เสียงถอนใจแรงๆ ของแขกสาวทำให้ลูเซียสค่อยๆ หันกลับมาอย่างเชื่องช้า นัยน์ตาคมกริบจับจ้องที่ร่างอรชรในชุดมิดชิดด้วยความเย็นชา รอยยิ้มหยันน้อยๆ ผุดขึ้นที่มุมปากบางเฉียบที่บ่งบอกให้รู้ชัดเจนว่า ผู้ชายคนนี้เอาแต่ใจและหยิ่งผยองแค่ไหน
แสงอาทิตย์ยามสิบโมงเช้าสาดส่องผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่าง กระทบเข้ากับร่างกายใหญ่โตของลูเซียส และนั่นมันก็ทำให้ผู้ชายที่ยืนตระหง่านอยู่ตรงหน้าดูลึกลับ น่าหวาดกลัวมากขึ้นทวีคูณ
“วางไว้บนโต๊ะ และออกไปได้แล้ว”
น้ำเสียงกระด้าง เย็นชา ไม่เป็นมิตร และอะไรอีกล่ะ อ้อ เหยียดหยาม ดูถูกดูแคลน อัดแน่นอยู่ในน้ำเสียงนี้ไม่ปิดบัง
แม้จะหน้าร้อนผ่าวด้วยความไม่พอใจ แต่หญิงสาวก็ไม่อาจจะโต้แย้งหรือแสดงท่าทางอะไรออกไปได้ นอกจากก้มหน้าก้มตารับคำสั่งของผู้ชายที่หล่อแต่ไม่มีหัวใจอย่างลูเซียสโดยไม่มีทางเลือก
สงสัยตอนที่เหล่าเทวดานางฟ้าปั้นแต่งผู้ชายคนนี้มา คงลืมใส่หัวใจมาด้วยแน่ๆ เลย ลูเซียสได้ถึงเย็นชา เลือดเย็น แถมยังเอาแต่ใจตัวเอง ไม่สนใจคนอื่นแบบนี้
“เอ่อ...ค่ะท่านประธาน”
ด้วยความรีบร้อน ทำให้ญานิดาไม่สามารถเดินไปถึงเป้าหมายได้ หญิงสาวสะดุดกับขอบพรมที่เผยอขึ้นมาเพียงเล็กน้อย และคงจะล้มลงไปกองกับพื้นห้องอย่างแรง หากไม่ได้มือหนาของใครบางคนมาคว้าเอวคอดที่เล็กได้อย่างน่าทึ่งเอาไว้ได้ทันเวลา
“เดินระวังหน่อยสิ”
น้ำเสียงดุๆ ที่ดังขึ้นข้างหู ทำให้ญานิดาคลายความตกใจกับความซุ่มซ่ามของตัวเองมาเป็นอับอายแทน เพราะตอนนี้ร่างบอบบางแต่ซ่อนความอวบอิ่มไว้ข้างในตกอยู่ในวงแขนกำยำของลูเซียส
กลิ่นไอแห่งความแข็งแกร่งเยี่ยงบุรุษเพศวัยฉกรรจ์ซัดเข้าใส่ใบหน้าจนมึนงง กลิ่นโคโลญราคาแพงโชยเข้าจมูก เลือดสาวร้อนฉ่าขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ช่องท้องปวดร้าวอึดอัดอย่างน่าประหลาดใจ
ไอ้อาการอย่างนี้ อาการบ้าๆ แบบนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับหล่อนมาก่อนเลยในชีวิต แต่เมื่อได้พบกับผู้ชายคนนี้ เพียงแค่ได้สบตาสีเข้มวาววับของเขา ร่างกายของหล่อนก็เบ่งบานรุนแรงอย่างน่าตกใจ นี่หล่อนเป็นอะไรไปนะ ทำไมถึงควบคุมร่างกายของตัวเองไม่ได้เลย แค่อยู่ใกล้ลูเซียสเท่านั้น หัวใจก็เต้นแรงระรัว
“เอ่อ...ขะ...ขอบคุณค่ะ”
ดวงตากลมโตหวานซึ้งที่จ้องมองมาด้วยความตื่นตระหนกนั้นเตือนให้ลูเซียสรีบถอยห่างจากแม่ผู้หญิงเจ้าของริมฝีปากอิ่มเต็มน่าขยี้คนนี้ แต่ความต้องการที่คุกรุ่นอยู่ภายในกลับขัดขวางความคิดนั้นไว้จนหมดสิ้น
เขาอยากกอดหล่อนไว้อย่างนี้ อยากจูบ อยากทำอะไรก็ได้ที่จะทำให้เขาเลิกใส่ใจเจ้าหล่อนเสียที อย่างเช่น จับแม่สาวคนสวยพาดกับโต๊ะทำงาน แล้วจากนั้นก็...
ลูเซียสขบกรามแน่น ก่อนจะผลักร่างงามออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว ร่างสูงใหญ่ถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะพูดออกมาเสียงกระด้าง
“วางแฟ้มไว้บนโต๊ะ”
ญานิดาที่แทบหกล้มเพราะถูกคนตัวโตที่พึ่งจะประคองกอดเมื่อครู่นี้ผลักไสออกห่างด้วยท่าทางขยะแขยง รีบลนลานนำแฟ้มบัญชีไปวางไว้บนโต๊ะทำงานไม้ ก่อนจะค่อยๆ หันกลับมาช้อนสายตาขึ้นมองลูเซียสอย่างขลาดกลัว
“เอ่อ...ท่านประธานจะถามอะไรดิฉัน...”
“ออกไปให้พ้นหน้าฉันซะเดี๋ยวนี้”
น้ำเสียงไม่แยแสของอีกฝ่ายทำให้สาวน้อยถึงกับสะอึก รู้กิตติศัพท์ความเอาแต่ใจ ความโหดเหี้ยมของลูเซียสมานานแล้ว แต่ไม่เคยคิดว่าเขาจะไร้เหตุผลเช่นนี้
“แต่ว่า...”
“ฉันจะคุยกับคนที่มีปัญญาตอบคำถามของฉันได้เท่านั้น ออกไปซะ ก่อนที่เธอจะต้องกระเด็นออกไปจากเมเนนเดซแอร์เวย์เพราะรปภ.”
เหี้ยมเกรียม ไร้หัวใจ นี่คือสโลแกนที่เหมาะกับผู้ชายที่กำลังยืนทำหน้าเลือดเย็นอยู่เบื้องหน้ายิ่งนัก ญานิดาก้มหน้ามองพื้นอย่างเจียมตัว ก่อนจะค่อยๆ หมุนตัวเดินออกไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตูห้องทำงานของเขา เสียงกระด้างเย็นชาสุดๆ ก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เท้าของหล่อนแข็งขึ้นมาโดยปริยาย
“ให้เจ้านายของเธอขึ้นมาหาฉันด้วยนะ เขาต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันเสียอารมณ์”
นี่การที่เขาเห็นหน้าหล่อนมันทำให้เสียอารมณ์ขนาดนี้เลยหรือไง ญานิดาคิดด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจก่อนจะก้มหน้ารับคำสั่งอย่างไม่มีทางเลี่ยง
“ค่ะท่านประธาน”
และหญิงสาวก็ก้าวเดินออกไป ปล่อยให้ลูเซียสสบถด่าตัวเองอยู่ตามลำพัง ด้วยความเกลียดชังตัวเองสุดแสน
‘ระยำ! ไอ้ลูซ แกมันบ้าไปแล้ว แค่กอดเจ้าหล่อนแค่นี้ ทำไมถึงได้ใจสั่นนักนะ ปกติเขาไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวกับผู้หญิงง่ายๆ แบบนี้มาก่อนเลยในชีวิต’
รู้อยู่แก่ใจว่าญานิดาพิเศษกว่าผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ตัวเองเคยผ่านมา แต่ก็ไม่เคยคิดว่ามันจะรุนแรงจนแทบจะตั้งตัวไม่ทันแบบนี้
กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เกิดจากแป้งเด็ก ไม่ใช่น้ำหอมราคาแพงที่แม่สาวสังคมชั้นสูงหรือนางแบบที่เขาเคยลากขึ้นเตียงใช้กัน มันแปลกใหม่ และสามารถทำให้เลือดในกายของเขาร้อนผ่าว เดือดพล่านได้อย่างน่าอัศจรรย์
“เธอจงใจ หรือว่าแค่บังเอิญกันแน่ ญานิดา”
พึมพำออกมาอย่างแคลงใจ หรือนี่จะเป็นอีกวิธีหนึ่งของสตรีที่ใช้ในการเข้าถึงตัวตนของเขากันนะ ญานิดาอาจจะไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ ที่เขาเคยผ่านมาก็ได้ ผู้หญิงที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ผู้ชายอย่างนายลูเซียส เมเนนเดซมาเป็นสามี เพื่อความสุขสบายในอนาคตของตัวเอง
“อย่าคิดว่าฉันตามเกมเธอไม่ทันนะญานิดา”
นัยน์ตาคมกริบวาววับด้วยความเหยียดหยาม เขาถูกใจรูปลักษณ์ภายนอกของญานิดาก็จริง แต่เขาก็ไม่ได้คิดจริงจังกับหล่อน แค่ให้หายอยากและก็ฟาดหัวด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แค่นี้ทุกอย่างก็จะจบลงด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย
รอยยิ้มพึงพอใจระบายเต็มใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรของลูเซียส และเขาก็อยากจะดูสิว่า ญานิดาจะเลือกแฟนหนุ่มแสนกระจอก หรือว่าจะเลือกมหาเศรษฐีหมื่นล้านแบบเขา แต่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเจ้าหล่อนจะเลือกใคร เพราะผู้หญิงดีๆ สูญพันธุ์ไปจากโลกใบนี้ตั้งแต่ร้อยปีที่ผ่านมาแล้วล่ะ!