EP.05
รถจอดสนิท ภาวสุทธิ์รีบลงจากรถแล้ววิ่งมาเปิดประตูให้กับหญิงสาว
“ขอบคุณนะคะ”
แก้วกาญจน์ก้าวลงจากรถพร้อมกับรอยยิ้มที่หวานฉ่ำ เธอมองภาพเบื้องหน้าด้วยหัวใจที่ตื่นเต้น ถึงแม้เธอกับเขาจะไปไหนมาไหนด้วยกันสองต่อสองบ่อยๆ แต่เช้านี้เธอกลับรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าทุกวันที่ผ่านมา เธอก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้รู้สึกเช่นนั้น
“เราเข้าไปกันเถอะครับ”
เขาเอ่ยชวนพร้อมกับกางแขนให้กับหญิงสาวได้คล้องและเดินไปด้วยกัน หากแต่แก้วกาญจน์กลับปฏิเสธเพราะเห็นว่ามันไม่สมควร ในที่แบบนี้และเวลาเช่นนี้มันไม่ใช่เวลาที่เธอและเขาจะมาสวีทกัน
“อย่าเลยค่ะ ตอนนี้เราอยู่ในชุดทำงานมันจะน่าเกียจนะคะถ้าใครที่เรารู้จักมาเห็นเข้า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจสิครับ สำหรับผมแล้วไม่คิดอะไรหรอก”
เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนหวาน ก่อนจะผายมือให้กับเธอเดินนำไปก่อน เมื่อเข้าไปแล้วชายหนุ่มก็ได้สิ่งอาหารแบบเรียบง่ายมาทาน โดยมีแก้วกาญจน์คอยนั่งอยู่อย่างเงียบๆ เขาทานอาหารมื้อเช้าอย่างมีความสุขเพราะภาพเบื้องหน้าคือหัวใจทั้งดวงของเขา ความสุขใจ ความปลื้มปีติ ถาโถมเข้ามาให้กับเขาจนแทบสำลัก หากแต่เขาก็พึงพอใจถ้าหากความสุขเช่นนี้จะมีกับเขาตลอดไป
ภาพของชายหนุ่มที่ทานไปและยิ้มไปเริ่มจะทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดและหมั่นไส้ เมื่อเวลามันได้ผ่านมามากแล้ว แววตาหวานซึ้งจ้องหน้าชายหนุ่มเป็นเชิงปราม
“คุณอย่ามองผมแบบนั้นสิแก้ว” ชายหนุ่มสังเกตเห็นแววตาของหญิงสาวที่เริ่มจะแง่งอนเขาจึงชิงเอ่ยถามขึ้นเบาๆ
“คุณจะแกล้งแก้วให้ทุกคนว่าแก้วมาทำงานสายเกือบทุกวันหรือคะคุณภาวสุทธิ์” หญิงสาวเอ่ยเสียงห้วนเมื่อเขายังทำหน้าระรื่น
“เปล่านี่ครับ แล้วมันไปเกี่ยวอะไรกับทุกคนที่คุณหมายถึงล่ะครับก็ในเมื่อคุณเป็นเลขาฯ ของผมและผมก็เป็นคนไปรับคุณเอง”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็รีบๆ ทานสิค่ะ นี่มันก็สายมากแล้ว เป็นถึงผู้บริหารไปสายเดี๋ยวมันจะเสียการปกครองนะคะ”
หญิงสาวเอ่ยบอกด้วยใบหน้างอง้ำ จนทำให้อีกฝ่ายเปิดยิ้มออกมาในที่สุด ที่แท้เธอก็ไม่อยากจะให้เขาเสียการปกครองนั่นเอง คุณแก้วคุณจะรู้ไหมนะว่าคุณทำให้ผมมีความสุขขนาดไหน
“ครับคุณเลขาฯ คนสวย เอาเป็นว่าขอผมทานอีกสักนิดเถอะนะ ผมอยากจะอยู่ในห้วงเวลานี้นานๆ คุณรู้ไหมว่าคุณทำให้ผมมีความสุขที่สุดที่เห็นคุณอยู่ข้างๆ เช่นนี้”
เสียงนุ่มทุ้มของเขาดังขึ้นเพื่อขอความเห็นใจ หากแต่เธอกลับเงียบไม่รู้จะพูดอะไร ก็ฉันมีความสุขเหมือนกันนี่ที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับคุณเช่นนี้
“เอ่อ แก้ว”
เธอยังอึกอัด ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกดีที่ได้อยู่ในห้วงเวลาแบบนี้หากแต่เธอไม่อยากจะเสียเวลาทำงานไปมากกว่านี้จริงๆ และกลัวว่าเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จะว่าเธอได้ที่เป็นแค่เลขานุการกลับไประริกระรี้ให้ท่าผู้จัดการสองต่อสองในเวลาทำงานเช่นนี้
“หรือคุณไม่รู้สึกดี แก้ว”
จู่ๆ เสียงของเขาก็ดังแทรกขึ้นและทำลายความคิดทั้งหมดของเธอลง แก้วกาญจน์ช้อนตาขึ้นมองเสี้ยวหน้าคมของเขาอย่างเห็นใจ
“อย่าพูดแบบนั้นสิค่ะ คุณก็รู้อยู่แล้วว่าแก้วคิดยังไงกับคุณ ไม่อย่างนั้นแก้วก็คงจะไม่มาอยู่ตรงนี้และหนีคุณไปไกลแล้ว”
คำพูดที่จริงใจจากหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่เปิดยิ้มออกมาในที่สุด นัยน์ตาคมของเขาจ้องลึกเข้าไปในความคมวาวงามของเธออย่างมีความหมาย มือหนาค่อยๆ เอื้อมมาจับมือของเธอแล้วกุมมันเอาไว้จนแน่น
“แก้ว คุณจงรู้เอาไว้นะครับ ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นผมยินดีที่จะช่วยคุณเสมอ ผมรักคุณนะครับ คุณไม่ต้องกลัวคำครหาของใครที่จะมาว่าคุณและผมไปในทางที่ผิด ขอแค่เรามั่นคงและจริงใจต่อกันเท่านั้นผมสัญญาว่าผมจะปกป้องคุณและจะรักคุณแบบนี้ตลอดไป”
น้ำเสียงของเขาหนักแน่นจนเธอรู้สึกสะท้านไปถึงขั้วหัวใจ ถึงแม้จะรู้สึกสุขใจแต่เธอก็ตอบไม่ได้อยู่ดีว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกเช่นนั้น บางครั้งหัวใจของเธอก็วาบหวิวและใจหายเป็นบางครั้ง จนเธอไม่อยากจะให้เขาพูดเช่นนั้นอีกเลย
“แก้วรู้ค่ะว่าคุณพูดจริง และแก้วก็ขอสัญญาว่าจะอยู่เคียงข้างคุณแบบนี้ตลอดไปเช่นกันนะคะ”
หญิงสาวบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงที่หวานสุดซึ้งดั่งระฆังแก้ว ดวงตากลมโตคู่สวยช้อนขึ้นสบกับเขาอย่างตั้งใจจนไม่นานน้ำตาแห่งอารมณ์ตื้นตันก็เอ่อนองออกมา ภาวสุทธิ์เอื้อมมือข้างหนึ่งเกลี้ยน้ำตาให้พ้นจากพวงแก้มแล้วลูบไล้ที่แก้มนวลเบาๆ
“คุณสัญญากับแก้วได้ไหมคะว่าจะมั่นคงกับแก้วแบบนี้ตลอดไป และจะไม่หนีแก้วไปไหน”
“ครับ ผมสัญญา”
ชายหนุ่มขานตอบรับคำมั่นสัญญาในที่สุด มือหนาค่อยๆ จับที่คางมนเบาๆ เป็นการตอกย้ำคำมั่นสัญญาของเขาว่าเขาจะมั่นคงและจริงใจแบบนี้ตลอดไป
“เห็นคุณพูดแบบนี้แก้วก็ดีใจแล้วละค่ะ ว่าแต่ทานเสร็จแล้วใช่ไหมคะ แก้วว่าเราไปกันเถอะ เดี๋ยวจะสาย ตอนสิบโมงวันนี้คุณมีประชุมไม่ใช่หรือคะ เดี๋ยวจะต้องเตรียมตัวอีก ไปช้ากว่านี้แก้วกลัวว่าคุณจะเตรียมตัวไม่ทันนะคะ”เธอเอ่ยตัดบทในที่สุดเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเธอจึงชวนให้เขาเดินทางอีกครั้ง
“ก็ได้ครับ นี่เป็นคุณนะ ถ้าเป็นคนอื่นผมไม่ยอมหรอกที่จะให้ใครมาทำลายเวลาแห่งความสุขของผมแบบนี้”
ชายหนุ่มเอ่ยเสียงหวานก่อนจะหันไปเรียกพนักงานมาเก็บเงิน เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาจึงพาเธอไปที่รถแล้วขับตรงไปที่ทำงาน