้างกับข้อมูลที่ได้รับ และดูเหมือนมารดาที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของเธอเนื่องจากผู้เป็นบิดาเสียชีวิตไปแล้วก็ท่าทางงงงันไม่ต่างกัน เธอกลับมาจากประเทศอังกฤษหลังจากเรียนปริญญาโทจบมาได้หมาดๆ เพียงเดือนเศษก็เกิดข่าวร้ายกับพี่ชายเพียงคนเดียว ที่ป่วยด้วยโรคอัมพาตครึ่งตัวด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อห้าปีแล้ว และได้เสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตกเมื่อสองสัปดาห์ก่อน หลังจากอุบัติเหตุคราวนั้นพี่ชายของเธอก็กลายเป็นคนเงียบขรึม อารมณ์ร้ายเหมือนเปลี่ยนไปเป็นละคนกับยศนันท์คนเดิม ที่เคยเป็นคนอ่อนโยน ขี้เล่นอารมณ์ดี
“นั่นสิคุณทนาย จะเป็นไปได้ยังไง ทำไมฉันไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน”
“เอ่อ…อันนี้ผมต้องขอประทานโทษจริงๆ นะครับคุณหญิง เพราะคุณยศนันท์ท่านกำชับผมไว้เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าห้ามบอกเรื่องนี้ให้ใครฟังเด็ดขาดก่อนจะเปิดพินัยกรรมฉบับนี้”
ทนายความเก่าแก่ประจำตระกูลขอลุแก่โทษกับคุณหญิงรุ้งลาวัลย์ พร้อมกับโค้งตัวจนศีรษะแทบติดพื้น
“ให้ตายซิ! นี่มันเกิดเรื่องบ้าบออะไรเนี่ย ตายศนะตายศไม่น่าทำตัวเป็นพ่อปลาไหลไข่เรี่ยราดอย่างนั้นเลย” คุณหญิงรุ้งลาวัลย์ยกมือทาบอกตกใจกับเรื่องราวยุ่งยากที่เพิ่งเกิดขึ้น
“คุณแม่ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ ไหนๆ เรื่องมันก็เกิดขึ้นแล้วตัวพี่ยศเองก็ไม่อยู่แล้วด้วย ฟ้าว่าเรามาคิดวิธีแก้ไขกันดีกว่าค่ะ อีกอย่างเด็กคนนั้นก็เป็นหลานฟ้าและหลานคุณแม่ด้วย”
“หยุดพูดได้แล้วยัยฟ้า ฉันไม่มีวันรับลูกของนังนั่นว่าเป็นหลานของฉันเด็ดขาด แกอยากจะทำอะไรก็เชิญตามสบายเบย”
ทิฆัมพรดวงตาเบิกโพลงมองมารดาของตัวเองราวกับไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน และเนื่องมาจากประโยคเมื่อกี้แสดงว่าท่านต้องรู้เรื่องอะไรที่เธอยังไม่รู้อีกแน่ ระยะเวลาที่เธอไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศครอบครัวของเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้างงั้นเหรอ
“คุณแม่พูดเหมือนรู้จักภรรยาพี่ยศน่ะค่ะ นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณแม่ทำไมฟ้าถึบงไม่รู้เรื่องอยู่คนเดียว”
สายตาและคำพูดของหญิงสาวแสดงความน้อยเนื้อต่ำใจมารดาออกมาชัดเจน ชีวิตของเธอตั้งแต่เล็กจนโตอยู่ภายใต้เส้นกรอบที่มารดาขีดให้เดินมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคบเพื่อน การเรียนในสาขาวิชาที่มารดาซึ่งดำรงตำแหน่งคุณหญิงของเธอต้องการและเห็นดีเห็นงาม แล้วที่ผ่านมาเธอก็ไม่เคยสักนิดที่จะเดินออกมาจากเส้นที่ท่านขีดไว้ให้เดินนั่นเลย
“ฉันไม่จำเป็นต้องมานั่งอธิบายอะไรให้แกฟัง แกอยากจะทำอะไรก็ทำไปและฉันจะบอกกับแกเอาไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่มีวันจะรับไอ้เด็กนั่นว่าเป็นสายเลือดของทรัพย์สกุลชัยเด็ดขาด”
“คุณแม่…” ทิฆัมพรมองตามมารดาที่เดินขึ้นบันไดวนของคฤหาสน์ขึ้นไปอย่างหนักอก ก่อนจะหันมายังทนายประจำตระกูลที่ยืนฟังบทสนทนาอยู่ด้วยท่าทางกระอักกระอวลใจ
“คุณทนายกลับไปก่อนเถอะค่ะ ไว้พรุ่งนี้ฟ้าจะแวะเข้าไปหาที่สำนักงานนะคะ”
“เอาอย่างนั้นก็ได้ครับคุณฟ้า งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ…”
ทิฆัมพรยกมืออันแทบไม่มีเรี่ยวแรงของเธอขึ้นรับไหว้ทนายความอายุรุ่นราวคราวเดียวกับบิดาของเธอ พร้อมรอยยิ้มที่ฝืนที่สุดในชีวิต ดูเหมือนว่าการเสียชีวิตของพี่ชายเธอจะทำให้หญิงสาวได้ตัดสินใจทำอะไรที่อยากทำได้เป็นครั้งแรกในชีวิตกระมัง…