คำทำนาย
"คิดถึงแม่กับยายจัง ป่านนี้ทั้งสองคนคงมีความสุขดีใช่ไหมคะ?"
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่แม่กับยายของเธอจากไป แต่ทุกปีฉุนหรานจะกลับมาที่หมู่บ้านเสี่ยวหยู เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน เพื่อมากไหว้สุสานของทั้งสอง พวกท่านจากไปตั้งแต่ฉุนหรานอายุได้เพียง 20 ปีเท่านั้น
จนตอนนี้เธออายุ 28 ปี มีร้านหม้อไฟเป็นของตัวเอง ทั้งยังเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อและเป็นที่นิยมของคนในเมืองใหญ่ ถึงชีวิตของเธอประสบความสำเร็จ แต่กลับโหยหาชีวิตที่เรียบง่ายเหมือนครั้งในวันวาน ไม่ต้องแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตายเหมือนทุกวันนี้
"หนูอายุครบ 28 ปีแล้วนะคะแม่ แม่กับยายคิดว่าคำทำนายจะเป็นจริงไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ วันนี้ก็มาถึงแล้ว"
ฉุนหรานเปิดประตูห้องนอนบานเก่าก็พบกับหีบสิ่งของของแม่กับยาย ของทุกชิ้นเธอเก็บไว้ในสภาพเดิมไม่มีการเคลื่อนย้ายใด ๆ ฉุนหรานเดินไปหยุดที่หัวเตียงแล้วหยิบกล่องไม้เล็ก ๆ ขึ้นมาเปิดดู
ในนั้นมีกำไลหยกที่ได้รับมาจากภิกษุณีผู้ที่เป็นคนทำนายดวงชะตาให้กับเธอ คำทำนายนั้นมีอยู่ว่า ช่วงเวลาที่เธอต้องโดดเดี่ยวจะสิ้นสุดลงเมื่อเธออายุครบ 28 ปีเต็ม เธอจะพบคู่ชีวิต มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมือง ชีวิตแม้ไม่ราบรื่นในช่วงแรก แต่บั้นปลายจะเต็มไปด้วยความสุขจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต แต่....ต้องแลกมาด้วยช่วงเวลาที่เปลี่ยนผัน เมื่อถึงวันนั้นเจ้าจะรู้ทุกอย่าง กำไลหยกวงนี้จะเป็นมิติสู่การเดินทาง
"นี่มัน!"
ทันทีที่เปิดกล่องไม้ขึ้น กำไลหยกก็ส่องแสงเรืองรองระยิบระยับ ท่ามกลางความตกตะลึงของฉุนหราน เสียงของใครบางคนก็ดังขึ้นก้องสะท้อนไปทั่วห้อง ฉุนหรานหันมองไปรอบด้านก็พบเพียงความว่างเปล่า
"มาแล้วแล้วหรือ จางฉุนหราน เราให้เจ้าเตรียมตัวมานาน หวังว่าวันนี้เจ้าคงจะพร้อมกับการเดินทางแล้วนะ"
เสียงของหญิงชราทำให้ฉุนหรานขนลุก จริงอยู่ที่เธอเตรียมใจกับเรื่องนี้มานานแล้ว แต่ใครจะไปเชื่อว่าเรื่องเหนือธรรมชาติจะมีอยู่จริงบนโลกใบนี้ เดิมที่เธอเพียงคิดว่าเป็นเรื่องที่แม่กับยายของเธองมงายคิดกันไปเอง แต่ครั้งนี้....
"คุณยายเป็นใครคะ เป็นเรื่องจริงเหรอที่หนูต้องย้อนเวลากลับไปในอดีต?"
"นังหนู หากเจ้าไม่เชื่อวันนี้เจ้าก็คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้ จริงหรือไม่? และการย้อนเวลากลับไปเติมเต็มสิ่งที่เจ้าโหยหา เจ้าลืมความสุขเมื่อครั้งยังเยาว์วัยไปหมดสิ้นแล้วหรือ?"
แน่นอนว่าการใช้ชีวิตในวัยเด็กที่หมู่บ้านแห่งนี้ กับแม่และยายของเธอ เป็นช่วงที่เธอมีความสุขที่สุด ชีวิตธรรมดาเข้าป่าเก็บเห็ดหาสมุนไพร ใครเลยจะรู้ว่ามันสุขใจขนาดไหน
กระทั่งวันที่แม่กับยายเสียชีวิตจากโรคร้าย จึงทำให้เธอต้องย้ายไปเรียนที่โรงเรียนประจำจนมีชีวิตมาได้จนถึงตอนนี้
"หนูจำได้ค่ะ ไม่มีวันลืมว่ามันดีขนาดไหน"
แววตาของฉุนหรานฉายชัดว่าเศร้าใจแค่ไหนเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ยายและแม่จากไป
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงพร้อมเดินทางแล้วใช่ไหมแม่หนู?"
"ถะ..ถ้าไปที่นั่นแล้วหนูต้องทำยังไงต่อคะ หนูต้องเริ่มจากตรงไหน อะไรคือหน้าที่ของหนู"
ฉุนหรานยอมรับชะตากรรมของตนเอง แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังจับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเธอต้องทำยังไงต่อ
"เจ้าแค่ใช้ชีวิตในแบบที่เจ้าต้องการ ในร่างของจางฉุนหราน พาผู้หญิงคนนั้นออกจากขุมนรกก่อนที่จางฉุนหรานจะถูกกดขี่จนสิ้นใจ ด้วยฝีมือของแม่เลี้ยงและน้องสาวต่างมารดา"
"จางฉุนหราน! ทำไมชื่อเหมือนหนูเลยล่ะคะ"
เจ้าของชื่อเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ หรือว่าคนคนนั้นจะเป็นเธอในอีต หากเป็นแบบนั้นเธอก็ไม่ลังเลที่จะช่วยตัวเองให้พ้นทุกข์
"เมื่อเจ้าไปถึงเจ้าจะได้รู้เหตุผลนี้ หากเจ้าพร้อมจะเดินทางให้สวมกำไลมิติที่เจ้าถืออยู่ ร้านและทรัพย์สินของเจ้าจะอยู่ในห้วงมิติ โดยมีกำไลแขนวงนั้นเป็นประตูเปิด จะมีเพียงเจ้าและคนที่เจ้าต้องการให้มองเห็นเท่านั้นที่เห็นมัน"
"หนูพร้อมแล้วค่ะ"
ใจของเธอในตอนนี้เพียงแค่อยากพิสูจน์ว่าเรื่องราวที่ได้ยินมาตั้งแต่เด็ก จะเป็นความจริงหรือไม่ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือธรรมชาติ และยากเกินกว่าจะเชื่อได้นอกจากจะพิสูจน์ให้กระจ่างด้วยตัวเอง
"สวมกำไลแล้วหลับตา"
มือเรียวหยิบกำไลในกล่องไม้ออกมาสวมใส่ เปลือกตาของเธอปิดลงช้า ๆ พร้อมกับความรู้สึกที่ถูกแรงลงพัดพาให้ล่องลอยไปที่ไหนสักแห่ง หูของเธอได้ยินเสียงของหญิงชราดังก้องถึงคำเตือนบางอย่าง
"จำเอาไว้ว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว เจ้าต้องหลิ่วตาตาม อย่าได้ทำอะไรที่ผิดแปลกจากคนอื่น สิ่งของที่มีในมิติอย่าให้ผู้ใดล่วงรู้เพราะมันจะนำภัยมาถึงตัวเจ้า นอกเสียจากคนผู้นั้นจะเป็นคนที่เจ้ามั่นใจแล้วว่าเขาจะไม่หักหลังเจ้า"
"..."
"หากเจ้าต้องการให้คนผู้นั้นที่เจ้าเลือก สามารถมองเห็นกำไรมิติและใช้งานได้เช่นเจ้า ให้หยดเลือดของเขาเพื่อผูกพันธะเป็นนายบ่าว เพียงเท่าเขาก็จะสามารถใช้มิติร่วมกับเจ้าได้ สิ่งของหยิบออกมาใช้เท่าไหร่ก็จะไม่มีวันหมด หากนำสิ่งของเข้าไปเก็บในมิติมันจะช่วยคงสภาพความสดใหม่ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ตาม"
สติของเธอค่อย ๆ วูบดับไป นานเท่าไหร่ไม่อาจรู้ได้ที่เธอกลายเป็นเพียงวิญญาณที่ล่องลอยไปในอากาศ
ขณะเดียวกันเรื่องราวที่เกี่ยวกับเธอในกาลเวลาปัจจุบันก็ได้จางหายไป ไม่มีใครรู้จักจางฉุนหราน เจ้าของร้านหม้อไฟอีก สิ่งของทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเธอได้เลือนหายไปราวกับว่าเธอไม่เคยมีชีวิตบนโลกใบนี้มาก่อน
ณ หมู่บ้านเสี่ยวหยู เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ปี ค.ศ. 1974
ปัง! ปัง! ปัง!
"เปิดประตู หล่อนจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนนังฉุนหราน นังตัวขี้เกียจสันหลังยาว ฉันบอกให้เปิดประตูเดี๋ยวนี้"
เสียงของนางจางลี่จิ่น ซึ่งเป็นแม่เลี้ยงของจางฉุนหรานดังขึ้นที่หน้าห้องฟืนบ้านสกุลจาง นางเข้ามาอยู่ในบ้านนี้ได้ 10 ปีแล้วแต่ยังหาความสุขไม่ได้ นั่นเป็นเพราะลูกของสามีที่เป็นเหมือนหนามยอกอก
นานวันเข้าความสวยของเด็กสาวที่ได้มาจากมารดาที่แท้จริงก็มากยิ่งขึ้น ไม่ว่านางกับลูกสาวจะหาวิธีให้จางฉุนหรานทำงานตากแตก หรือหาวิธีกลั่นแกล้งสารพัดวิธีความงามของจางลี่หลิงลูกสาวของนางก็ไม่อาจเทียบได้ทั้งที่เป็นพ่อเดียวกันแท้ ๆ
นางเฝ้าอุตส่าห์รออยู่เงียบ ๆ เพราะจางฉู่หรันที่เป็นมารดาของจางฉุนหรานยังมีชีวิตอยู่ ด้วยว่ายุคนี้ใครก็รู้ว่าการคบชู้ถือเป็นเรื่องผิดมหันต์ หากมีคนอื่นรู้นางกับสามีต้องถูกจับแก้ผ้าแห่ประจานรอบหมู่บ้าน
สุดท้ายนางจึงต้องรอให้ภรรยาคนแรกของสามีตายไปก่อน จึงถือโอกาสเข้ามาเป็นภรรยาคนใหม่และครอบครองสินเดิมของนางฉู่หรันที่มีมูลค่ามากกว่า 2,000 หยวน
ปัง! ปัง! ปัง!
"หน็อยแหนะนังนี่ วันนี้แกกับฉันเราต้องได้เห็นดีกันแน่ ๆ"
ใบหน้าของนางลี่จิ่นบูดเบี้ยวไม่สบอารมณ์ นี่ก็สายแล้วแต่จางฉุนหรานลูกเลี้ยงของนางยังไม่ยอมตื่นมาหุงหาอาหารเสียที แต่ในขณะเดียวกันลูกสาวของนางที่เพิ่งเข้าบ้านก็รีบวิ่งมาหานางด้วยท่าทางร้อนรน
"แม่! แม่ต้องช่วยฉันนะ"
"เกิดอะไรขึ้นลี่หลิง ทำไมต้องร้อนรนขนาดนี้ แล้วนี่ลูกเพิ่งเข้าบ้านใช่ไหม? เดี๋ยวพ่อรู้ก็เป็นเรื่องเอาหรอก"
"เรื่องนั้นช่างหัวมันก่อนเถอะแม่ ครั้งนี้แม่ต้องจัดการเรื่องนังฉุนหรานให้ฉันนะ"
"ทำไมลูก มันทำอะไรให้ลูกไม่พอใจ"
พอได้ยินชื่อของลูกเลี้ยงสายตาของนางลี่จิ่นก็เต็มไปด้วยความริษยาอาฆาต หากมีโอกาสนางย่อมต้องระบายโทสะให้สาสมเป็นแน่
"ฉันได้ยินชาวบ้านพูดกันว่าพี่ฉินฟางกำลังจะให้พ่อแม่ส่งแม่สื่อมาสู่ขอนังฉุนหราน ฉันไม่ยอมนะแม่ แม่ก็รู้หนิว่าฉันอยากชนะนังนั่นให้ได้สักครั้งหนึ่ง แล้วพี่ฉินฟางก็เป็นผู้ชายที่ฉันหมายตาเอาไว้"
ได้ยินแบบนั้นนางลี่จิ่นก็หูผึ่งพร้อมกับอารมณ์ที่เดือดดาล นางไม่มีวันยอมให้ลูกสาวของตนเองต้องตกเป็นรองแม่ลูกคู่นั้นเหมือนที่นางเคยเป็นมาก่อน ไม่มีวัน!
"ใจเย็น ๆ ก่อนอาหลิง ไปหยิบโซ่กับกุญแจมาล็อกห้องเก็บฝืนนี้ไว้ จำเอาไว้ว่าห้ามเปิดประตูให้นังฉุนหรานออกมาจากห้องจนกว่าแม่จะจัดการเรื่องนี้สำเร็จ ส่วนเช้านี้ลูกต้องรับหน้าที่ทำอาหารไปก่อน ถ้าพ่อถามหามันก็บอกว่ามันป่วยแม่เลยให้พัก เข้าใจใช่ไหม?"
"โอ๊ย อะไรกันแม่ ฉันไม่อยากทำ"
"นี่! หยุด ถ้าแกไม่ทำแกก็เตรียมตัวเสียฉินฟางไปได้เลย จะเอายังไง จะทำตามที่แม่บอกไหม?"
จางลี่หลิงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องรับปากมารดาแล้วรีบเดินไปหยิบโซ่มาคล้องประตูห้องเก็บฟืนเอาไว้ บ้านฉินเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้าน ฐานะก็ดีเป็นที่นับหน้าถือตาของชาวบ้าน แบบนี้เธอจะยอมให้พี่สาวต่างมารดาได้คนแบบนี้ไปครอบครองได้ยังไงกัน
"ก็ได้! แต่แม่สัญญาไว้แล้วนะว่าจะจัดการเรื่องนี้ให้ฉัน แม่ต้องทำให้สำเร็จนะ"
"รู้แล้ว แม่ไม่ยอมให้ใครได้ดีไปกว่าแกหรอกน่า"
คุยกันจบสองแม่ลูกก็รีบแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง โดยไม่รู้เลยว่าฉุนหรานแอบฟังทุกอย่างและเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในห้องเก็บฟืนเงียบ ๆ