บทที่5เข้าวัด
เธอน่าจะซื้อหวยรัฐบาลมา…เพราะตอนเช้าปกรณ์เดินมาที่ห้อง บอกว่าจะไม่หย่า จากนั้นเดินขึ้นรถไปทำงาน…ไม่สนใจเรื่องหย่าที่เธอบอกเขาเมื่อวาน นวลพรรณรีบโทรหาเพื่อนชายทันที…
“ฉันว่าแล้ว ว่ามันไม่โง่ที่จะหย่าให้นวลหรอก…ขอโทษที่ฉันใส่อารมณ์…แล้วเธอจะทำยังไงต่อนวล มีอะไรพอที่ฉันกับพี่ธันจะช่วยเธอได้ไหม”
“เจต ถ้าฉันจะไลฟ์สดขายแบรนด์เนม ไม่สิ ของทุกอย่างที่ฉันเคยซื้อให้เขา รวมทั้งของฉันด้วย ออกมาขายให้หมด จากนั้นฉันอาจจะหนีไปที่ไหนสักแห่ง…” เธอไม่กล้าบอกเพื่อนว่าหลังจากจัดการทุกอย่างแล้ว เธอจะจากเพื่อนตลอดไป
“อืม…เป็นความคิดที่ดีเพื่อนรัก เธอปรึกษาไม่ผิดคนหรอกจ้ะ…” เจตบอกว่าลูกพี่ลูกน้องพี่ธันมีโรงงานรับซื้อของแบรนด์เนมทุกอย่าง แล้วนำมาทำสปาอีกที ขายในไลฟ์สด เงินเข้าออกบริษัทวันละหลายสิบล้าน
“ขอบคุณเจต ระหว่างนี้ฉันจะจดรายการของที่จะนำไปขายว่ามีกี่ชิ้น แล้วนัดให้ทางร้านมาเอา” ตอนแรกเธอกังวลว่าจะให้ใครช่วยยกของ แต่เมื่อเพื่อนบอกว่าถ้าของมีเกิน 10 ชิ้น ทางร้านจะส่งรถไปรับเอง
“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ข้างนวลเสมอ…แล้วไม่ต้องคิดมาก ช่วงนี้อยากทำอะไรก็ทำไป เรื่องหย่าฉันจะปรึกษาพี่ธันอีกที” เจตภพคิดว่าสิ่งที่เพื่อนสาวทำ คงเป็นการเอาคืนปกรณ์เล็ก ๆน้อย จากนั้นเธอต้องมีแผนการที่ใหญ่กว่านั้น คนฉลาดอย่างนวล ไม่มีทางยอมแพ้อะไรง่าย ๆหรอก นี่คงเป็นอีกทางที่เพื่อนสาวจะเอาคืนปกรณ์
เหมือนทุกอย่างเปิดทางให้ฉัน หลังจากที่ฉันไปยื่นใบลาออก บอกเจ้านายว่าหมดไฟในการทำงาน ขอกลับไปอยู่บ้านเฉย ๆ เจ้านายเข้าใจแล้วท่านเข้าใจฉัน ว่าฉันคงเหนื่อยกับชีวิต ที่ผ่านมาฉันทำงานดีถูกใจท่าน แล้วฉันเป็นคนที่มีวินัยสูง ถึงจะลางานไปโรงพยาบาลบ่อยครั้ง แต่ฉันส่งงานรับผิดชอบในส่วนของฉันมาตลอดอย่างดีไม่ขาดตกบกพร่อง
“คุณเป็นคนที่ทำงานดีมาก ถ้าพร้อมเมื่อไร คุณกลับมาทำงานตำแหน่งเดิมได้ทุกเมื่อนะคุณนวล” เจ้านายที่เข้าใจและเห็นใจลูกน้องแบบนี้มีน้อยคน เพราะการที่เธอออกไป ทางบริษัทต้องจ้างคนใหม่ กว่าจะชำนาญงานแบบเธอ ต้องเสียเวลานาน
เธอขอบคุณเจ้านายแล้วรับเงินชดเชยกลับบ้านด้วยใจพองฟู ระหว่างทางแวะเข้าวัด เป็นวัดที่อยู่ทางเข้าบ้าน ที่ผ่านมาเธอไม่เคยเข้าวัดนี่มาก่อน
เพราะมัวแต่เข้าวัดดัง ๆที่มีคนบอกว่าศักดิ์สิทธิ์…ขออะไรก็ได้ดั่งใจปรารถนา…แต่ไม่ใช่กับเธอ…เพราะทุกที่ที่เขาบอกว่าศักดิ์สิทธิ์ เธอไปขอลูกมาแล้ว…
นวลพรรณหยิบซองสีขาวใส่เงินชดเชยทั้งหมดลงไปลงไป ขอให้บุญกุศลที่เธอจะทำครั้งนี้ หนุนนำให้ชีวิตใหม่ที่จะไปอยู่อีกยุคหนึ่งมีแต่ความสุข ความเจริญ สุขภาพกายใจแข็งแรง อายุยืนยาว เจอคนจริงใจ…
เธอไม่เคยเข็ดกับความรัก…แล้วเชื่อว่าความรักทำให้ทำให้โลกน่าอยู่…ที่สำคัญเธออยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์…เป็นความใฝ่ฝันที่โลกนี้ให้เธอไม่ได้…เด็กกำพร้าอย่างเธอจะมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไม่ได้เลยหรือ…
เมื่อเข้าไปในบริเวณวัด ฉันรู้สึกถึงความเงียบสงบ พล่อยทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นคิดโน่นคิดนั่นตลอดเวลาสงบลง พอถอดรองเท้าเข้าไปนั่งยกมือหลับตาอธิษฐาน
“ต่อไปนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ลูกขอการปกป้องคุ้มครองจากอำนาจพระศรีรัตนตรัยปกคุ้มครองให้ลูกแคล้วคลาดปลอดภัย ไม่ว่ายุคนี้หรือยุคที่จะไป ลูกขออโหสิกรรมให้คนทุกคน ที่เคยทำให้ลูกช้ำใจ…สาธุ”
เธอก้มลงกราบพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่โล่ง ๆ ในศาลา เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเห็นพระรูปหนึ่งนั่งอยู่บนตั่งด้านขวามือเธอ ท่านอายุ 60 ปีแล้วมั้ง ถัดไปมีเณรน้อยหน้าตาน่ารักนั่งพัดให้ท่าน 1รูป นางรีบกราบนมัสการ
“อืม…เจริญพรโยม…ที่ผ่านมาโยนคงเหนื่อยมาตลอดชีวิต…แต่โยนลืมไปว่ามนุษย์จะฝืนชะตาชีวิตไม่ได้…อนาคตต่อจากนี้ไป สิ่งที่โยนสูญเสียจะได้กลับคืนมา…จำไว้ที่นี่ไม่ใช่ที่ของโยน…อาตมาขอให้โยมความสุขกับชีวิตใหม่”
“สาธุเจ้าค่ะหลวงตา” หลวงตาพูดเหมือนท่านรู้เรื่องฉันด้วย…นวลพรรณใจชื้นขึ้นมา…อย่างน้อยก่อนที่เธอจะไปจากโลกนี้ มีหลวงตาที่รับรู้แล้อวยพรให้เธอ…จากนั้นหยิบกระเป๋าขึ้นมา แล้วนำซองสีขาววางบนพานสีทอง แล้วรับคำอวยพรจากหลาวงตาอีกรอบ………
ก่อนที่นวลพรรณจะกลับเข้าบ้าน เธอซื้อผลไม้ที่ป้าสมรชอบด้วย ที่ผ่านมาป้าสมรดูแลอาหารการกินให้เธออย่างดี
เธอกลับเข้าบ้านด้วยใบหน้าที่ชื่นมื่น ไม่เหมือนคนที่ถูกสามีนอกใจพาลูกกับเมียน้อยเข้ามาในบ้าน ใบหน้าแววตาแตกต่างจากเมื่อวานและเมื่อเช้า
3 วันที่ผ่านมา ฉันจดรายการของทุกอย่างที่จะขาย แล้วส่งไปให้เจตในไลน์ เพื่อที่ญาติของพี่ธันจะได้ประเมินราคา เธอนัดให้มารับของวันเสาร์ ซึ่งเป็นวันที่ปกรณ์จะทางไปเที่ยวที่ภูเก็ต…
ความจริงเขาพาลูกชายมาชวนฉันไปเที่ยวด้วยกัน ฉันยิ้มให้เด็กน้อย ไม่ได้มองหน้าเขา