หมอโรคจิต

1461 คำ
หลังจากที่คุณหมอศิรวิทย์เผลอไปจูบเธอเพราะความโมโหที่เธอเอาแต่เถียงเขาไม่หยุด เธอก็เอาแต่หลบหน้าเขาจนเขาต้องคอยมองหาว่าเธอหายไปไหนตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะนี่ก็เริ่มเย็นมากแล้วเธอยังไม่เข้าที่พักสักที “โทษนะครับ เด็กผู้หญิงที่มาเป็นอาสาสมัครอีกคนหายไปไหนหรอครับ...?” เขาเดินเข้ามาในกลุ่มของทีมอาสาสมัครที่นั่งคุยกันอยู่ 2 คน “ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ เห็นน้องเขามาช่วยทำงานจนเสร็จก็หายไปตั้งแต่ตอนเย็นแล้วค่ะ” “ขอบคุณนะครับ” เขาพยักหน้ารับแล้วก็เดินออกไปจากตรงนั้น เพื่อมองหาเธอว่าเธอ “หายไปไหนของเธอนะ นี่โดนจูบไปแค่ทีเดียวถึงขนาดหนีไปเลยหรอ ยัยเด็กติ๊งต๊องเอ้ย...” เขาบ่นกับตัวเองเบาๆ แต่ก็รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำกับเธอไปแบบนั้น แต่ก็ไม่เขาใจตัวเองเลยว่าทำไมตอนนั้นเขาถึงทำแบบนั้นกับเธอลงไปได้ พอนึกถึงเรื่องที่เขาเผลอไปจูบเธอเข้า ก็ทำสีหน้าเครียดขึ้นมา ... “อื้มมมม...อ่อยอู่อะ” เธอดิ้นขลุกขลักในอ้อมกอดของเขาแต่เขาก็ไม่ยอมรั้งใบหน้าเธอจนแน่นให้อยู่นิ่งๆ ใช่แขนอีกข้างกอดรัดตัวเธอไว้ เธอจึงใช้แรงทั้งหมดที่มีอยู่ดันเขาออกจนกระเด็น “คุณหมอ คุณทำบ้าอะไรเนี้ย...?” เธอเอามือยกขึ้นมาเช็ดปากตัวเองแรงๆด้วยสีหน้าไม่พอใจเขาเอามากๆเลย “ฉันก็แค่อยากสั่งสอนเด็กอย่างเธอให้รู้ว่า การเถียงผู้ใหญ่มันไม่ดีไง...” “หนูเพิ่งรู้นะว่าจริงๆแล้วคุณมันก็เป็นแค่คุณหมอโรคจิตคนหนึ่ง...” “งั้นเธอก็เลิกยุ่งกับฉันสะซิ ถ้ารู้แบบนี้แล้ว” “ไม่มีวัน..อย่าคิดนะว่าแค่นี้แล้วหนูจะกลัว ถอดใจจากคุณหมอไปง่ายๆ..” “นี่เธอ..” เธอมองหน้าเขาด้วยความไม่พอใจ แต่ก็ทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปใกล้ๆเขา “ต่อให้คุณหมอจะทำอะไรกับหนูหนูก็จะทน คุณหมอจะด่าหนู จะว่าหนูยังไงก็ได้หนูก็จะท้อ..หนูจะทำให้คุณหมอชอบหนูให้ได้” “พยายามไปก็เปล่าประโยชน์ เพราะฉันจะไม่มีวันชอบเธอ..” “หนูจะคอยดูว่าถ้าหนูตามตื้อคุณหมอทุกวัน แล้วคุณหมอจะไม่มีวันใจอ่อนให้กับหนูจริงๆ” หมอศิรวิทย์มองฟน้าเธอนิ่งๆ แล้วเดินเข้ามาใกล้ๆเธอยิ้มท้าทายเธอ “แต่ถ้าเธอยอมนอนกับฉันก็ไม่แน่นะ..?” “...” เธอจ้องหน้าเขาอย่างอึ้งๆ ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากเขา เธอมองเขาด้วยแววตาที่ดูผิดหวัง มันทำให้เขารู้สึกผิดกับสิ่งที่พูดออกไปยังไงบอกไม่ถูก และตั้งแต่ตอนบ่ายเขาก็ยังไม่เห็นหน้าเธออีกเลย และนี่ก็มืดค่ำแล้วเธอหายไปไหนของเธอนะ ... เวลา 2 ทุ่ม “ขอบคุณมากนะครับ นี่ถ้าไม่ได้คุณนะผมคงทำคนเดียวไม่ไหว...” เขาหันไปมองตามเสียงได้ยินเหมือนมีคนคุยกัน เขาจึงหลบอยู่หลังเสาก็เห็นเป็นอรพรรณณีเดินมาคู่กับผู้ชายคยหนึ่ง “ไม่เป็นไรค่ะ ก็ช่วยๆกันจะได้เสร็จไวๆ” “คุณมาเป็นอาสาสมัครที่นี่หรอ..?” “ใช่ค่ะ หมวยมากับทีมแพทย์ที่มาจัดสัมนานะคะ” อรพรรณีคุยกับนักศึกษาแพทย์คนหนึ่งที่อยู่อีกทีมกับหมอศิรวิทย์ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่ามีใครแอบดูอยู่ “ผมก็เป็นนักศึกษาแพทย์อีกทีมที่มาดูแลในส่วนของการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้คนในหมู่บ้านนะครับ” “หรอคะ ดีจัง...” “เอ่อ...คุณชื่อหมวยหรอครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมชื่อภาคครับ...” “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ว่าที่คุณหมอภาค” เธอยิ้มให้กับเขาอย่างเป็นมิตรจนคนที่แอบมองอยู่รู้สึกหมั่นใส้อย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ที่เห็นเธอยิ้มสดใสแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่น “หวังว่าผมคงจะมีโอกาสได้เจอคุณหมวยที่กรุงเทพฯอีกนะครับ” “ถ้าโลกไม่กว้างพอนะคะ...” ทั้ง 2 คนหัวเราะให้กันอย่างชอบใจ “งั้นผมขอแอดไลน์คุณหมวยไว้ได้ไหมครับ..?” “ได้ค่ะ....” เพล้ง>>>>> “ว๊าย...” ทั้งคู่สะดุ้งทันทีที่ได้ยินเสียงหม้อตกกระจายมาที่พื้นจนทั้ง 2 คนตกใจหันไปมอง “หม้อมาได้ยังไง...?” ทั้งคู่สงสัยว่าทำไมอยู่ดีๆหม้อก็ลอยออกมาได้ “ผมขอแอดไลน์คุณหน่อยนะครับ..?” “ค่ะ...” เธอหยิบมือถือขึ้นมาให้เขาแอดไลน์ แล้วหลังจากนั้นเธอก็เดินแยกจากเขามา อรพรรณีเดินเข้ามาในห้องพักที่มีคนเริ่มเตรียมตัวเข้านอนกันแล้ว เธอหันไปมองทางที่นอนของหมอศิรวิทย์ก็ไม่เห็นเขา แต่ก็ไม่ได้สนใจนักจึงไปหยิบผ้าขนหนูกับผ้าถุงเตรียมตัวออกไปอาบน้ำข้างนอก ที่อาบน้ำเป็นลานกว้างแต่มันดูมืดมากเพราะนี่ก็เริ่มดึกมากแล้ว เธอจึงรีบเปลี่ยนชุดเป็นผ้าถุงแล้วใช้ขันตักน้ำในโอ่งอย่างรวกๆจนเสร็จอย่างไว แล้วเธอก็กำลังจะเดินกลับที่พัก “ว๊าย...” เธอตกใจมากที่จู่ๆก็ไปชนกับอะไรบางอย่าง จึงรีบนั่งคุกเข่าพนมมือไหว้ด้วยความกลัว เพราะคิดว่าเป็นผีมาหหลอก “อย่าทำอะไรหนูเลย หนูกลัวแล้ว อย่ามาหลอกมาหลอนหนูเลย เดี๋ยวหนูจะทำบุญไปให้นะคะ...” “นี่...ฉันเอง...” “...” เธอหยุกชะงักทันทีแล้วลืมตาขึ้นมามองอย่างช้าๆ “คุณหมอ...” เธอโล่งอกไปทีที่เห็นเป็นเขา “แล้วคุณมาทำอะไรตรงนี้ละคะ..? หนูก็คิดว่าผี...” “ฉันมาเดินเล่น...แล้วก็เห็นว่าเธอกำลังอาบน้ำอยู่...แต่นี่เธออาบแค่ 2 ขันก็เสร็จแล้วหรอ..?” “คุณหมอมาแอบดูหนูออาบน้ำหรอคะ ที่แท้คุณก็เป็นคุณหมอโรคจิตจริงๆด้วย” “ฉันไม่ได้มาแอบดูเธอ ฉันแค่เดินผ่านมาแล้วก็เห็นว่าเธออาบน้ำอยู่แล้วสบู่ก็ไม่ได้ฟอกด้วยสกปรกที่สุด..” เธอมองเขาอย่างอึ้งๆที่เขารู้ด้วยว่าเธอไม่ได้ฟอกสบู่ เธอคืดอะไรขึ้นมาได้จึงทำท่าจะเดินเข้าไปใกล้ๆเขา “เธอจะทำอะไร...?” “ถึงหนูจะอาบแค่ 2 ขัน แต่ตัวหนูไม่เหม็นก็แล้วกัน คุณอยากดมดูไหมละคะ..?” “นี่เธอพูดอะไรรู้ตัวหรือเปล่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาพูดจาให้ท่าผู้ชายแบบนี้นะ..” เขาพยายามเดินถอยหลังให้ห่างจากเธอ แต่เธอก็เดินเข้ามาใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ “ทีเมื่อตอนบ่ายคุณยังจูบหนูได้เลย คุณมาจูบเด็กกะโปโลอย่างหนูทำไมละ จริงๆแล้วคุณเองก็เริ่มชอบหนูแล้วใช่ไหม...?” “อย่ามาคิดเองเออเอง ฉันไม่ได้ชอบเด็กอย่างเธอ” “แน่ใจหรอคะ...ว่าคุณไม่ชอบหนู..?” “แน่ใจสิ...” “งั้นคุณก็หยุดเดินสิคะหนูจะได้พิสูจน์” “....” เธอยังแกล้งเขาไม่เลิกจึงเดินเข้าไปใกล้เขามากขึ้น เขาหยุดเดินจริงๆตามคำบอกของเธอจนเธออึ้งไป แต่ก็อยสกเอาชนะเขาจึงเดินเข้าไปใกล้ๆเขามากขึ้นแล้วจ้องตาเขานิ่งๆ สายตาของทั้งคู่ที่มองกันมันทำให้หัวใจของอรพรรณีเริ่มเต้นแรงแปลกๆ เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ทำไมหัวใจของเธอถึงได้เต้นแรงแบบนี้นะ เหมือนตอนที่เขาจูบเธอเมื่อตอนบ่ายเลย “เธอไม่ควรมายืนจ้องหน้าผู้ชายในเวลากลางคืนแบบนี้ แล้วแถมยังใส่ผ้าถุงแค่ผืนเดียวด้วยนะ” เขาพูดขึ้นแล้วสายตาของเขาก็มองต่ำลงมาช่วงเนินอกเธอ เธอคิดตามที่เขาพูดแล้วก้มองดูชุดตัวเองตอนนี้ จึงรีบเอาผ้าเช็ดตัวขึ้นมาปิดช่วงบ่าตัวเองไว้ “หนูอาบน้ำเสร็จแล้ว หนูง่วงแล้วจะไปนอน...” “เชิญ...” เขาเดินหลบให้เธอเดินผ่านเพื่อกลับห้องพัก เขาเดินตามเข้ามาในห้อง เห็นเธอกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ดูหน้าตามีความสุข เขาจึงเดินไปบนที่นอนตัวเอง แต่สายตายังมองไปทางอรพรรณีตลอดเวลา “คุยอะไรกับใครนักหนา ยิ้มหน้าระรื่นขนาดนั้น”  
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม