หนูชอบคุณหมอนะคะ

1980 คำ
วันนี้เป็นวันที่ 3 ที่เธออยู่ที่อุดรแล้วและก็เป็นวันสุดท้ายที่เธอมาเป็นอาสาสมัครกับเขาที่นี่ เธอคิดว่าการตื้อเท่านั้นที่จะครองโลก ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกตกใจกับเรื่องเมื่อวาน ตอนที่เขาจูบและก็รู้สึกไม่อยากเข้าใกล้เขา แต่นี่เป็นเหตุผลเดียวที่จะช่วยพ่อเธอได้ “หมอคะ นี่ค่ะของที่หมอต้องการ” อรพรรณีเดินถือของที่หมอศินวิทย์ต้องการเข้ามาให้ เขาเงยหน้าขค้นมามองแล้วก็ทำหน้างง “นี่เธอยังอยู่อีกหรอ...?” “อยู่สิคะ จะให้หนูไปไหนละ” “เธอนี่มันเป็นเด็กแบบไหนกันแน่ ฉันไม่เข้าใจเลยจริงๆ...” “ถ้าหมออยากรู้ หมอก็ต้องลองเปิดใจคบกับหนูค่ะ หมอถึงจะรู้จักหนูมากขึ้น” “ฉันไม่อยากคุยกับเด็กกะโปโลอย่างเธอ จะไปไหนก็ไป” “หนูไม่ไปค่ะ เพราะหนูมีหน้าที่คอยอยู่ช่วยหมอ คอยดูว่าหมอต้องการอะไรหนูจะได้ช่วยได้ทัน” “งั้นก็ไปอยู่ให้ไกลๆสายตาฉัน ฉันจะทำงาน” เธอเดินห่างออกไปเล็กน้อยแล้วไปนั่งลงที่เก้าอี้อยู่ไม่ห่างจากเขานัก เขามองมาอย่างนึกรำคาญที่มีเด็กไม่รู้จักคิดมาทำแบบนี้ใส่ จริงๆเขาแก่กว่าเธอมากเกินกว่าที่จะเข้าใจสิ่งที่เธอทำตอนนี้ “หนูมาหาหมอค่ะ หมออยู่ไหนคะ หมออยู่ไหมคะ...?” เสียงเด็กผู้หญิงจากข้างนอกดังเข้ามาในบ้านพักที่เขานั่งทำงานอยู่ โดยมีอรพรรณีที่นั่งเฝ้าเขาหันไปมองตามเสียง “หมอครับ มีเด็กผู้หญิงมาร้องไห้โวยวายอยู่หน้าห้องตรวจครับ...” บุรุษพยาบาลท่านหนึ่งเดินเข้ามา อรพรรณีนึกขึ้นได้ว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นต้องเป็นคนที่มาเมื่อวานแน่ๆเธอจึงรีบวิ่งออกไปดู “หมออยู่ไหนคะ หมออยู่ไหน...?” “น้องคะ...” “พี่สาว พี่บอกว่าจะพาหมอไปหาพ่อหนู ทำไมไม่ไปคะ...? หนูรอทั้งคืนเลย ให้หมอไปดูพ่อหนูทีนะคะ นะคะพี่” “เอ่อ...” “นะคะ ช่วยพ่อหนูที หนูอยากให้หมอไปรักษาพ่อของหนู นะคะพี่ อึกๆๆ” เด็กผู้หญิงร้องไห้อ้อนวอนเธอจนเธอเริ่มเห็นใจ “มีอะไร...?” หมอศิรวิทย์เดินออกมาจากห้องห้องตรวจ “คุณหมอ...คนนี้คุณหมอใช่ไหมคะ คุณหมอไปช่วยพ่อหนูทีนะคะ..?” “ค่อยๆพูดนะหนู บอกหมอก่อนว่าพ่อหนูเป็นอะไร..?” “พ่อโวยวายเสียงดัง แล้วก็ทำลายข้าวของ เมื่อกี้แม่เอาพ่อขังไว้ในบ้านแต่พ่อก็จะเอามีดมาทำร้ายตัวเอง พวกเราไม่กล้าเข้าไปห้ามค่ะ หนูกลัวหนูกลัวว่าพ่อจะตาย อึกๆๆ” อรพรรณีได้ยินแล้วก็รู้สึกสงสารเด็กคนนี้มากๆ เธอหันไปรอฟังคำตอบจากหมอศิรวิทย์ว่าเขาจะทำยังไง “ได้..หมอจะไปเดี๋ยวนี้เลย หนูนั่งรถไปกับหมอนะ..” “ค่ะ..” แต่ก่อนที่เขาจะเดินออกไปก็หันมาสั่งคนแถวนั่นให้แจ้งความแล้วขับรถตามไปสมทบ “ใครก็ได้ช่วยแจ้งตำรวจให้ตามไปที่บ้านของเด็กคนนี้ด้วยนะ เผื่อเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นจะได้ช่วยกันจัดการได้ทัน..” “ครับ..คุณหมอ..” หมอศิรวิทย์พูดจบก็วิ่งนำทุกคนไปที่รถ มีรถ 2 คันขับตามกันออกไปโดยมีฉันนั่งไปด้วย “อย่าเข้ามานะ ใครเข้ามากูจะเอามีดแทงตัวเองให้ตายเลย” พ่อของเด็กคนนั่นโวยวายเสียงดังออกมา “แม่ๆ หมอมาแล้ว” “แกไปตามหมอมาทำไม บอกแล้วไงไม่มีใครช่วยได้ พ่อแกมันบ้าไปแล้วตำรวจเขายังไม่รับแจ้งความเลย บอกแต่ว่าพ่อแกเป็นบ้าให้พาไปอยู่โรงบาล โอ้ยย...ฉันจะบ้าตายอยู่แล้ว” แม่ของเด็กคนนั้นร้องไห้โวยวายด้วยความเสียใจที่ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง “เราไม่มีเงินพาพ่อไปอยู่โรงพยาบาล ยาเราก็ไม่ได้ไปเอาเพิ่มพ่อเลยต้องเป็นแบบนี้ หนูไม่อยากให้พ่อเป็นแบบนี้เลย หนูอยากให้พ่อหายเป็นปกติ แต่เราไม่มีเงินพาพ่อไปหาหมอค่ะ อึกๆ” เด็กผู้หญิงคนนั้นร้องไห้สะอึกสะอื้นพูดอธิบายออกมาให้หมอศิรวิทย์ฟังด้วยเสียงสั่นเครือ อรพรรณีมองเธอด้วยแววตาที่ดูน่าสงสาร “คุณครับฟังหมอนะ คุณใจเย็นๆนะครับตั้งสติก่อน ลูกสาวของคุณอยู่ข้างนอกเขาเป็นห่วงคุณมากนะครับ....” “ไม่ต้องมายุ่งกับกู..พวกมึงจะมาจับตัวกู กูไม่ไปไหนทั้งนั้น กูไม่ไป.....” หมอศิรวิทย์ตะโกนเข้าไปในบ้านแล้วก็มองเข้าไปในช่องประตูเล็กๆ คอยดูพฤติกรรมของพ่อเด็กคนนั้น “พ่อจ๋า พ่อ...พ่อ อึกๆๆ ฮืออออ...” อรพรรณีเดินเข้ามากอดเด็กผู้หญิงคนนี้ไว้เพื่อปลอบใจ แล้วคอยมองดูสถานการณ์ตลอดเวลาอยู่ใกล้ๆเขา “คุณวางมีดลงก่อนนะ แล้วเราค่อยๆคุยกัน” “ไม่ กูไม่วาง อย่ามายุ่งกับกู” อรพรณีคอยฟังเหตุการณ์ไปด้วย มองไปรอบๆบ้านด้วยเห็นภาพครอบครัวพวกเขาแขวนอยู่ที่ผนังมีพ่อแม่ลูกถ่ายด้วยกัน 3 คน มันมีหลากหลายอารมณ์มาก พ่อที่ถ่ายกับลูกสาว แม่ที่ถ่ายกับพ่อ จนเธอสัมผัสได้ว่าเขาต้องรักครอบครัวมากแน่ๆ แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงเป็นแบบนี้ “พวกมึงจะเอาหนูดีไปจากกู พวกมึงคิดว่ากูบ้าแล้วจะพรากลูกไปจากกู” “พ่อจ๋า พ่อจ๋า...อึกๆๆๆ” อรพรรณีมองหน้าเด็กผู้หญิงคนที่อยู่ในอ้อมกอดเธอ แล้วรู้ทันทีว่าคนที่ผู้ชายคนนั้นพูดถึงคือเด็กคนนี้ “หนูดี...?” เธอเรียกชื่อเด็กผู้หญิงคนนี้ “อึกๆๆ...” “หนูดีกลัวพ่อไหม...?” อรพรรณีนั่งคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ แล้วถามเธอขึ้น เธอส่ายหน้าทั้งน้ำตาแทนการตอบว่าเธอไม่กลัว “ถ้าหนูดีเข้าไปหาพ่อตอนนี้หนูกล้าไหม...?” ทุกคนหันมามองตามสิ่งที่เธอพูดเพราะตกใจทั้งคำถามของเธอและคำตอบของหนูดีด้วย “คุณจะบ้าหรอ ให้ลูกฉันเข้าไปตอนนี้พ่อมันได้ทำร้ายหนูดีแน่ๆ ยิ่งไม่มีสติอยู่” “คุณไม่ได้ยินหรอคะ ว่าเขาพูดชื่อหนูดี...แปลว่าเขาต้องรักลูกมากแน่ๆ ถ้าเขาได้เห็นหน้าหนูดีเขาอาจจะสงบลงก็ได้” “....” ทุกคนมองหน้ากันอย่างคิดตามที่เธอพูด “หนูดีเป็นลูกสาวที่พ่อเขารักมากก็จริง แต่ฉันก็ไม่กล้าเสี่ยงให้ลูกฉันเข้าไปหรอกนะ” “แล้วถ้าเราไม่ทำแบบนี้คุณอาจจะสูญเสียพ่อของหนูดีไป แล้วตัวคุณเองก็จะเสียสามีของคุณไปด้วยนะคะ” “กรี๊ดดด...พ่ออย่าาาา....” ทุกคนรีบหันไปมองตามเสียงที่หนูดีกรี๊ดเสียงดัง เพราะเห็นว่าพ่อตนเองกำลังจะใช้มีดกรีดไปตามเนื้อตัวเองแต่พอได้ยินเสียงหนูดีก็ชะงัก “เห็นไหมคะว่าเขาหยุดจริงๆด้วยเมื่อได้ยินเสียงหนูดี เราต้องเสี่ยงแล้วค่ะ ถ้าเราไม่ทำแบบนี้ปล่อยไว้นานๆเขาอาจทำอะไรรุนแรงกับตัวเองอีกแน่ๆ...” “แม่ หนูดียอม หนูดีจะเป็นคนเข้าไปห้ามพ่อเอง...” หนูดีหันมาบอกกับทุกคนด้วยแววตาจริงจัง ถึงเธอจะเป็นเด็กแต่เธอก็ดูมีความกล้าพอที่จะเข้าไปเสี่ยงแบบนั้นเพื่อพ่อตัวเอง “ถ้าแกเข้าไปฉันก็จะเข้าไปด้วย ถ้าพ่อแกทำอะไรแกเราจะได้ตายไปพร้อมๆกันเลย...” ทั้งหมดมองหน้ากันด้วยความหดหู่ แต่ก็ต้องยอมทำตามที่อรพรรณีพูดเพราะคิดว่านี่น่าจะได้ผลที่สุดแล้ว ทั้งหมดรอลุ้นอยู่หน้าประตูปล่อยให้ 2 แม่ลูกเข้าไปด้วยกัน โดยมีสายตาของอรพรรณีมองอยู่ตลอดเวลาเธอลุ้นไปด้วยว่า พ่อของเขาจะทำร้ายทั้ง 2 คนไหม เขาจะยอมใจอ่อนมีสติแล้วควบคุมมันได้ไหมถ้าหากเจอคนที่รักมากๆ และในที่สุดแผนการของเธอก็เป็นอย่างที่เธอคิดจริงๆ จนทุกคนยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ พ่อของหนูดีมีสติมากขึ้นเมื่อเจอหน้าลูกสาวที่กำลังร้องไห้เรียกแต่พ่อจ๋า พ่อจ๋า ไม่หยุด เห็นหน้าภรรยาที่ร้องไห้พูดอ้อนวอนให้เขาวางมีดลง น้ำตาของหนูดีและท่าทางที่ดูเหมือนกลัวพ่อตัวเอง แต่ก็ยังกล้าเข้าไปใกล้เพราะเป็นห่วงพ่อ ท่าทางพวกนี้เหตุการณ์แบบนี้เธอรู้ว่ามันรู้สึกยังไง น้ำตาที่เริ่มไหลออกมาของอรพรรณีทำให้หมอศิรวิทย์ที่มองอยู่ถึงกลับละสายตาไม่ได้ เขาทึ่งในสิ่งที่เธอกล้าคิดกล้าตัดสินใจ และเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้เขามองเธอเปลี่ยนไปจากเดิม เหตุการณ์จบลงด้วยดีพ่อของหนูดีถูกพาไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยมีหมอศิรวิทย์ออกค่ารักษาพยาบาลให้ทุกอย่างจนกว่าเขาจะหายดี ทำให้อรพรรณีตกใจที่เขาช่วยเหลือคนไข้ได้ถึงขนาดนี้ หรือว่าเธอจะเปลี่ยนแผนเป็นทำตัวให้น่าสงสารเพื่อให้หมอศิรวิทย์ออกค่ารักพยาบาลให้พ่อเธอบ้าง ..... ช่วงเย็น หมอศิรวิทย์เริ่มสังเกตุเห็นว่าอรพรรณีดูเงียบๆไปตั้งแต่กลับมาจากบ้านของหนูดี แล้วเธอก็ดูเหม่อลอยเหมือนมีอะไรคิดในใจ “นี่เธอ...” เขาเดินเข้าไปทักเธอที่เห็นนั่งเงียบคนเดียวหน้าห้องพัก “คุณหมอ...” เธอสะดุ้งทันที่รู้ว่าเป็นเขาที่เดินเข้ามาทักแบบเงียบๆ “ฉันเห็นเธอนั่งคิดอะไรคนเดียวอยู่สักพักแล้วนะ ตั้งแต่กลับมาจากบ้านหนูดี คิดอะไรอยู่...?” เธอมองหน้าเขาอย่างแปลกใจ “คุณสนใจหนูด้วยหรอคะ...?” “เปล่า...ฉันก็แค่ถามเฉยๆ” เขาเห็นว่าเธอไม่ตอบก็กำลังจะเดินไป “ทำไมหมอถึงไม่ชอบหนูคะ...?” เธอถามเขาจนเขาหยุดชะงักทันที “หนูเด็กเกินไป หรือหนูดูเหมือนเด็กแก่แดดที่ชอบคนที่อายุมากว่าอย่างคุณหมอ แล้วหนูผิดหรอคะ...?” “....” เขาไม่ตอบอะไรแต่เลือกที่จะเงียบ “หนูไม่เคยคิดที่จะชอบใครเลยแต่หนูก็ดันมาชอบคนแก่กว่าอย่างคุณหมอ จะให้หนูทำยังไงคะคุณหมอถึงจะเชื่อว่าหนูชอบคุณหมอจริงๆ..?” เธอกำลังจะพูดต่อแต่เขาพูดแทรกขึ้น “ถ้าเธอไม่ใช่เด็กจริงๆเธอคงไม่บอกชอบฉันเพียงแค่ต้องการให้ฉันยอมคบกับเธอ เพื่อให้ได้สิ่งที่เธอหวัง เพราะอยากให้ฉันช่วยเรื่องค่ารักษาพ่อเธอ เธอคิดผิดนะ....” เขาหันมามองหน้าเธอนิ่งๆ โดยมีสายตาของเธอมองมาอย่างอึ้งๆ “นี่หรอที่ไม่ใช่ความคิดเด็กๆ...?” “คุณหมอ...รู้หรอคะ?” “คนไข้ในโรงพยาบาลฉันรู้จักดีทุกคน ญาติคนไข้ที่เข้าออกโรงพยาบาลฉันก็จำหน้าได้ทุกคน...ฉันไม่ใช่แค่เป็นหมอที่รักษาคนไข้นะ แต่ทุกคนก็เหมือนเป็นครอบครัวฉัน” เธอฟังเขาอย่างอึ้งๆตาค้างไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องนี้ด้วย นี่เธอทำผิดแผนไปมากเลยจริงๆ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม