แม้จะเตรียมตัวโดนประหาร แต่พอพี่ชายมาถึงจริงๆ หญิงสาวก็ไม่ได้โดนด่าอย่างที่คิด
มาร์คมาด้วยสีหน้านิ่งซึ่งเป็นสถานการณ์ปกติไม่ได้เกิดเพราะว่าสร้างภาพกับกลุ่มเพื่อนน้องสาวตัวเอง เขาเคยเจอกับแก๊งนี้หลายรอบเลยเป็นตัวของตัวเองและเขาก็ไม่แปลกใจที่ทุกคนดูเกร็งๆ มันเป็นเรื่องที่คนหน้านิ่งอย่างเขาชินเสียแล้ว
“กำลังคุยกันเรื่องข่าวอยู่ค่ะ” พอเห็นว่าพี่ชายไม่ได้มาเพื่อดุ คนเป็นน้องเลยบอก
“จะมาถามเราเหมือนกัน ทำไมรู้จักกับคนในข่าว”
“ไปเที่ยวกับแบงก์แล้วเจอค่ะ ไม่ได้สนิทอะไรด้วยเลย มีข่าวได้ยังไงไม่รู้”
“...” มาร์คมองหน้าน้องสาว โทรศัพท์เขาแจ้งเตือนว่ามีข้อความเข้า ชายหนุ่มเปิดดูแวบเดียวแล้วก็เงยหน้ามามองน้องสาวที่เท้าคางมองเขาด้วยดวงหน้าหงอยๆ
“ดีจังที่พี่มาร์คเลือกจะถามก่อนและไม่ดุ ตั้งแต่มีคู่หมั้นใจดีขึ้นเยอะเลยนะ”
สีหน้าของมาร์คมืดครึ้มขึ้นทันที คนเป็นน้องสาวตาเหลือก เธอกวนน้ำให้ขุ่นจนบรรยากาศเย็นเยียบขึ้นมาทันที เรื่องหมั้นเรื่องแต่งเป็นเรื่องต้องห้ามที่จะพูดกับพี่ชาย เธอจะจำเอาไว้...
“เรามีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ”
“แต่ต้นตอที่ปล่อยข่าวไม่เกี่ยวอะไรกับครอบครัวเรา รู้จักไหม” เขายื่นโทรศัพท์ให้น้องสาวดู
“พี่หมอ!” มนัสวีร์ย่นคิ้ว
“รู้จักมันเหรอ”
“เคยคบกันค่ะ แต่เลิกแล้ว ตอนไปอเมริกาก็เจอ แต่ก็ไม่ได้คุยกัน เพราะจบกันไม่สวย เขาปล่อยข่าวทำร้ายมิงค์เหรอคะ!”
“เคยคบกัน?”
คนน้องตัวหดอีกรอบ ตอนคบไม่ได้เล่าใครเท่าไหร่ มีแค่เพื่อนเท่านั้นที่รู้ กับครอบครัวเธอไม่กล้าบอก ก็ดูเอาเถอะ ดุขนาดนี้ใครจะกล้า
“แค่คุยแต่รู้ก่อนว่าเขานอกใจ เขาคบซ้อนกับหมอดาด้า พอคุยกันเรื่องคนคุยเลยรู้ว่าเขาคุยซ้อนกันเลยตัดขาดแล้ว ตอนไปอเมริกามิงค์เจอเขาโดยบังเอิญเลยพูดกับเขาไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาเลยเอาคืน แต่มันจะเป็นเขาเหรอคะมิงค์ไม่เห็นเขาในวันนั้นเลย”
“มันอยู่ที่นั่น คนของพี่สืบจากเพจที่ปล่อยแล้ว มันเป็นเพื่อนของเรโนลด์” เพราะมีคนสืบมาให้แล้วว่าหมอคนนั้นส่งข้อมูลมาเอง แม้มันพยายามปกปิดข้อมูลแต่พอหาแหล่งข่าวและหาความเชื่อมโยงจึงระบุตัวได้เป็นอย่างดี
“แสดงว่าคนที่พัวพันกับธุรกิจฟอกเงินเป็นครอบครัวเขา แต่โยนมาให้บ้านเราเป็นข่าวเฉยเลย บ้าจริง!”
มนัสวีร์ทุบตักตัวเอง
“เดี๋ยวพี่ไปจัดการต่อ พี่มาถามแค่นี้แหละ”
“พี่มาร์ค อย่าบอกปู่ได้ไหมคะ มิงค์กลัวโดนดุ”
เขาพยักหน้าให้น้องสาวชื่นใจหนึ่งวินาที แล้วจากนั้นก็พูดประโยคที่แสนห่อเหี่ยว
“ถ้าปู่รู้เอง ก็ช่วยไม่ได้นะ”
พี่ชายบอกลาเพื่อนของเธอและปฏิเสธมื้ออาหารร่วมกับสาวๆ เพราะต้องไปทำธุระต่อ พอพ้นจากเขาไปแล้วเพื่อนๆ เธอที่นั่งเหงื่อตกกันอยู่ก็ขยับตัว
“มิงค์ พวกฉันมีอะไรจะสารภาพ” วีน่าเล่าหมดเปลือกว่าการที่เธอไปเจอพี่หมอนั้นมันเป็นแผนของเพื่อนในกลุ่มเอง “ฉันขอโทษนะที่ส่งคนไม่ดีไปเจอแก พวกเราไม่รู้ว่าเขาจะเป็นแบบนั้น”
“ไม่เป็นไร ฉันรู้ว่าพวกแกหวังดีกับฉัน พวกแกแค่ไม่รู้ว่าไอ้หมอนั่นมันเลว”
เพื่อนๆ ต่างขยับมากอดปลอบมนัสวีร์กันยกใหญ่
ปีนี้มันเป็นปีที่แย่ของเธอจริงๆ แต่อย่างน้อยที่สุดก็มีเพื่อนอยู่เคียงข้างคอยสู้และคอยแก้ข่าวไปด้วยกัน
หญิงสาวหวังว่าเรื่องนี้จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ในอนาคต...
แต่ผ่านไปไม่นานมนัสวีร์ก็ต้องตกใจ เมื่อได้รับรู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นสร้างปัญหาให้เธอมากกว่าที่คิด!!
เนื่องจากความเป็นคนดังของบิดารวมทั้งมนัสวีร์เองก็เคยเป็นที่รู้จักทำให้ข่าวมันดังกระพือขึ้นอยู่นาน แม้พยายามแก้ข่าวแต่ก็กลบข่าวไม่ได้ ยังดีที่ที่ผ่านมาเธอไม่เคยทำตัวอวดความสำเร็จหรืออวดชีวิตหรูหราผ่านโซเชียลไม่อย่างนั้นสังคมคงตราหน้าไปกว่านี้ การตกเป็นข่าวทำให้ครอบครัวของเธอได้รับผลกระทบมาก ธุรกิจของบิดาถูกตรวจสอบ ยิ่งฝั่งของปู่กับพี่ชายที่สั่งสมบารมีและชื่อเสียงเงินทองไว้มากมายนั้นย่อมได้ผลกระทบมากที่สุด
มนัสวีร์อดไม่ได้ที่จะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเอง... เธอพยายามแล้วพี่ชายของเธอก็พยายามช่วยเต็มที่แต่ข่าวก็ยังดังและเริ่มมีคนด่าและตราหน้าว่าที่พวกเธอมีกินอยู่ทุกวันนี้เป็นเงินที่ได้มาจากเว็บพนัน และแน่นอนว่าเรื่องถึงหูคุณปู่ของเธอแล้ว
ในขณะที่ทุกคนกำลังแก้ข่าวและเล่นงานคนปล่อยข่าว ปู่ของเธอก็ติดต่อเข้ามา
“เข้ามาเจอปู่ที่บ้าน”
“บ้านที่ภูเก็ตเหรอคะ มิงค์ไม่ว่างไปต่างจังหวัดค่ะคุณปู่ พอดีรับงานทำบัญชีไว้น่ะค่ะ” เธอรีบยกงานพาร์ทไทม์มาอ้าง แม้ก่อนจะไปอเมริกาจะเคยรับปากท่านว่าจะไปหาเพราะท่านเคยบอกว่าจะยกอะไรบางอย่างให้ แต่ตอนนี้เธอไม่กล้าไปหาปู่แล้วเพราะคาดว่าไปแล้วคงไม่ได้รับมรดก แต่อาจจะโดนปู่ดุเอา เลี่ยงได้เลี่ยง งดได้งด บอกเลย
“ตอนเย็นเจอกันที่บ้านในกรุงเทพฯ!”
หญิงสาวรู้ว่าเธอจะไม่โดนประหารจากปู่แน่นอน เพราะท่านคงรู้ความจริงทุกอย่างแล้วและรู้ว่าพวกเธอพยายามแก้ข่าวถึงแม้จะไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ สิ่งที่เธอกลัวคือกลัวโดนท่านดุต่างหาก
แต่แน่นอนว่าถ้าปู่ขึ้นมาที่กรุงเทพฯ ขนาดนี้แปลว่าเธอหลีกเลี่ยงไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ช่วงใกล้เวลาอาหารเย็นมนัสวีร์เดินลากขาเข้าบ้านช้าๆ เพื่อไปพบว่าปู่ พ่อ และพี่ชายนั่งรอเธออยู่ที่โต๊ะกินข้าว พวกเขาทำท่าเหมือนปรึกษากันอยู่ในตอนที่เธอเดินเข้าไป
“อยู่กันพร้อมหน้าเลย สวัสดีค่ะ”
“มากินข้าวก่อนลูก เดี๋ยวกินเสร็จคุณปู่มีเรื่องจะคุยด้วย” อานัส อดีตพระเอกชื่อดังเอ่ยบอกลูกสาวที่สืบทอดยีนส์มาจากฝั่งมารดาเขาที่เป็นคนอ่อนโยน ส่วนเจ้าลูกชายนั้นได้ความดุมาจากฝั่งปู่เต็มๆ เขาเลยมักเป็นที่พึ่งพาให้ลูกสาวเสมอ แม้กระทั่งในตอนนี้ บิดาเขาตัดสินใจในบางเรื่องที่เขาไม่เห็นด้วย อานัสจะต่อสู้เคียงข้างลูกสาวของเขาเอง
“กินข้าวก่อนค่อยว่ากัน” มิ่งขวัญบอกหลานสาว
บนโต๊ะอาหารมีของโปรดมนัสวีร์และอานัสหลายอย่าง แม้จะเป็นคนที่ดูเคร่งขรึม แต่ว่าในด้านความรักที่มีต่อครอบครัวนั้นก็เต็มเปี่ยม มิ่งขวัญอาจจะดุบ้างเพราะอานัสกับมนัสวีร์ไม่ค่อยได้ดั่งใจ แต่เขาก็รักลูกชายและหลานเท่าๆ กับรักหลานชาย แต่ยอมรับว่าความเอ็นดูของเขาเอนเอียงไปทางหลานชายเพราะเมธาวินได้ดั่งใจเขามากกว่า
“ขอบคุณคุณปู่มากนะคะ ที่หิ้วมาฝาก”
“หนูโยเขาจัดมาให้แน่ะ ฝากขนมหวานมาให้เราด้วย” มิ่งขวัญชี้ไปที่ถ้วยขนมหวานของไทยที่มาจากร้านของ ‘โยธกา’ คู่หมั้นพี่ชายของเธอ
มนัสวีร์แอบมองพี่ชายของตัวเองแล้วเห็นว่าเขาชะงักและดูอารมณ์ขุ่นขึ้นเมื่อได้ยินชื่อคู่หมั้นสาว เธอยิ่งแน่ใจว่าจะไม่แตะต้องเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเมธาวินอาจจะไม่เข้าข้างเธออีก
มื้ออาหารจบลงและล้างปากด้วยของหวานสุดโปรดของมนัสวีร์แล้วหญิงสาวก็รู้ว่าถึงเวลาที่ตัวเองจะต้องคุยเรื่องสำคัญ แน่นอนว่าทั้งปู่ทั้งพี่ชายขึ้นมาถึงกรุงเทพฯ ขนาดนี้ต้องมีการเคลื่อนไหวที่สำคัญพอสมควร
“ข่าวของเราเสียหาย ถึงจะแก้ข่าวแต่กู้ภาพลักษณ์คืนยากเพราะคนเชื่อข่าวที่ออกตอนแรกไปแล้วเลยไม่เปิดใจฟังข่าวใหม่ ปู่เลยหาวิธีที่ดีกว่าเพื่อทำให้เป็นข่าวใหญ่กว่าเดิม”
มนัสวีร์เลิกคิ้ว เห็นสีหน้าของบิดาและพี่ชายแล้วก็รู้ว่าพวกเขาน่าจะรู้เรื่องแล้ว เหลือแต่เธอที่ยังไม่รู้
“ทำยังไงคะ”
“ปู่จะให้มิงค์แต่งงานกับคนอีกตระกูลที่เขากำลังหาสะใภ้ให้หลานคนโต เขารู้เรื่องข่าวและเชื่อว่ามันไม่เป็นความจริง การแต่งงานครั้งนี้จะทำให้มิงค์มีคนปกป้องจากข่าวเสียหายเพราะเราจะพลิกเกมเพื่อเล่นข่าวในแนวทางใหม่ อีกอย่างมิงค์จะได้มีคู่ครองที่ดี ไม่ต้องมีข่าวเสียหาย ปู่จะได้ไม่เป็นห่วง”
“แต่งงาน!” อยู่ดีๆ ก็จะมีผัว แถมไม่ต้องหาเองด้วย ถ้าปู่บอกว่าเป็นสาย ฝ. มนัสวีร์จะคิดว่าเป็นเนื้อคู่แล้วนะ
“ผมคิดว่าวิธีการแบบนี้ไม่เหมาะนะครับพ่อ พ่อบังคับเจ้ามาร์คได้แต่ไม่ได้หมายความว่าจะบังคับเรื่องแต่งงานของมิงค์ได้นะครับ” อานัสบอกบิดา
เมธาวินพยักหน้าเห็นด้วย เรื่องนี้เขาจะอยู่ข้างน้องสาว
ในขณะที่พ่อกับพี่ชายกำลังจะช่วยปฏิเสธ และคนเป็นปู่ก็คิดว่าหลานสาวอาจจะไม่เห็นด้วยกับวิธีแบบนี้ แต่มนัสวีร์กลับตั้งคำถามอันน่าทึ่งแทนที่จะปฏิเสธ