ร่างบางยืนหอบบนชานชลาพร้อมแรงลมจากรถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูงจนผมสีน้ำตาลยาวปลิวยุ่งเหยิง กระโปรงสั้นเลยเข่าสีดำเองก็เช่นกัน
“เห้อ สงสัยต้องนั่งไนท์บัสกลับโตเกียวแล้วสิน้า นังชฎา”
เธอพึมพำกับตนเองเมื่อมาไม่ทันรถไฟสายสุดท้ายจากโอซาก้าไปยังโตเกียว
ครืนนนนนน
ขณะรถไฟเคลื่อนผ่านเรื่อยๆยังไม่สุดขบวน เธอรู้สึกเหมือนว่า มีใครกำลังยืนมองเธออยู่อีกฟากฝั่งหนึ่งของชานชลา
ฉัตรชฎา หรือ ซานายะ ยูอิ ยังคงยืนนิ่ง เพราะเชื่อว่าอย่างนั้น เหมือนมีเซ้นต์อะไรบางอย่าง ว่าต้องมีคนยืนดูเธออยู่แน่
“....!”
และแล้วก็เป็นอย่างที่รู้สึก
เธอพบชายร่างสูงใหญ่ใส่สูทสวมแว่นดำผมทรงสกินเฮด ยืนนิ่งราวกับรูปปั้น
สัญญาณแห่งความรักตัวกลัวตายผุดขึ้นมา
เธอรีบถอยร่นเตรียมจะวิ่งหนี
แต่แล้วโชคชะตากลับไม่เข้าข้างฉัตรชฎา หญิงสาวชาวไทยผู้ถูกบังคับให้ชุบชีวิตใหม่ที่ญี่ปุ่น แม้ภูมิใจในเชื้อชาติตนเองขนาดไหนแต่ก็ต้องจำใจยอมรับชื่อญี่ปุ่นที่แม่ตั้งให้ใหม่อย่างเลี่ยงไม่ได้
เธอหันหลังกลับเตรียมก้าวเท้าวิ่ง แต่ต้องถูกชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่สามคนสวมชุดแนวเดียวกันกับคนแรกที่เธอเจออยู่ฝั่งตรงข้าม พวกมันลากดึงตัวเธอราวกับหุ่นเบาหวิว
“ช่วย..”
ไม่มีโอกาสได้ร้องขอความช่วยเหลือ ทุกอย่างดับวูบลงทันที
...................
'ได้ตัวมาแล้วครับนาย'
"..ดี เอามันมาหาฉันเดี๋ยวนี้!!"
มือหยาบคีบมวนบุหรี่ออกจากปากพลางบี้ลงบนรูปภาพของหญิงสาวที่ได้มาจากกล้องวงจรปิดในคืนเกิดเหตุ