บทที่ 2 ขอหย่า
นวลพรรณพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วภาพตรงหน้าปรากฎขึ้นมา บุรุษที่ชื่อหลิ่งเฟิ่งถูกโบยตี มีลูก ๆทั้ง 3 คนยืนมองบิดาด้วยใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา พวกเขาไม่สามารเข้าไปช่วยบิดา เพราะถูกจับตัวไว้
ภาพต่อมาพวกเขาสามคนไปเคารพหลุมศพบิดาด้วยความหนาวสั่น ภาพสุดท้ายทั้ง 3 คนนอนกอดกันกลมด้วยผ้าห่มบาง ๆ ในกระท่อมหลังน้อย เมื่อหิมะมาเยือน ทั้งสามคนจากไปท่ามกลางความเหน็บหนาว
ขนาดสามีนอกใจ น้ำตาเธอยังไม่ไหล…แต่วันนี้เธอเสียน้ำตาไป 2 รอบแล้ว ถ้าชีวิตของเธอช่วยพวกเขาได้ เธอพร้อมจะทำ…โลกใบนี้สำหรับเธอมันไม่น่าอยู่ตั้งแต่ที่สามีพาผู้หญิงอีกคนเข้ามา พร้อมลูกของเขากับผู้หญิงคนนั้น
“ถ้าเป็นอย่างที่คุณตาพูด…ฉันควรทำอย่างไรคะ”
“เจ้ามีเวลาแค่ 7 วัน ไปเตรียมตัวเถอะ เอ้านี่กำไลของเจ้า” คุณตาพูดจบ กำไลสีขาวปรากฎอยู่ที่ข้อมือซ้ายของเธอเรียบร้อย…
ก่อนที่คุณตาจะหายตัวไป ท่านบอกว่ากำไลหยกวงนี้จะมีประโยชน์กับเธอ ข้างในเป็นมิติที่กว้างขวาง เธอจะใส่สิ่งของใดก็ได้ แต่ก่อนที่จะนำมาใช้ ต้องหยดเลือดลงบนกำไลก่อน จากนั้นเอาของเข้าไปข้างในได้…เพียงแค่ใช้จิตสื่อสารกับมิติกำไล…สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอเหลือเชื่อเกินไปแล้ว…แต่เธอไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่…
ตอนนี้เธอกลับมาอยู่บนที่นอนของรีสอร์ตเรียบร้อย กุญแจรถกับกระเป๋าเงิน ที่มีแต่บัตรเครดิตอยู่หลาย 10 ใบ นวลพรรณนั่งทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความฝันแน่อน เพราะมีกำไลข้อมือบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริง ๆ
เธอลองทำตามที่คุณตาบอก อยู่มาครึ่งค่อนชีวิตแล้ว ไม่เคยเห็นอะไรที่เหลือเชื่อแบบนี้มาก่อน ที่ผ่านมาเธอเล่นเฟสบุ๊คบ้าง มีคนบอกและแชร์กันต่อ ๆกันว่า วัดหรือศาลเจ้าที่ไหนศักดิ์สิทธิ์ เธอไปบนมาแล้ว แต่ไม่เห็นมีลูกสักที…จะลองเชื่ออีกสักครั้งไม่เห็นจะเป็นไรเลยนี่…
หญิงสาวลุกขึ้นหยิบเสื้อคลุม เพื่อจะเอาเข็มกลัดเงินที่ติดเสื้อคลุมมาแทงนิ้วชี้ เมื่อเลือดของเธอหยดลงบนกำไล เกิดเป็นควันสีเแดงขึ้นมา ไม่นานก็หายไป แล้วเธอหลับตา เพ่งจิตไปที่กำไล
นี่เธอเข้ามาอยู่ในมิติกำไลอย่างนั้นหรือ ข้างในมีพื้นที่กว้างขวางอย่างที่คุณตาบอกไว้…อัศจรรย์เกินไปแล้ว…สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เธอยอมจำนนเชื่อที่คุณตาหมดหัวใจ
นวลพรรณออกมาจากกำไลมิติ…คิดว่าก่อนที่วิญญาณจะไปอยู่ที่นั่น เธอต้องหาของกินของใช้มาตุนไว้ในกำไล ก่อนอื่นต้องไปจัดการเรื่องสินสมรสก่อน…ส่วนเงินในบัตรเครดิต 10 กว่า ใบ รวมกัน 30 ล้านบาทได้ เธอจะซื้อของที่จำเป็นแล้วนำไปบริจาคให้สถานเด็กกำพร้าส่วนหนึ่ง
คืนนั้นเธอหลับไปเมื่อไรไม่รู้ เพราะมัวแต่คิดว่าจะเอาอะไรไปบ้าง มีเธอคนเดียวมั้งที่ยินดีที่จะไปที่นั่น… ภาพของ 4 พ่อลูกยังคงติดตาเธอ รุ่งเช้าเธอขับรถกลับบ้าน
“คุณนวลคะ…คุณผู้ชายสั่งไว้ ว่าถ้าคุณนวลกลับมาให้ไปพบท่านที่ห้องทำงานค่ะ…แล้วทานอะไรมาหรือยัง ป้าจะได้ไปอุ่นข้าวต้มให้” ป้าสมร แม่บ้านที่อยู่กับเธอมานาน ทันทีที่รถจอด นางรีบเดินมาหา
“ขอบคุณป้ามร ไปบอกเขาว่าฉันขอไปอาบน้ำก่อน ฉันไม่หิว ป้าช่วยชงกาแฟให้ฉัน 1 แก้วนะคะ” แววตาที่ป้าสมรส่งมาให้นั้นเต็มไปด้วยความเป็นห่วงเป็นใย
“ได้ค่ะ”
ในบ้านหลังใหญ่ ทุกที่มีของมีค่ามากมาย ถ้านำไปขายจะกลายเป็นเงินหลักสิบล้านกว่า ถ้าสามีไม่ยอมหย่าให้ เธอจะพิจารณาของมีค่าเหล่านี้เป็นอันดับแรก เพราะเป็นน้ำพักน้ำแรงของเธอคนเดียว ส่วนเขาไม่เคยซื้ออะไรเข้ามาในบ้าน
นวลพรรณเข้าไปทำธุระส่วนตัว ตั้งใจว่าจะถอดกำไล แต่กลับถอดไม่ออก เธอเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อที่จะล้างมือกับน้ำยาแล้วจะถอดง่ายขึ้น แต่ก็ถอดมันไม่ออกอยู่ดี เลยล้มเลิกความตั้งใจที่จะถอดกำไลออก…
“นวล…เมื่อคืนคุณไปไหน…ผมเป็นห่วงคุณมากรู้ไหม…ผมโทรหาคุณหลายสาย แต่คุณไม่รับสายเลย” ทันทีที่เธอเดินเข้ามาในห้องทำงานเขา ปกรณ์เข้ามาจับมือเธอ ทำสีหน้าเป็นห่วงเป็นใย เขาตีสองหน้าได้ดีเยี่ยม เมื่อก่อนทำไมเธอมองไม่เห็นนะ…เธอมาตาสว่างตอนนี้…ตอนที่เขาพาผู้หญิงลูกเขาเข้ามาในบ้าน…
“หึ…คุณหรือนะหรือเป็นห่วงฉัน…ขอบคุณมาก ๆนะคะ แล้วมีอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่าคะ” ถ้าคุณเป็นห่วงฉัน ทำไมไม่เข้าไปที่ห้องนอนฉัน แล้วจะรู้ว่าฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป นวลพรรณยิ้ม แต่เป็นรอยยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา
“คือ…ผมจะมาขอให้ตานุใช้นามสกุลของผม คุณไม่ว่าอะไรใช่ไหม อีกอย่างต่อไปนี้นวลจะมีลูกเหมือนคนอื่น ๆ แล้วนะ”
“เหอะ…ปล่อยมือฉันด้วย…อ้อ…เด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกฉัน…แล้วฉันไม่ว่าอะไรด้วย ที่จะให้เด็กคนนั้นกับแม่เขาใช้นามสกุลของคุณ แต่ต้องแลกกับใบหย่า ส่วนทรัพย์สินที่คุณกับฉันร่วมสร้างมาด้วยกัน เอ…ส่วนมากจะเป็นของฉันคนเดียวมากกว่านะคะ… ฉันจะอนุเคราะห์แบ่งกันคนละครึ่ง” นวลพรรณสะบัดมือออกจากมือใหญ่ที่กุมมือเธอไว้
“ไม่…ผมจะไม่หย่าให้นวล…จำไว้จะไม่มีวันนั้น” เขาจะหย่าทำไม ในเมื่อบริษัทที่เขาร่วมลงทุนกับเพื่อนกำลังขาดทุนไม่เหลือชิ้นดี…ที่เขาพาเมียกับลูกเข้ามาอยู่ในบ้าน เพราะจะได้ประหยัดค่าเช่าคอนโดนั่นเอง
“หึ หึ หึ นี่หรือปกรณ์ที่ฉันเคยรัก…ที่ผ่านคุณเคยรักฉันบ้างไหมคะ…ฉันโง่ให้คุณหลอกมากี่ปีแล้ว? ถ้าคุณมีความเป็นลูกผู้ชายพอ ก็รีบหย่าให้ฉันเถอะ…ปกรณ์” ฉันจะเดินออกจากห้อง แต่…
“เธอจะออกไปไหนไม่ได้ ในเมื่อเรายังคุยกันไม่รู้เรื่อง” เขาเดินอ้อมมาที่โต๊ะคว้าแขนซ้ายเธอไว้ แต่แล้ว…“อ๊ากกกกกก…” ท่าทางมือเขาเหมือนโดนของร้อน…
“นวล!!! นี่เธอใส่กำไลไฟฟ้า เพื่อจะฆ่าฉันทางอ้อมเหรอ” ความร้อนจากกำไล ทำให้ฝ่ามือเขาแดงแปร๊ด พร้อมกับคำพูดที่ทำให้นวลพรรณอยากหัวเราะดัง ๆ
“ประสาท…วันจันทร์นี้ 09.30 น.เจอกันที่ห้องโถง ฉันจะโทรนัดเจตให้มาทำเรื่องหย่าที่บ้าน…อ่อ แล้วถ้าคุณไม่หย่า…เราจะได้เห็นดีกัน…ปัง”
เธอเดินออกมาจากห้องทำงานเขาแล้วปิดประตูดังปัง…รู้สึกสะใจชะมัดพร้อมกับลูบกำไลเป็นการขอบคุณ ที่ถอดออกไม่ได้
เจตคือเพื่อนของเธอ เมื่อเดือนก่อนเจอเจตที่ห้าง เจตถามเธอว่าได้ข่าวไหม บริษัทเพื่อนสามีของเธอกำลังจะล้มละลาย…เธอบอกว่าไม่ได้สนใจ พวกเราไม่ได้คุยกันนานแล้ว อีกอย่างบริษัทของเพื่อนเขาจะเป็นอย่างไงมันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ เพราะเธอไม่รู้ว่าสามีนำเงินไปลงทุนกับเพื่อนหลายสิบล้านโดยปิดเรื่องไว้ไม่ให้เธอรู้
คุณตาบอกว่าเธอจะอยู่ได้แค่ 7 วัน วันนี้เธอจะไปไหนดี ที่ผ่านมาเธอทุ่มเทให้ความรักครั้งนี้มาก เพื่อนสนิทที่เคยหวังดีกับเธอ จากเธอไปทีละคน ถ้าเธอเลือกฟังเพื่อน ๆ วันนี้เธออาจมีเพื่อนอยู่ข้างกาย…