“อ่านก่อนเถอะค่ะ”
“อื้อ” เขาเกาหัว และความง่วง ทำให้ต้องยกมือขึ้นมาปิดปากหาว คนมันยังไม่ตื่นเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
“หรือว่าคุณยังไม่ตื่นคะ ถ้าอย่างนั้นฉันอ่านให้ฟังก็ได้” แล้วเธอก็ดึงกระดาษแผ่นนั้นกลับ ชินุตาอ่านข้อความเสียงดัง
พอชินุตาอ่านจบ...
“ฮะ! อะไรนะ”
“ก็อย่างที่คุณได้ยิน ฉันก็เข้าใจเหมือนคุณนั่นแหละค่ะ แล้วนั่น....” ชินุตาเบี่ยงตัว และหลีกทางให้เขาออกมาจากห้อง หญิงสาวผายมือไปยังตะกร้าของเด็กตัวน้อย ๆ
“ลูกของคุณ”
ประโยคนั้นทำให้ทีนส่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิม
“ตายห่า! อะไรกันน่ะ ฉันเนี่ยนะไปทำผู้หญิงท้อง แล้วผู้หญิงก็เอาลูกมาทิ้งที่หน้าห้องของฉัน จะเอามาให้ฉันเลี้ยง ไม่ ๆ ไม่... เป็นไปไม่ได้ ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง นอกเสียจาก... มันก็มีบางทีที่พลาดไป” เขาทำท่าครุ่นคิด
“นอกเสียจากอะไรคะ”
“เมามาก แล้วถุงแตก”
คำตอบที่แสนง่ายของผู้ชายทรงแบด แต่คนได้ยินถึงกับหน้าแดงและร้อนออกผ่าว ๆ เขาคงสนุกมากกับการมีอะไร ๆ กับผู้หญิง
“คุณอย่ามาปฏิเสธตอนนี้เลยค่ะ เพราะว่าปัญหามาอยู่ตรงหน้าของคุณแล้ว คุณทีนคะ คุณจะเอายังไงคะ หรือว่าคุณจะแจ้งความ” ชินุตาแนะนำ
“แจ้งความ!” เสียงของเขาดังกว่าเดิมอีก
ทีนเดินมาถึงตรงที่ตะกร้าของเด็กแล้ว เขาชี้นิ้วไปยังเด็กน้อย
เขารีบสั่นหน้า “ไม่ได้ แจ้งความได้ยังไง ผมก็เสียหายแย่เลย โอ๊ยตายแล้ว ตายแน่ ๆ” ความยุ่งยากมาเยือนอย่างไม่ตั้งใจ ทีนไม่เคยคิดถึงเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน พวกมักม่วน มักตกม้าตายแบบนี้แหละ โดยเฉพาะพวกคลำดูไม่มีหางก็ฟาดเกลี้ยง ทีนถึงกับเหงื่อแตกพลั่ก ๆ
“ยังไม่ตายค่ะ” ชินุตาเสียงเปลี่ยน เธอเริ่มไม่ศรัทธาเขาเสียแล้ว มองจ้องหน้าของทีนอย่างระอาแทบปิดสายตาไม่พอใจไม่มิด
ความงัวเงียที่มีหายเป็นปลิดทิ้ง ทีนตื่นแบบเต็มตา ชายหนุ่มเดินวนเวียนรอบ ๆ เด็กและชินุตา ก่อนจะหยุด
ทีนจ้องมองไปที่ดวงหน้าของเด็กน้อยที่กำลังทำตาปริบ ๆ เด็กคนนั้นพอเห็นหน้าของผู้ชายตัวโต หนวดเคราเริ่มขึ้น เด็กก็เบะปาก แล้วก็ร้องไห้เสียงดังจ้าทันที เด็กน้อยคงจะกลัวและตกใจ เพราะไม่คุ้นเคย
“เฮ้ย! ยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ” เสียงทีนดังยกใหญ่ และสุ้มเสียงที่ใหญ่อีก ทำให้เด็กร้องไห้ดังกว่าเดิม
“ชู่... คุณก็อย่าเสียงดังสิคะ” เธอรีบบอก รีบก้มไปหาเด็ก ชินุตาเคยเลี้ยงเด็กมาก่อน เพราะข้างห้องชอบเอามาฝากให้เลี้ยง เห็นว่าเธอต้องการรายได้พิเศษ หญิงสาวก็เลยรับเลี้ยง แต่ไม่ได้เลี้ยงบ่อยนัก แค่นานมาก ครั้งละแค่หนึ่งถึงสองชั่วโมงเท่านั้นเอง แต่เธอก็พอจะเลี้ยงเด็กเป็น
“ตาย ๆ แล้วฉันจะทำยังไงดีล่ะ” ทีนยังโวยวาย
“ยังไม่ตายหรอกค่ะคุณทีน”
จะไม่ตายได้อย่างไร เขาเป็นที่คนชอบใช้ชีวิตโสดแบบจัดหนักจัดเต็ม ต้องกลายมาเป็นคุณพ่อแบบสายฟ้าแลบ เพราะมีคนเอาเด็กมาวางไว้หน้าบ้าน โดยอ้างว่าเป็นลูกของเขาที่ไข่ทิ้งเอาไว้แบบไม่ตั้งใจ แต่กับแม่คนไหนนั้น เขาก็นึกไม่ออกจริง ๆ ครั้นจะเอาไปคืน ก็ไม่รู้ว่าจะไปคืนที่ไหน จะส่งไปอยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็คงจะไม่ได้ มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่โต
“กลุ้ม ๆ” เขาเดินไปผุดลุกผุดนั่ง
จ้องมองชินุตาที่กำลังโอ๋เด็ก เด็กน้อยยังแผดเสียงจ้า
“แต่ยังไงก็ตาม เธอทำให้เด็กเงียบก่อนได้ไหม ทำไมร้องไห้เสียงดังแบบนี้ โธ่!” เขาได้แต่กุมขมับ
ชินุตาค้นหาขวดนม นมในขวดยังอุ่น ๆ เธอยื่นให้กับทีนจับ เขาทำหน้างง
“แม่เด็กยังไปไหนไม่ไกลแน่ค่ะ”
“ทำไม”
“เพราะนมยังอุ่น ๆ อยู่”
“หรือ” เขายื่นกลับ แล้ววิ่งออกไปจากห้องทันที ทีนไปตามหาแม่ของเด็กแน่ ๆ เธอก็หวังว่าจะเขาจะเจอผู้หญิงคนนั้น
หญิงสาวหันมาสนใจเด็กน้อยที่แผดเสียงร้องไห้ ชินุตาอุ้มเด็กขึ้นมา ก่อนจะพาเด็กไปนอนที่โซฟา เธอยัดจุกนมเข้าไปในปากให้ พอนมถึงปากแล้ว เด็กน้อยก็ดูดจั๊บ ๆ ทั้งทำหน้าพริ้ม ก่อนจะหลับตา คงทั้งหิวและก็ง่วงด้วย พอกินนมจนหมดขวด เด็กก็หลับลงไปทันที
ชินุตาถอนหายใจอย่างโล่งอก ถ้าแบบนี้เลี้ยงง่าย มันก็น่าเลี้ยง แต่ก็อดคิดไม่ได้ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนแบบไหนกันถึงได้ทิ้งลูกที่กำลังน่ารักไปแบบนี้
แต่พอนึกย้อนถึงชีวิตของตัวเอง ชีวิตของชินุตาก็ไม่ต่างจากเด็กคนนี้สักเท่าไรหรอก แม่ก็ไม่ได้ต้องการเธอ แต่งงานใหม่ มีผัวใหม่ ก็หลงผัวเสียจนลืมลูก ลูกเลือกเกิดไม่ได้ก็จริง แต่ท้ายสุดสิ่งที่ลูกต้องการคืออ้อมกอดของแม่กับพ่อที่เต็มไปด้วยความรักต่างหาก
ชินุตาส่งมือไปแตะที่พวงแก้มยุ้ย ๆ ของเด็ก มองอย่างสงสารและเวทนา
ผ่านไปครู่ใหญ่ ๆ ทีนก็กลับมา สีหน้าของเขาไม่ดีนัก
“ผมถามทุกคนแล้วนะว่า มีใครเห็นผู้หญิงหิ้วตะกร้ามาหรือเปล่า และทุกคนก็ตอบเหมือนเดิมกันเลยว่าไม่มี”
ชายหนุ่มนั่งอย่างเหนื่อย ๆ และพูดต่อ
“ผมยังสงสัยนะว่าผู้หญิงคนนี้เล็ดลอดสายตาทุกคนได้ยังไง”
“หรือว่าเธอจะอยู่ในตึกนี้คะ” ชินุตาออกความคิดเห็น ทีนทำตาโต
“อะไรนะ แม่ของเด็กนี่อยู่ในคอนโดนี้เหรอ มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะไม่อย่างนั้นจะหายไปแบบไร้ร่องรอยได้อย่างไร”
“ขอดูกล้องวงจรปิดดีไหมคะ”
แทบไม่ทันคิด ทีนสั่นหน้า เขาพูดอ้อมแอ้ม “ผมยังไม่อยากเป็นข่าว
“แล้วคุณจะเอาอย่างไร ในเมื่อฉันเสนออะไรไปคุณก็ไม่เอา มีความเป็นไปได้สูงว่า แม่ของเด็กจะต้องอยู่ในตึกนี้ เพราะไม่อย่างนั้น เธอจะเข้า ๆ ออก ๆ ในตึกนี้ได้อย่างไรแบบไม่มีคนเห็น”
“จริงด้วย”
“คุณทีนคะ ผู้หญิงคนนี้อาจจะคอยติดตามคุณอยู่ก็ได้นะ และเธอก็เห็นความเคลื่อนไหวของคุณมาโดยตลอด และเธอก็รู้ว่าคุณเป็นใคร ทำตัวแบบไหน” เหมือนถูกต่อว่าตรง ๆ
“ไม่ใช่เวลาที่เธอจะมาว่าผมนะ แทนที่จะหาทางออกที่ดี เห็นใจกันไหมเนี่ย”
“ชุบเปล่าว่าคุณค่ะ และก็เห็นใจคุณด้วย แต่ว่าคุณจะเอายังไงกับเด็กคนนี้คะ คุณจะเลี้ยงแกได้หรือคะ หรือว่าคุณจะเอาแกกลับบ้านไปให้คุณพ่อคุณแม่คุณเลี้ยง ท่านต้องรับแน่ ๆ เพราะเป็นลูกของคุณ เลือดเนื้อเชื้อไขของคุณ”