ตอนที่ 6 ปรึกษา

2012 คำ
“ยายสายคะ คุณแม่ล่ะคะ” เมื่อมิรินมาถึงบ้านก็เอ่ยถามยายสายแม่นมของมาวินพ่อของเธอแต่ตอนนี้ยายสายนั้นได้มาเป็นแม่นมของเธอต่อแล้ว “คุณเพลงขวัญอยู่ในห้องทำงานกับคุณมาวินค่ะคุณหนู” “ขอบคุณค่ะ” มิรินพูดขอบคุณยายสายอย่างนอบน้อมเพราะถึงจะเป็นแม่บ้านมาวินและเพลงขวัญก็สอนให้ลูกๆ ไม่แบ่งชนชั้นวรรณะให้นอบน้อมกับผู้ใหญ่เสมอ จากนั้นมิรินก็วิ่งขึ้นไปหาพ่อกับแม่ของตัวเองทันที “คุณพ่อคุณแม่ขาหนูกลับมาแล้ว อุ๊ย! ขอโทษค่ะ นี่หนูมาขัดจังหวะสวีทหวานคุณพ่อคุณแม่มั้ยเนี่ย” มิรินพูดแซวพ่อกับแม่ตัวเองทันทีเพราะเธอเปิดประตูเข้ามาก็เห็นมาวินกำลังกอดเพลงขวัญที่นั่งอยู่บนตักอย่างออดอ้อนจนเพลงขวัญต้องรีบลุกขึ้นยืนด้วยความเขินเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามา “ขัดมากเลยมิริน พ่อกำลังอ้อนแม่เราอยู่เลย” มาวินพูดกับลูกสาวด้วยรอยยิ้ม “พี่วิน พูดอะไรออกมาคะ อายลูกบ้างสิ” เพลงขวัญแว๊ดเสียงใส่มาวินด้วยความเขินเมื่อได้ยินคำพูดของมาวินที่พูดกับมิริน จนมิรินได้แต่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นท่าทางเขินของแม่ตัวเอง “แหม ไม่ต้องอายหรอกค่ะคุณแม่ หนูชินแล้ว คุณพ่อนี่เสมอต้นเสมอปลายกับคุณแม่ดีจังนะคะ ทำยังไงหนูถึงจะหาแฟนแบบคุณพ่อได้” มิรินพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มแล้วเดินไปยืนกอดแขนแม่ตัวเองอย่างออดอ้อน “อย่าคิดหาคนนิสัยแบบพ่อเรามาเป็นแฟนเลยลูก พ่อเราก็อ่อนโยนเฉพาะกับเราสองคนนี่ล่ะ คนอื่นก็ทั้งร้ายทั้งดุใส่เค้า” เพลงขวัญแกล้งพูดใส่มาวินจนมาวินได้แต่เงยหน้ามองเมียตัวเอง “บอกลูกว่าไม่ให้มีแฟนแบบพ่อ แต่หนูก็ชอบคนแบบพี่นิ แถมยังชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอด้วย โอ๊ย! ตีพี่ทำไมครับ” มาวินร้องเจ็บทันทีเมื่อโดนเพลงขวัญตีเข้าที่แขนเขา “ใครบอกว่าหนูชอบพี่ตั้งแต่เจอครั้งแรก พี่นั่นล่ะที่ชอบหนูก่อน หยุดพูดเรื่องความหลังให้ลูกฟังเลยนะ ว่าแต่มิรินเข้ามาหาพ่อกับแม่มีอะไรรึเปล่าลูก” เพลงขวัญหันไปเอ่ยถามลูกสาวทันทีเพราะปกติมิรินจะไม่มาวุ่นวายในห้องทำงานของพ่อตัวเอง “หนูแค่จะมาถามว่าวันนี้พวกพี่ทั้งสามจะกลับมาบ้านมั้ยคะ” มิรินเข้าเรื่องทันทีเพราะถ้าอคินกลับบ้านมักจะโทรหาแม่ก่อนเสมอ “วันนี้คงไม่มาจ้า ลูกมีอะไรหรอ” เพลงขวัญตอบมิรินพร้อมกับถามเธอกลับอีกครั้ง “ไม่มีอะไรหรอกค่ะ หนูแค่อยากจะถามเรื่องเรียนกับพี่ๆ งั้นหนูไม่รบกวนคุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ สวีทหวานกันต่อได้เลยค่า อิอิ” พูดจบมิรินก็วิ่งออกจากห้องทำงานของมาวินไปทันที “ดูท่าลูกสาวเรายิ่งโตนิสัยจะยิ่งเหมือนเมย์มากขึ้นนะ” มาวินพูดขึ้นทันทีเมื่อเห็นมิรินวิ่งออกจากห้องทำงานของตัวเอง “ลูกก็ซนตามวัยค่ะพี่ อีกอย่างเหมือนยัยเมย์ก็ดีออก จะได้ทันคนไม่โดนใครรังแก” เพลงขวัญพูดกับสามีด้วยรอยยิ้ม “แต่พี่กลัวจะไปสร้างเรื่องมากกว่านี่สิ อย่าลืมสิว่ายัยเมย์แสบแค่ไหน” “ที่บ่นๆ อยู่เนี่ยคือกลัวลูกสาวเราไปจีบหนุ่มๆ ก่อนรึเปล่าคะ” เพลงขวัญพูดแซวมาวินอย่างรู้ทัน “เฮ้ออ ลูกโตเป็นสาวแล้วคนเป็นพ่อก็กลัวเป็นธรรมดาล่ะครับ” มาวินพูดขึ้นอย่างตัดพ้อ “อย่าคิดมากเลยค่ะพี่วิน หนูเชื่อว่ามิรินต้องเจอผู้ชายที่รักเธอจริงแน่นอน เผลอๆ อาจจะนิสัยเหมือนพี่ก็ได้นะคะ” เพลงขวัญพูดขึ้นด้วยยรอยยิ้มส่วนมาวินก็ได้แต่พยักหน้าตอบเมียตัวเองจากนั้นก็เลิกสนใจเรื่องของมิรินแล้วดึงเพลงขวัญมานั่งตักอ้อนเมียเหมือนเดิม ทางด้านมิรินก็เดินมานั่งเล่นที่สวนหลังบ้านของตัวเองแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเข้าแชทกลุ่มพี่น้องของตัวเองทันที Mirin : พี่ๆ ช่วยน้องด้วย มาบ้านด่วนเลยนะ Akin : เป็นอะไร Dimon : เกิดอะไรขึ้นน้องริน Ramin : พวกพี่จะพิมพ์ถามน้องทำไมเนี่ย รีบไปหาน้องกันสิครับผม Akin : เออ Dimon : เออ มิรินได้แต่นั่งหัวเราะเมื่อเห็นเหล่าพี่ชายกำลังเถียงกันอยู่ในแชท โดยที่เธอไม่ยอมตอบอะไรใคร “ใครจะมาถึงก่อนน๊า” มิรินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าลุ้นเพราะอยากรู้ว่าพี่ชายคนไหนจะมาถึงบ้านก่อน เธอจึงนั่งเล่นโทรศัพท์รอพี่ชายทั้งสามของตัวเอง ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีก็เห็นไดม่อน อคิน และรามินกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาหามิรินที่ส่วนหลังบ้านอย่างร้อนรนเพราะเป็นห่วงมิริน จนมิรินได้แต่ยิ้มกว้างขึ้นเมื่อเหล่าพี่ชายตัวเองมาถึงแล้ว “น้องรินเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรน้องพี่” รามินเอ่ยถามมิรินแล้วนั่งลงข้างๆ เธอทันทีเมื่อเดินมาถึงมิรินแล้ว ส่วนไดม่อนและอคินก็นั่งลงเก้าอี้ที่ว่างพร้อมกับมองหน้ามิรินอย่างตั้งคำถาม “ไม่มีใครทำอะไรหนูทั้งนั้นล่ะค่ะ” มิรินตอบรามินด้วยรอยยิ้มทำเอาเหล่าพี่ชายถึงกับคิ้วขมวดกันทุกคน “ไม่มีใครทำอะไร แล้วจะเรียกพวกพี่มาทำไมมิริน” อคินเอ่ยถามมิรินพร้อมกับมองน้องสาวอย่างตั้งคำถาม “เอ้า! มีเรื่องให้ช่วยมันจำเป็นต้องมีคนมาทำอะไรน้องด้วยหรอคะพี่คิน” “ไม่มีใครทำอะไรแล้วเรียกให้พวกพี่มาช่วยเรื่องอะไรครับน้องริน” ไดม่อนเอ่ยถามมิรินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คือหนูมีคนที่อยากตามหาค่ะ” มิรินพูดขึ้นพร้อมกับทำหน้าจริงจัง จนเหล่าพี่ชายทำหน้าจริงจังตามเพราะคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ “น้องรินจะตามหาใครหรอ บอกพี่มาเลยงานนี้พี่ถนัด แค่รู้ชื่อกับมีรูปหนึ่งวันเจอแน่นอน” รามินพูดขึ้นทันทีเมื่อรู้ว่ามิรินจะให้ช่วยอะไร “ประเด็นคือหนูไม่รู้จักชื่อแล้วก็ไม่มีรูปเค้าด้วยค่ะ แฮร่” มิรินพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มแห้งๆ ใส่รามิน “สูตรไอ้ตัวแสบอีกแล้ว เดี๋ยวนะ น้องรินคงไม่ได้ไปนอนกับใครมาใช่มั้ย” คำถามของไดม่อนทำเอารามินและอคินหันไปมองมิรินทันทีเรียกได้ว่าสายตาพี่ๆ ทั้งสามของเธอตอนนี้เริ่มแผ่รังสีอัมมหิตออกมาแล้ว “นอนเนินอะไรเล่า นี่พวกพี่คิดไปไกลแบบนี้ได้ยังไงเนี่ย ที่ให้ตามหาเพราะหนูแค่อยากรู้จักชื่อเค้าแค่นั้นเอง” มิรินรีบพูดแก้ตัวเมื่อเห็นพี่ชายเริ่มคิดไปไกลแล้ว ทำเอาไดม่อน อคินและรามินต่างก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “คนที่จะให้ตามหาผู้หญิงหรือผู้ชาย” อคินเอ่ยถามมิรินเสียงเรียบ “ผู้ชายค่ะ” “มันเป็นใคร!” มิรินถึงกับตกใจเมื่อไดม่อน อคินและรามินถามออกมาพร้อมกันเสียงแข็ง “จะพูดพร้อมกันทำไมเนี่ยหนูตกใจหมด มาถามว่าเป็นใคร ถ้าหนูรู้จะมาให้พวกพี่ช่วยตามหาหรอ” มิรินบ่นให้พี่ชายทั้งสามทันทีเมื่อเห็นอาการหวงน้องสาวของเหล่าพี่ชายออกมาชัดเจน “ทำไมต้องตามหา” อคินยังถามมิรินขึ้นอีกครั้ง “นี่หนูให้พวกพี่มาช่วยไม่ได้ให้มาสอบสวนหนูนะคะ สรุปจะช่วยมั้ย ถ้าไม่ช่วยก็กลับไปเลย” มิรินพูดขึ้นพร้อมกับกอดอกทำหน้าบึ้งใส่พี่ๆ ทั้งสามทำเอารามินถึงกับรีบเปลี่ยนอารมณ์ทันทีเพราะกลัวน้องงอน “ช่วยครับช่วย อย่าทำหน้าบึ้งสิเดี๋ยวไม่สวยนะ” รามินรีบพูดง้อมิรินจนมิรินได้แต่อมยิ้มเมื่อเป็นไปตามแผนเธอ เพราะเธอแกล้งโกรธเพื่อให้เหล่าพี่ชายเลิกถาม “ดีค่ะ ถ้าช่วยหนูจะได้เข้าเรื่องเลย คือหนูเห็นพี่เค้าใส่ช็อปสีแดงสัญลักษณ์ของมหาลัยเหมือนของพี่ม่อนกับพี่มินเลย หนูเลยคิดว่าพี่เค้าต้องเรียนคณะวิศวะมหาลัยเดียวกันกับพวกพี่แน่ๆ” “แล้วยังไงต่อ” อคินเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความสงสัย “พี่ม่อนกับพี่มินพอจะรู้จักผู้ชายหล่อๆ ส่วนสูงน่าจะประมาณพี่ม่อน ตาดุๆ นิ่งๆ ไม่ค่อยพูด เจาะหูข้างเดียวใส่ต่างหูไม้กางเขนค่ะ พวกพี่คุ้นหน้าบ้างมั้ยคะ” มิรินบอกลักษณะบุคลิกของเจไดให้เหล่าพี่ชายฟังอย่างละเอียดทำเอาอคินถึงกับจ้องหน้ามิรินนิ่งเพราะอยากรู้ว่าผู้ชายคนนี้สำคัญกับมิรินยังไงแต่ก็ไม่อยากถามเซ้าซี้ “หน้าดุๆ พี่นึกออกอยู่คนหนึ่งนะน้องริน” “ใครหรอคะพี่มิน” มิรินตาลุกวาวทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของรามิน “ก็พี่คินไง ทั้งดุทั้งร้าย แถมยังนิ่งสุดๆ อีก” “โอ๊ย! พี่มินอะ มันใช่เวลาพูดเล่นมั้ยเนี่ย หนูจะตามหาพี่คินไปทำไมกัน ว่าไงคะพี่ม่อนพอคุ้นๆ มั้ยคะ” มิรินแว๊ดเสียงใส่รามินแล้วหันไปถามไดม่อนทันทีเมื่อเห็นพี่ใหญ่นิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดอยู่ “นึกไม่ออกเลยครับน้องริน ปกติพี่ก็แทบจะไม่ได้สนใจใครอยู่แล้ว” ไดม่อนตอบมิรินด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เฮ้ออ! ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวรอหนูเข้ามหาลัยค่อยไปตามหาเองก็ได้ ขอบคุณนะคะพี่ๆ ที่มาช่วย เชิญกลับไปหาเมียๆ ได้แล้วค่า หนูหมดเรื่องให้ช่วยล่ะ” พูดจบมิรินก็เดินเข้าบ้านไปทันทีทำเอาเหล่าพี่ชายถึงกับนั่งอึ้งมองมิรินเดินเข้าบ้านไป “นี่เราต่างคนต่างเหยียบรถมาอย่างเร็วเพื่อมาฟังเรื่องแค่นี้เนี่ยนะ แสบจริงๆ เลยน้องรินนิ” รามินพูดขึ้นทันทีเมื่อมิรินเดินเข้าไปแล้ว เพราะพวกเขาทั้งสามต่างขับรถมาหามิรินอย่างเร่งรีบ “มึงมีคำตอบให้มิรินแต่มึงไม่ตอบใช่มั้ยไอ้ม่อน” อคินเอ่ยถามไดม่อนอย่างรู้ทันเพราะเขาเห็นไดม่อนนิ่งเงียบเหมือนกำลังนึกอะไรออกอยู่ จนรามินต้องหันไปมองไดม่อนอย่างตั้งคำถาม “อืม บุคลิกและท่าทางแบบนี้มันมีคนหนึ่งที่กูรู้จัก” ไดม่อนตอบอคินไปตามตรงเพราะเขานึกออกแต่ไม่อยากตอบมิรินเพราะไม่อยากให้วุ่นวาย “เจไดใช่มั้ย” อคินถามไดม่อนอีกครั้งเพราะเขาก็รู้จักเจไดพอสมควร “มันจะบังเอิญไปมั้ยพี่ แล้วทำไมน้องรินต้องตามหาพี่เจไดด้วยล่ะ” รามินพูดขึ้นอย่างตั้งคำถาม “ไม่รู้เหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ต้องสำคัญกับน้องรินแน่ๆ เพราะน้องรินไม่เคยมาถามเราเรื่องผู้ชายเลยสักครั้ง” ไดม่อนตอบรามินพร้อมกับทำหน้าครุ่นคิดได้แต่ตั้งคำถามว่าผู้ชายคนที่มิรินตามหาสำคัญกับเธอยังไง “พรุ่งนี้พวกมึงไปสังเกตไอ้พวกที่เรียนคณะพวกมึงทุกคนเลยนะ ว่านอกจากเจไดมีใครมีบุคลิกท่าทางแบบนี้มั้ย” ไดม่อนและรามินพยักหน้าตอบอคินทันที สามหนุ่มนั่งคุยกันเรื่องมิรินสักพักก็แยกย้ายกลับคอนโดไปหาเมียตัวเอง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม