ไม่รู้ว่าเป็นมวนที่เท่าไหร่แล้วที่เสือเต๊าะบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ ปากหนาซี้ดพ่นควันขาวคลุ้งไปทั่วบริเวณขณะที่มือหนาแง้มเปิดไพ่โยนหงายขึ้น ก่อนจะกวาดชิบมารวมไว้หน้าตักเหมือนอย่างเคย ท่ามกลางเสียงบ่นหงุดหงิดของคนในโต๊ะ เขาทำอยู่อย่างนั้นสลับเต๊าะบุหรี่มวนใหม่มาจุดสูบไปด้วยเป็นบางช่วงจนเวลาล่วงเลยไป..
“ไอ้เสือได้เวลาและ มึงจะไปไหมเนี่ย”
“…..” ใบหน้าคมคายหันขวับไปปรายตามองเมื่อจู่ๆก็มีเพื่อนรักคนใดคนหนึ่งเดินเข้ามาแตะไหล่ จากทางด้านหลัง โจรหนุ่มหันกลับมายกมือขึ้นคีบบุหรี่ออกจากปากหลังสูดมันเข้าปอดเป็นครั้งสุดท้าย จิ้มดับลงในถ้วยเขี่ยบุหรี่ แล้วกวักมือเรียกพนักงานแจกไพ่ที่ยืนรออยู่ไม่ไกลกัน จังหวะนั้นตี๋ซึ่งเป็นคนมาเรียกหมุนตัวเดินออกไปรอด้านนอก
“จัดการต่อด้วย”
“ครับคุณเสือ” สิ้นสุดการรับคำของพนักงานหนุ่ม เสือก็หันตัวเดินตามเพื่อนรักออกไปทั้งยกโทรศัพท์ขึ้นมากดดูเวลา ก่อนจะเห็นว่ามันเลยมาสิบห้านาทีกว่าแล้ว
@คอนโดเนเน่
“อื้ออออออ~ เมื่อยจัง” แคทวางของลงประสานมือเข้าหากันยกขึ้นพลิกบิดตัวไปมาขณะกำลังนั่งแพ็คของไว้เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้าอยู่ตรงห้องนั่งเล่น พร้อมกับเพื่อนรักสองคน ดวงตากลมโตเหลือบไปมองนาฬิกาติดผนังที่ตอนนี้เข็มสั้นอยู่ที่เลขเก้าและเข็มยาวอยู่ที่เลขศูนย์ บ่งบอกว่าเป็นเวลาสามทุ่ม
“หือ..สามทุ่มแล้วเหรอ ไวแท้” เธอบ่นอย่างแปลกใจว่าทำไมวันนี้เวลาถึงเดินไปเร็วจัง ปกติเวลานี้เธอต้องแพ็คของเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วแต่ป่านนี้ของตรงหน้ายังเหลืออีกเป็นสิบๆเลย เพราะรอบนี้ลูกค้าใหม่เข้ามาบานออเดอร์เลยเพิ่มขึ้น
“หาว~ ฮึ..สามทุ่มและอ๋อ” เสียงทุ้มต่ำดังถามอู้อี้ขึ้น ทำให้แคทเบือนสายตามามอง
“อืม” หญิงสาวพยักตอบเพื่อนรัก พลางเอนตัวล้มพิงกับโซฟาโดยที่ศีรษะเกยนอนลงไป “แกไปอาบน้ำนอนเลยก็ได้นะเน่ เหลือแค่อีกห้าบ้านเองเดี๋ยวฉันทำต่อ”
“ไม่เป็นไร แค่ห้าบ้านเองแป๊บเดียวก็เสร็จและ” ไม่ว่าเปล่าเนเน่เอื้อมหยิบแก้วน้ำดื่มมากระดก ระหว่างนั้นก็หันมาเอ่ยถามเพื่อนตัวเองไปด้วย “เอ่อ..แล้วแกจะนอนนี่ไหม มันดึกแล้วแคนดี้จะได้ยิงยาวไม่ต้องแวะไปส่ง”
“ไม่เอา พรุ่งนี้วันหยุดฉันว่าจะซักผ้ากับทำความสะอาดบ้านตอนเช้าก่อนมานี่ด้วย”
“ค่อยกลับไปทำตอนเย็นก็ได้ไหม ผ้ากับบ้านแกไม่ย้ายหนีไปไหนหรอกน่า” แคนดี้เป็นเจ้าของคำพูดแย้งนั้น ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากไปส่งเพื่อนนะแต่เห็นว่าวันนี้มันดึกมากแล้ว กว่าจะแพ็คของตรงหน้าเสร็จกว่าจะขับไปถึงอีก ป่านนั้นทางเข้าบ้านก็คงมืดเปลี่ยวเพราะชาวบ้านคงปิดบ้านนอนกันหมดแล้ว เธอไม่อยากปล่อยเพื่อนให้เดินเข้าซอยไปคนเดียวเลย จะเดินเข้าไปส่งเธอก็กลัวเหมือนกันไม่กล้าเดินออกมาคนเดียว
“แค่นี้ฉันก็เกรงใจพวกแกจะแย่แล้ว เดี๋ยวรีบทำแป๊บเดียวก็เสร็จ ถึงบ้านก็สี่ทุ่มกว่าๆพอดีคงไม่ดึกไปหรอก” แคทดีดตัวขึ้นเหลือบมองนาฬิกากะเวลาในประโยคหลัง แล้วก้มหน้าทำต่อ ปล่อยให้แคนดี้ส่ายหน้าระอาในความใจกล้าของเพื่อนรัก
“แกนี่มัน..จริงๆเลย นอนสบายๆไม่ชอบ”
สองชั่วโมงต่อมารถยนต์คันหรูขับเลี้ยวเข้ามาจอดหน้าสลัมเถื่อน คนนั่งฝั่งคนขับเท้าแขนบนพวงมาลัยหันหน้ามุ่ยมามองเพื่อนตัวเองที่กำลังปลดเข็มขัดนิรภัยออก แล้วแคนดี้ก็อดเป็นห่วงเพื่อนไม่ได้ที่ต้องเดินเข้าซอยไปคนเดียวจึงย้ำถาม
“แกจะเดินเข้าไปคนเดียวได้จริงๆเหรอ แกไม่กลัวเลยรึไงทั้งมืดทั้งเปลี่ยว”
“ฉันเดินได้ เดินฟังเพลงไปเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ไม่มีอะไรหรอกน่า..แกยังน่ากลัวกว่าผีอีก”
“อร้ายยยอีเพื่อนเวร หยาบคาย นี่ฉันกำลังซีเรียสอยู่นะ”
“อิอิ ไปและ”
“เดี๋ยว! ถ้าตอนเดินแกเกิดกลัวก็โทรมาคลอคุยกับฉันนะ โอเค้”
“โอเค” แคทว่า พลางชูมือขึ้นมาทำเป็นสัญญาลักษณ์ตามคำพูด ก่อนจะเอื้อมมือไปตบบ่าเป็นการขอบคุณเพื่อน “ขอบใจมากนะแกที่มาส่ง ถึงบ้านแล้วโทรมาบอกฉันด้วยนะ”
“อืม” พยักหน้ารับไปแบบนั้น แต่แคนดี้ก็ยังคงกังวลอยู่ไม่น้อยและขนลุกในเวลาเดียวกัน นึกไม่ออกเลยหากเพื่อนรักเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันหรืออะไรระหว่างทางจะเป็นยังไง
“ฉันไปและ ขับรถกลับดีๆนะ” ว่าแล้วแคทก็เปิดประตูก้าวลงจากรถ ไม่วายโบกมือร่ำลาเพื่อนรักหลังปิดประตูกลับไปแล้ว “บ๊ายบาย”
หญิงสาวหมุนตัวหันมาถอนหายใจเบาๆทันทีที่เพื่อนขับเคลื่อนรถออกไป ก่อนสองเท้าเล็กจะก้าวเดินเข้าซอยบ้านมา พร้อมกับในมือกดโทรศัพท์คู่ใจที่เปิดเพลงเชื่อมไปยังหูฟังทั้งสองข้างที่ใส่อยู่ในหู
ขณะเดียวกันทางด้านเสือกับเพื่อนๆซุ่มตั้งหน้าตั้งตารอเหยื่อมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ไม่มีใครเดินผ่านมาสักคน ทำเอาพวกเขาเริ่มหงุดหงิด
“แม่ง! วันนี้พวกผู้หญิงพากันหายหัวไปไหนหมดวะ” ตี๋เตะกระป๋องเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่พวกเขาได้กินหมดแล้ว และโยนทิ้งไว้ก่อนหน้านี้จนมันบี้กระเด็นไปกระแทกกับกำแพงด้วยความเซ็ง มีครั้งนี้แหละที่อยู่ซุ่มนานสุด ปกติไม่เกินชั่วโมงเหยื่อก็หลุดมาให้พวกเขาแล้ว
“ดึกและกูว่าไม่มีใครเดินผ่านมาแล้วแหละ กลับกันเถอะว่ะ” ว่าจบเล้งก็ยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมากระดกให้หมด ก่อนจะโยนมันทิ้งลงพื้น แล้วเดินออกจากซอกไปเป็นคนแรก
“…..” เสือเงียบไม่พูดอะไร ได้แต่สูดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด เดินตามเพื่อนรักไปทว่าเขากลับหยุดชะงักเมื่อออกจากซอกมาแล้วสายตาพลันเหลือบไปเห็นหญิงสาวรูปร่างอรชรในชุดนักศึกษาเดินฝ่าความมืดมาคนเดียว พร้อมแสงไฟจากจอมือถือและไฟฉายด้านหลังส่องพื้นให้แสงสว่าง พึมพำร้องเพลงอย่างไม่สนใจว่ากำลังมีคนพร่ำมองอยู่
"กูเจอเหยื่อและ"
---------------------------------------
อ่านแล้วอย่าลืมกดถูกใจและคอมเมนท์ให้กำลังใจกันหน่อยน้า