01
1742 คำ
ณ วัดพระธาตุดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่
'สาธุ ขอให้ลูกเจอเนื้อคู่ในสามวันเจ็ดวันด้วยเถอะนะคะ ลูกเอาพวงมาลัยไซซ์จริงมาไว้ขอบคุณล่วงหน้าแล้วค่ะ'
มนัสวีร์วางถาดพวงมาลัยดอกมะลิ 999 ดอกหลังจากอธิษฐานต่อหน้าองค์หลวงพ่อทันใจ เธอจุดธูปบูชาเสร็จสรรพ เพื่อให้หลวงพ่อท่านแน่ใจว่าเธอไม่เบี้ยวหนี้เรื่องแก้บนแน่นอนจึงนำพวงมาลัยที่นำมาถวายล่วงหน้าเลย
มนัสวีร์ไม่มุบมิบเอาพวงมาลัยสั้นแค่คืบมานับให้ดูจำนวนเยอะนะ เธอซื้อไซซ์จริง นับเองนักเลงพอ บอกเลยว่าในฐานะนักบัญชีที่เรียนควบคู่การบริหาร การวางแผนขอสามีของเธอจึงจำเป็นต้องถูกกำหนดขึ้นอย่างเป็นระบบ
หญิงสาวเดินออกมาจากวัดพร้อมกับเหงื่อท่วมแผ่นหลัง ท้องฟ้าวันนี้แสนสดสวยแสงแดดแรงจ้าแบบที่ปกติไม่กล้ามาตากตอนกลางวันแสกๆ แน่นอน ที่ผ่านมาไม่เคยลำบากลำบนมาขอพรอะไรเช่นนี้ ชีวิตเคยอยากได้อะไรก็หาได้หมด เห็นจะมีแต่ผัวนี่แหละ ที่หาเองไม่ได้เลยต้องทำข้อตกลงพิเศษกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเธอด้วย
หญิงสาวเดินกลับมาขึ้นรถเช่าที่รับมาจากสนามบินตอนเช้า เธอจะนำไปส่งคืนที่สนามบินในตอนเย็นจากนั้นก็จะบินกลับไปกรุงเทพฯ เพราะภารกิจมาขอเนื้อคู่สำเร็จแล้ว...
ถามว่าเธอนั่งเครื่องมาขอพรตอนเช้า แล้วกลับตอนเย็นจริงไหม ก็ตอบว่าจริง แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าคิดว่าเธอบ้า มนัสวีร์ยังได้ทำในสิ่งที่บ้ากว่าที่ใครจะคิด เพราะกลับไปถึงกรุงเทพฯ แล้วเธอก็มีแผนเดินทางไปฮ่องกงต่อในคืนนี้เลย เธอตั้งใจจะนอนบนเครื่องไปไฟล์ทดึกถึงตอนเช้าก็นั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองไปผูกด้ายแดงที่วัดหว่องไทซินเพื่อขอพรเพิ่มเติมหลังจากออกจากฮ่องกง เสร็จภารกิจต่อรองกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสร็จแล้วเธอก็จะบินต่อไปซานฟรานซิสโกเพื่อปักหลักหาสามีที่นั่นสักอาทิตย์
เธอมีเวลาแค่นั้นจริงๆ เพราะเป็นช่วงว่างหลังจากเรียนจบปริญญาโท และกำลังจะกลับไปช่วยกิจการที่บ้าน ซึ่งพ่อกับพี่ชายดูแลอยู่ก่อนหน้านี้ หญิงสาวบอกกับคนรอบข้างว่าจะเดินทางเที่ยวคนเดียวค้นหาตัวเองสักเจ็ดวัน จากนั้นจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ หญิงสาวไปเที่ยวเองบ่อยๆ และดูแลตัวเองได้ เมืองที่เลือกไปก็มีเพื่อนในกลุ่มอย่างแบงก์ที่บินไปฮันนีมูนกับสามีเศรษฐีที่นั่นล่วงหน้าเป็นเดือนแล้ว เธอไม่ได้ไปบุกที่นั่นหัวเดียวกระเทียมลีบเสียทีเดียวหรอก
มนัสวีร์วางแผนไว้หมดอย่างรอบคอบรัดกุม แต่ตัวแปรเดียวที่วางแผนไม่ได้เลยว่าจะสำเร็จไหม ก็คือเนื้อคู่นี่แหละ...
เธอคาดหวังอยู่พอสมควร ที่ลงทุนมาทำขนาดนี้ก็เพราะอยากจะมีใครสักคนอยู่ข้างๆ เมื่อก่อนเพื่อนทยอยมีผัวไปทีละคนเธอก็คิดว่าตัวเองอยู่ได้ ตอนที่เพื่อนในกลุ่มมีรักดีๆ ครบถ้วนเธอก็คิดว่าถ้าอยู่คนเดียว ไปหากิจกรรมทำแล้วก็ไปเที่ยวกับเพื่อนพร้อมกับแฟนเพื่อนได้ เพราะทุกคนยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม แต่พอผ่านมาพักใหญ่มนัสวีร์ก็เริ่มไม่ไหวกับการไปดูคนเขารักกัน ยิ่งเพื่อนเริ่มมีลูก เวลาว่างมาพบปะก็น้อยลง เธอหานั่นหานี่ทำจนเหนื่อยก็ยังว่างจนเหงาอยู่
จากที่ไม่เคยคิดเรื่องผัวก็เลยเริ่มคิด แล้วพอเริ่มคิดเธอก็เลยเล่นใหญ่อย่างที่เห็นนี่แหละ...
มนัสวีร์ไม่หวังให้ใครมาเข้าใจเธอหรอก ชีวิตนี้ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เห็นใจเธอก็พอ
'อย่าลืมนะคะ ขอให้เนื้อคู่หนูปรากฏตัวในสามวันเจ็ดวันด้วยเถิด สาธุ'
มนัสวีร์ยกมือไหว้อีกครั้งเพื่อทบทวนคำขอของเธอกับหลวงพ่อทันใจ ก่อนจะขับรถออกมา
ณ วัดหว่องไทซิน ฮ่องกง
มนัสวีร์ถึงฮ่องกงตอนเช้า กระเป๋าเดินทางของเธอฝากไว้ที่สนามบินส่วนตัวเธอนั้นเดินถือกระเป๋าคล้องไหล่ นั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองมาเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อเดินทางมาวัดนี้...
หลังจากที่อยากมีผัว เธอก็เริ่มสนใจอ่านรีวิวหลายๆ อย่างและลองเริ่มทำตาม วัดแห่งนี้หลายคนนิยมมาผูกด้ายแดงเพื่อขอพรเกี่ยวกับความรัก หญิงสาวก็ไม่รอช้า เธอเดินเข้าไปในวัด มีเทพเจ้าองค์สีทองสามองค์ถือด้ายแดงด้วยกัน เหมือนฟ้าเป็นใจ ช่วงที่เธอไปถึงยังไม่มีคนมาก หญิงสาวเดินไปรับด้ายแดงจากเจ้าหน้าที่ซึ่งนั่งแจกอยู่ไม่ห่างกันนักแล้วเดินไปอธิษฐาน
'ข้าพเจ้าชื่อ มนัสวีร์ ชื่อเล่นชื่อมิงค์ ตอนนี้มาขอท่านเทพให้ดลบันดาลให้พบเนื้อคู่แบบที่ต้องการในสามวันเจ็ดวัน หนูขอให้ผู้ชายคนนั้นหล่อ สายฝ. ฉลาดหัวไวคุยเรื่องอะไรก็เข้าใจง่ายๆ รักเมียคนเดียว เป็นคนดี มีการงานที่ดีพอที่ครอบครัวข้าพเจ้าจะยอมรับได้ด้วยนะคะ"
ตอนเครื่องบินกำลังจะถึงฮ่องกงพนักงานประกาศให้เตรียมตัวสำหรับลงจอด มนัสวีร์ตื่นนอนแล้วหัดผูกด้ายแดงเพราะหากผูกผิดพลาดไปที่เดินทางมาขอพรก็จะเสียเปล่า หญิงสาวค่อยๆ บรรจงผูกด้ายแดง แล้วนำคุณสมบัติดีๆ ของแฟนที่รวบรวมตัวอย่างจากสามีเพื่อนในแก๊งมานำเสนอเป็นตัวอย่างต่อเทพเจ้า ที่ไหนๆ จะให้เธอได้เป็นคิวสุดท้ายแล้วก็ควรจัดเต็มสมกับการรอคอยเสียหน่อย นอกจากนั้นแล้วเพื่อผ่อนแรงของเทพเจ้า เธอจึงเสนอดีลเพื่อให้ท่านทำงานได้ง่ายขึ้นด้วย
'เมื่อวานนี้ ข้าพเจ้าได้ไปขอพรกับหลวงพ่อทันใจที่วัดในจังหวัดเชียงใหม่แล้ว ข้าพเจ้ารู้ว่าพวกท่านต้องร่วมมือกันเลยขอไว้หลายๆ ที่จะได้ช่วยผ่อนแรงกันเพื่อความสำเร็จตามคำขอของข้าพเจ้า...'
หลังจากที่ดีลกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เรียบร้อย หญิงสาวก็เตรียมตัวนั่งรถไฟฟ้าไปวัดแชกงหมิวและไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมที่หาดรีพัลส์เบย์ เพื่อขอพรให้ธุรกิจของครอบครัวรุ่งเรือง เพราะตั๋วเดินทางครั้งนี้ที่บ้านของเธอสนับสนุนมาเพราะคิดว่าเป็นทริปแบกเป้เที่ยวฉลองเรียนจบ เพื่อลดความรู้สึกผิดที่ไม่กล้าบอกครอบครัวตรงๆ ว่ามีเหตุผลอื่นแอบแฝงในทริปจึงเผื่อเวลาไปมูเตลูให้ธุรกิจครอบครัวด้วยในตัว
ครืดดดด
สายเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือทำให้หญิงสาวผวา แต่พอเห็นว่าเป็นแบงก์เพื่อนสนิทในแก๊งเธอก็รีบกดรับสายอย่างไว เพราะเจ้าตัวเป็นที่ปรึกษาคนเดียวของเธอในการทำภารกิจนี้
[เป็นไงบ้างชะนีมิงก์ เส้นทางการหาผัวของแกดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว]
เสียงถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยทำให้สาวโสดคนสุดท้ายในกลุ่มน้ำตาแทบไหล แบงก์เพิ่งสมหวังในรักแท้และแต่งงานกับแฟนหนุ่มไปหมาดๆ ยังช่วยสุดหัวใจด้วยการเตรียมเพื่อนสามีที่เป็นชายแท้และยังโสดไว้รอแนะนำให้รู้จักเธอสองสามคน เพราะอย่างนี้ก่อนไปเธอถึงได้แวะมามูเตลูเพื่อให้เจอคนที่ใช่
"แวะมาผูกด้ายแดงแล้ว"
หญิงสาวเดินมานั่งด้านหลังวัดเพราะคงได้คุยกันยาว มองไปยังบ่อน้ำใสๆ ในวัด ที่มีน้องเต่าลอยน้ำเล่นไปมา ระหว่างคุยกับแบงก์
[แล้วแผนส่องชายในเลานจ์เฟิร์สคลาส ที่ฉันเคยบรีฟไว้แกทำตามหรือเปล่า]
แบงก์ได้เจอกับแฟนในเลานจ์รับรองผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบิน เพียงสบตา พวกเขาก็ตกหลุมรัก จากนั้นก็คบหาและแต่งงานกันในเวลาไม่นาน ตอนรู้ว่ามนัสวีร์จะเดินทางเขาเลยบอกมนัสวรีร์ให้หัดมองจ้องตาใครสักคนที่พบเจอบ้าง
'ที่ผ่านมาแกไม่ค่อยมองใครตอนนี้อยากมีผัวแกต้องกวาดตาแล้วเจอใครที่ถูกใจก็หัดสบตาเขาบ้าง แกสวยขนาดนั้นจ้องตามสามวิถ้าเขาโดนเขาก็เข้ามาจีบแกอยู่แล้ว'
"ทำสิ อะไรที่แกแนะนำ ฉันทำตามไม่ขาดตกบกพร่องหรอก แต่ว่ากวาดตามองแล้วไม่เจอใครเลย สงสัยท่านเทพเพิ่งรับเรื่อง ยังส่งเนื้อคู่ฉันมาไม่ทัน"
[บนเครื่องไม่เจอตี๋หล่อสักคนเลยเหรอ]
"ไม่มีมั้ง ไม่ได้มองแค่ไม่เห็นสายฝ. ฉันก็รัดเข็มขัดสวมผ้าปิดตานอนเลยจ้า"
[แกก็อย่าล็อกเป้าเยอะสิ ดูอย่างฉันชอบหนุ่มละตินหล่อเข้ม ถึงได้สายฝ. ผมทองตาฟ้าเฉย ก็ยังใช้ชีวิตด้วยกันแล้วแฮปปี้ดีนะ]
"โน โน โน ชีวิตฉันต้องสายฝ. เท่านั้นจ้ะเพื่อนรัก" หญิงสาวบอกความต้องการของตัวเองอย่างชัดเจน เหมือนกับที่บอกสิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลายที่เคยไปมูเตลู
[อ้อ เข้าใจๆ แฟนเก่าแกมันหน้าตี๋ เจ็บเพราะมันมาเยอะ เลยเข็ดสายตี๋เนอะ]
"อย่าพูดถึงสิ่งอัปมงคลในวันนี้นะแก..." มนัสวีร์รีบดักคอคนที่กำลังจะเอาเรื่องจริงมาล้อเล่น เธอไม่อยากพูดถึงเรื่องไม่ดีในวันที่ดีๆ แบบนี้
[อุ๊บส์ โอเคจ้ะเพื่อน ไม่พูดๆ งั้นก็ไปทำธุระต่อให้ไว จะได้รีบมา ฉันหลอกให้ผัวชวนเพื่อนมาดินเนอร์ที่บ้านได้คนนึง คนนี้จัดว่าเด็ด แกนอนบนเครื่องให้อิ่ม มาส์กหน้าก่อนนอนให้หน้าอิ่มฟูสวยๆ ใสๆ ธรรมชาติมาเลยจ้ะเพื่อน ไม่ต้องแต่งหน้าเต็มเกินไป]
"โอเค ดีมากเลยแบงก์เพื่อนรัก เดี๋ยวฉันไปมูเพื่อพ่อกับพี่มาร์คก่อน แล้วจะรีบไปขึ้นเครื่องไปหาแกเลย"
[ก่อนขึ้นเครื่องคอลหาฉันด้วยนะ]
"โอเค บาย"
มนัสวีร์วางสาย ดวงตาของเธอมีความหวัง จิตใจเต็มเปี่ยมด้วยพลัง และความมุ่งมั่น
เช่นเคย ก่อนเดินออกจากวัดหว่องไทซิน สาวสายมูก็ไม่ลืมย้ำกับท่านเทพอีกครั้ง
'สาธุๆ ขอให้เนื้อคู่ของข้าพเจ้าปรากฏตัวในสามวันเจ็ดวันด้วยนะคะ'
- ผู้เขียน
