กรี๊ดดดดดดดด
"นังลูกไม่มีแม่ แกกล้าดียังไงมาแส่เรื่องของฉัน"
กรี๊ดดดดดดดด
ฉุนหรานหันหลังเดินจากบ้านจาง พร้อม ๆ กับเสียงกรีดร้องของจางลี่หลิงที่ดังอยู่เนือง ๆ มันช่างไพเราะฟังแล้วเสนาะหูยิ่งนัก
"เริ่มต้นใหม่ได้แล้วนะอาหราน นี่เป็นเงินที่ป้าได้จากนางลี่จิ่นทั้งหมด 20 หยวน อาหรานเก็บไว้นะลูก จากนี้ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข เดี๋ยวป้าจะเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าสาวไปส่งหลานเอง"
ฉุนหรานจำป้าหลี่ได้ดี หญิงสูงวัยคนนี้เคยมีสัมพันธ์อันดีกับมารดาของนางเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่
"ป้าเก็บไว้เถอะจ้ะ แค่ได้สินเดิมของแม่กลับมาฉันก็ดีใจมากแล้ว ขอบคุณป้ามากนะจ๊ะ"
"รีบเดินกันเถอะลูก ตงกู ลูกมาช่วยน้องยกหีบของเร็วเข้า เดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์ยกน้ำชาเอานะ"
นางโหลวเยียนรีบเรียกลูกชายมาช่วยลูกสะใภ้ยกของ ซึ่งโหลวตงกูเองก็รีบทำตามที่มารดาบอกอย่างกระตือรือร้น
"ครับแม่ อาหรานเดี๋ยวพี่ช่วยยกเอง เธอเดินให้สบายเถอะ อีกสักพักกว่าจะถึงบ้านเรา เดี๋ยวจะเหนื่อยซะก่อน"
"ขอบคุณจ้ะพี่ตงกู"
ป้าหลี่กับแม่โหลวที่เห็นหนุ่มสาวยิ้มให้กันแบบนั้นก็พลอยมีความสุขไปด้วย เห็นทีเรื่องที่อยากอุ้มหลานน้อยเพิ่มอีกสักคนคงเป็นเรื่องใกล้เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น
เกือบ 15 นาทีกว่าทุกคนจะเดินกลับมาถึงบ้านโหลวที่อยู่ติดชายเขา พอมาถึงก็พบว่าทุกคนในบ้านต่างก็เตรียมจัดโต๊ะอาหารและเตรียมน้ำชาไว้ให้บ่าวสาวใช้ทำพิธีเพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
"กลับมากันแล้วเหรอ มา ๆ เข้ามาในบ้านก่อน ยินดีต้อนรับนะหลานสะใภ้"
พ่อเฒ่าโหลวรีบเอ่ยทักทายเมื่อเห็นหลานสะใภ้เดินมาถึงบ้านพร้อมกับทุกคน แม่โหลวที่เห็นแบบนั้นจึงถือโอกาสแนะนำให้ฉุนหรานรู้จักกับทุกคนเสียเลย
"อาหรานนี่คุณปู่นะลูก"
"สวัสดีค่ะคุณปู่"
"สวัสดีลูก สวัสดี"
"ส่วนคุณนี้คุณพ่อ คนนี้ตงชินเป็นพี่ชายของตงกู นั่นคือซินอี๋ ภรรยาของตงชิน อาหรานเรียกว่าพี่สะใภ้ก็ได้ ส่วนเจ้าตัวแสบคนโน้นคืออาเอิน เป็นลูกชายของตงชินกับซินอี๋"
ผู้เป็นแม่รีบแนะนำให้สะใภ้เล็กได้รู้จักทุกคนในบ้าน ฉุนหรานรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความยินดีจากใบหน้าของทุกคน ช่างต่างจากคนเป็นพ่อแท้ ๆ ของเธอที่เอาแต่ขับไล่ไสส่ง
"สวัสดีค่ะคุณพ่อ พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ว่าไงจ๊ะหนุ่มน้อย"
"ยินดีต้อนรับเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรานะลูก"
"ขอบคุณค่ะคุณพ่อ"
นานแล้วที่ฉุนหรานไม่สัมผัสถึงกลิ่นอายของความเป็นครอบครัว มันอบอุ่นแบบนี้เองสินะ..
"ยินดีต้อนรับนะน้องสะใภ้/มีอะไรก็ถามพี่ได้นะสะใภ้เล็ก"
"ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่ พี่สะใภ้"
"เอาล่ะ ๆ ได้เวลายกน้ำชาแล้วลูก ไปกันเถอะเดี๋ยวค่อยมากินข้าวพร้อมกัน"
ทุกคนพาฉุนหรานไปทำพิธีที่โถงบ้าน เริ่มจากการไหว้ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษเพื่อบอกกล่าวให้พวกท่านได้รับรู้ ว่าตอนนี้โหลวได้มีสมาชิกเพิ่มเข้ามาอีกหนึ่งคนแล้ว
ตามด้วยการยกน้ำชา ตงกูพาฉุนหรานยกน้ำชาให้พ่อเฒ่าโหลว ตามด้วยพ่อโหลวและแม่โหลว คนสุดท้ายคือป้าหลี่ที่เป็นตัวแทนของมารดาฝ่ายหญิง
"ปู่ขอให้หลานทั้งสองครองคู่ปรองดอง รักกันจนวันสุดท้ายของชีวิตนะลูก"
"พ่อขอให้ลูกทั้งสองให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีอะไรก็ให้ปรึกษาหารือกัน เวลามีปัญหาต้องรีบคุยกันอย่าปล่อยให้ยืดเยื้อจนสายเกินไป"
"ส่วนแม่ขอหลานตัวเล็กให้อุ้มสักหลายคนหน่อยก็พอ อาเอินจะได้มีน้อง ๆ มาเป็นเพื่อนเล่น ส่วนเงิน 200 หยวนนี้ แม่ตั้งใจจะมอบให้เป็นสินสอดของอาหราน เก็บไว้นะลูก"
"ป้าฝากดูแลน้องด้วยนะตงกู ถ้าฉู่หรันเห็นว่าลูกสาวคนเดียวแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาแล้วเธอคงหลับได้อย่างสบายใจ"
คู่แต่งงานใหม่รีบคำนับเพื่อขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน
"ผมรับปากครับป้าหลี่ ต่อไปนี้ผมจะดูแลฉุนหรานให้ดีในฐานะสามีของเธอ"
"ฉันก็ขอบคุณทุกคนมากนะคะ จากนี้ไปฉันจะทำหน้าที่ภรรยาและสะใภ้ให้เต็มที่ และจะไม่นำพาเรื่องร้อนใจเข้ามาในครอบครัวให้ทุกคนต้องเป็นกังวลค่ะ"
หลังจากเสร็จพิธียกน้ำชา ทุกคนในบ้านจึงพากันกินมื้อเช้ากันต่อก่อนจะแยกย้ายกันไปเก็บฟืนและหาอะไรทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ถึงช่วงเย็นจึงจะเป็นงานสังสรรค์เล็ก ๆ เฉพาะคนในบ้านก่อนจะส่งตัวบ่าวสาวเข้าห้องหอ
"อาหรานมานั่งเล่นกับแม่กับสะใภ้ใหญ่ก่อนนะลูก แม่กับสะใภ้ใหญ่จะช่วยกันขัดตัวให้ วันนี้เป็นวันสำคัญต้องพิถีพิถันกันหน่อย เดี๋ยวตอนบ่ายค่อยช่วยกันทำอาหาร กินมื้อค่ำเสร็จถึงจะเป็นเวลาส่งตัวบ่าวสาว"
คำพูดของแม่สามีทำให้ฉุนหรานใบหน้าร้อนผ่าว ถึงกาลเวลาก่อนมาที่นี่เธออยู่จนถึงอายุ 28 ปี แต่เรื่องชายหญิงบอกเลยว่าเธอไร้ประสบการณ์ ถึงสื่อต่าง ๆ จะง่ายต่อการเข้าถึงเรื่องพวกนี้ก็ตาม
"เอ่อ..ค่ะคุณแม่"
"ไปกันน้องสะใภ้ เธอรู้ไหมว่าพี่กับคุณแม่เตรียมผงขัดตัวผสมกับน้ำผึ้งไว้ให้เธอเลยนะ ยังมีผมขมิ้นกับมะขามเปียกอีก คืนนี้ต้องเข้าห้องหอ เนื้อตัวต้องนวลเนียนน่าสัมผัส มาเร็วเข้าเดี๋ยวพี่จะสอนเธอเอง จริตของผู้หญิงแบบเราที่ทำให้ผัวรักผัวหลง ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
โหลวซินอี๋ดึงแขนน้องสะใภ้ไปทางลานอาบน้ำ ที่มีเพียงกระดานที่ทำจากไม้ไผ่สานนำมากั้นเพื่อบดบังสายตาจากคนภายนอก
"เฮ้อ แม่คนนี้ ดูสิสะใภ้เล็กของฉันหน้าแดงหมดแล้ว ดีนะที่อาเอินไปเก็บฟืนกับพวกผู้ชาย ไม่อย่างนั้นคงได้ตอบคำถามกันวุ่นแน่ ๆ"
ร่างผอมบางถูกจับขัดสีฉวีวรรณอย่างละเอียดจนนวลผ่อง เสียงหัวเราะของสาว ๆ ทำเอาพวกผู้ชายที่เพิ่งกลับจากการหาฟืนต้องหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
พอยืนฟังอยู่พักหนึ่งจึงจับใจความได้ว่าหญิงสาวทั้ง 3 คนกำลังถ่ายทอดเรื่องการเอาอกเอาใจสามี นั่นก็ทำให้ทุกคนพลอยมีรอยยิ้มตามไปด้วย
ช่วงบ่ายทุกคนกำลังช่วยกันทำกับข้าว มื้อนี่มีทั้งธัญพืชจำพวกถั่ว มียอดผัก มีปลาที่จับได้ใหม่ ๆ และมีหมูน้ำค้างและขาหมูแฮมที่แม่โหลวนำออกมาทำเป็นการฉลองต้อนรับสะใภ้เล็ก
ในบ้านนี้ไม่จำเป็นว่าการทำอาหารหรืองานในบ้านต้องเป็นหน้าที่ของผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายในบ้านต่างก็แย่งกันแสดงฝีมือทำอาหารเมื่อมีวัตถุดิบที่ตนเองถนัด
ทางด้านพ่อโหลวกับแม่โหลวก็รีบไปจัดแจงห้องหอที่บ้านหลังเล็ก ที่นั่นมี 2 ห้องนอนและมีข้าวของเครื่องใช้ไม่ต่างจากบ้านหลังใหญ่ เพียงแต่เป็นบ้านที่พ่อเฒ่าโหลวเคยอาศัยอยู่กับภรรยาในต่อที่แม่เฒ่ายังมีชีวิตอยู่
พอแม่เฒ่าจากไปแล้วหลานชายคนเล็กอย่างตงกูจึงอาสามาอยู่เป็นเพื่อนคุณปู่ เพื่อไม่ให้ท่านต้องเหงาอยู่เพียงลำพัง
"พ่อช่วยแม่จับผ้าหน่อยเร็วเข้า เดี๋ยวเราต้องรีบกลับไปกินข้าวพร้อมเด็ก ๆ แล้ว"
"รู้แล้ว ๆ "
สองสามีภรรยาช่วยกันปูที่นอนด้วยผ้าห่มสีแดงที่ถูกส่งต่อมารุ่นต่อรุ่น ยุคนี้การหาเสื้อผ้าใหม่ ๆ มาสวมใส่ถือเป็นเรื่องยากก็จริง แต่ของสำคัญที่ลูกชายทั้งสองคนต้องใช้ คนเป็นแม่อย่างโหลวเยียนก็ไม่อาจละเลยได้
มื้อค่ำของวันถูกจัดขึ้นที่บ้านหลังใหญ่ กับข้าวบนโต๊ะมีหลายอย่างจนฉุนหรานเองก็ยังแปลกใจ จากที่เธอเคยได้ยินมาว่า ช่วงยุค 1970 เป็นช่วงที่มีผู้คนล้มตายจากการขาดแคลนอาหาร แต่คงไม่ใช่กับคนในพื้นที่มณฑลยูนนานที่มีความอุดมสมบูรณ์กว่ามณฑลอื่น
"นั่ง ๆ ๆ ปู่มีความสุขจริง ๆ ที่ได้เห็นเจ้าเล็กมีครอบครัวกับเค้าแล้ว นึกว่าจะตายซะก่อนจะได้เห็นหลานแต่งงาน"
พ่อเฒ่าโหลวเริ่มลงมือกับอาหารบนโต๊ะเป็นคนแรก จากนั้นคนอื่น ๆ จึงได้เริ่มลิ้มลองกับรสชาติอาหารพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย
"ปู่พูดอะไรแบบนั้นครับ ปู่แข็งแรงจะตาย ยังมีแรงเลี้ยงลูกให้ผมไปอีกนาน"
"ฮะ ฮะ ฮะ อาเล็กสัญญาแล้วนะว่าจะมีน้องให้ผม ผมจะได้มีเพื่อนเล่นสักที"
เสียงของเด็กน้อยของบ้านหัวเราะร่าอย่างมีความสุข ในที่สุดก็ถึงเวลาที่เขาจะได้มีน้องแล้ว เขาเคยขอให้แม่มีน้องให้หลายครั้งแต่ก็ไม่เป็นผล เห็นทีครั้งนี้ต้องฝากความหวังไว้ที่อาเล็กกับอาสะใภ้เสียแล้ว
"หึ ได้เลยเจ้าตัวดี อาจะไม่ทำให้เราผิดหวัง"
มุมปากของตงกูเผยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเลศนัยบางอย่าง ก่อนจะหันไปคีบอาหารให้กับภรรยาที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เวลาที่ฉุนหรานหน้าแดงมันทำให้เขาอยากรังแกเธออย่างบอกไม่ถูก
"ขอบคุณค่ะ"
"กินเยอะ ๆ คืนนี่เราต้องใช้แรงอีกเยอะ"
คำพูดแผ่วเบากระซิบลงที่ข้างหูของเธอ มันทำให้หัวใจดวงน้อยเต้นโครมครามจนแทบจะกระเด็นออกมานอกอก คนบ้าอะไร เห็นหน้าซื่อ ๆ แต่เจ้าเล่ห์ชะมัด
"เอ้ายกลูกยก เหล้าไหนี้พ่อกับแม่หมักเองตั้งแต่ลูก ๆ เกิดเชียวนะ วันนี้เอาออกมาเพื่อฉลองให้กับวันดี ๆ ของทั้งคู่"
"ขอบคุณครับพ่อ"
"มีความสุขมาก ๆ นะเจ้าเล็ก"
"ขอบคุณครับพี่ใหญ่"
ทุกคนในบ้านดื่มเหล้าหมักจากกาใหญ่ด้วยกัน เว้นแต่คู่ข้าวใหม่ปลามันที่ต้องดื่มจากกาเล็กที่ถูกเตรียมไว้โดยเฉพาะ ดูเหมือนทั้งบ้านจะรู้ว่าเหล้ากานั้นมีส่วนผสมบางอย่างที่ช่วยให้คู่แต่งงานใหม่จูงมือกันขึ้นสวรรค์ได้ง่าย ๆ
ทว่ากว่าพวกเขาจะรู้ก็สายไปเสียแล้ว วันนี้พ่อเฒ่าโหลวจึงย้ายมานอนที่บ้านใหญ่เพื่อเปิดทางให้หลานชายคนเล็กกับหลานสะใภ้ใช้บ้านหลังน้อยเป็นเรือนหอได้อย่างเต็มที่