ขยี้สวาทเจ้าสาวนางบำเรอ ตอนที่ 3
ปรานีนิ่งคิดอยู่เล็กน้อยก็ตอบออกมา
“คนพี่ก็สวยนะคะ ออกแนวหวานๆ ส่วนคนน้องยังเด็กอยู่ออกแนวสดใส หน้าคมกว่าพี่สาวค่ะ”
“แล้วฉันจะเลือกคนไหนให้ตาภูดีล่ะเนี่ย” คุณหญิงกรรณิการ์พึมพำสับสน
“นี่คุณท่าน... จะเลือกสองพี่น้องนี่ให้มาเป็นนางบำเรอของคุณภูเหรอคะ”
“ชูว์... จะเอ็ดไปทำไมแม่ปรานี เดี๋ยวคนอื่นก็แตกตื่นกันพอดี”
ปรานียกมือขึ้นปิดปาก แต่ก็ยังอดที่จะถามด้วยความสงสัยไม่ได้
“ก็อิฉันตกใจนี่คะ ไม่คิดว่าคุณท่านจะมีความคิดนี้”
“ฉันอยากจะให้ตาภูแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียทีน่ะ แต่เธอก็รู้น่ะว่าตาภูนิสัยยังไง ถ้าหาผู้หญิงสวยๆ ชาติตระกูลดีทั่วๆ ไปมาตบแต่งด้วยก็คงจะตีกันบ้านแตก เพราะตาภูไม่มีทางเลือกนิสัยเจ้าชู้”
“ดังนั้นคุณท่านก็เลยจะซื้อผู้หญิงหัวอ่อน ว่านอนสอนง่ายมาเป็นเมียคุณภูแทนใชไหมคะ”
“เธอนี่รู้ใจฉันดีนะ แม่ปรานี”
ปรานียิ้มออกมา แต่ก็ยังรู้สึกเป็นกังวล
“แล้วคุณท่านจะเลือกสองพี่น้องนี่เหรอคะ ไม่ดูๆ คนอื่นก่อนเหรอคะ”
“ก็บรรดาลูกหนี้ของฉัน มีแม่วาสนากับแม่นพรัตน์สองคนที่มีลูกสาวไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ค่ะ ลูกสาวของแม่นพรัตน์ก็มีผัวไปหมดแล้ว ตอนนี้กำลังตั้งท้องลูกคนที่สองด้วยค่ะ”
“ก็นั่นไง ฉันก็เลยต้องมาเลือกลูกสาวของแม่วาสนา”
“แล้วทำไมต้องเอาลูกสาวของคนที่เป็นหนี้ด้วยล่ะคุณท่าน อิฉันว่าผู้ชายโปรไฟล์ดีระดับคุณภู มีผู้หญิงยืนรอให้เลือกตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่นั่นแหละค่ะ”
“ฉันต้องการลูกสาวของลูกหนี้ ก็เพราะว่าฉันจะได้เอาหนี้มาเป็นข้อต่อรองยังไงล่ะ แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะได้ไม่มีปากไม่มีเสียงเวลาฉันสั่งให้ทำอะไร”
ปรานีพยักหน้ารับหงึกๆ เข้าใจความคิดของเจ้านายอย่างถ่องแท้เลยตอนนี้
“แล้วคุณท่านจะเลือกคนพี่หรือคนน้องล่ะคะ”
“ฉันไม่รู้ เธอไปหารูปถ่ายของเด็กสองคนนี้มาหน่อย ฉันจะเลือก”
“ได้ค่ะ แต่ว่าถ้าหากคุณภูไม่ถูกใจคนที่คุณท่านเลือกจะทำยังไงล่ะคะ”
“ฉันก็แค่จะเลือกก่อนเท่านั้น ส่วนคนตัดสินใจคือตาภูนั่นแหละ”
“ค่ะ คุณท่าน”
“ไปจัดการหารูปของสองคนนั้นมาให้ฉันให้ได้ภายในวันนี้นะแม่ปรานี ฉันต้องการทำทุกอย่างให้เร็วที่สุด ป้องกันตาภูเปลี่ยนใจ”
“ได้ค่ะคุณท่าน งั้นอิฉันขอตัวไปทำตามคำสั่งก่อนนะคะ”
“อืม ไปเถอะ”
ปรานีคนสนิทเดินหายออกไปแล้ว คุณหญิงกรรณิการ์ก็พึมพำออกมาอย่างมีความหวัง
“ขอสิ่งที่ลูกหวังสำเร็จด้วยเถอะ”
ดาหลาก้มลงมองกระเป๋าสะพายข้างใบกลางเก่ากลางใหม่ของตัวเองหลายครั้ง เพราะมีเงินจำนวนห้าพันบาทอยู่ในนั้น
วันนี้หล่อนก็ยังหางานทำไม่ได้ ทำได้แค่เพียงเขียนใบสมัครทิ้งเอาไว้เท่านั้น ส่วนเงินจำนวนห้าพันบาทนี่ หล่อนหยิบยืมมาจากเพื่อนสนิท แต่ก็รับปากว่าจะเอาเงินไปคืนภายในหนึ่งอาทิตย์ ซึ่งตอนนี้หล่อนก็ยังนึกหาวิธีหาเงินจำนวนห้าพันบาทไปคืนเพื่อนไม่ได้เลย
หญิงสาวเดินเท้ามาหยุดอยู่ฝั่งตรงกันข้ามของรั้วบ้านหลังใหญ่ ซึ่งรู้จากมารดาว่าที่นี่คือคฤหาสน์ของคุณหญิงกรรณิการ์เจ้าหนี้ของครอบครัว
ปิ้นนนนน!!!
เอี๊ยดดดด!!!
หล่อนจำได้ว่าตัวเองมองหล่อนซ้ายขวาดีแล้ว และก็กำลังก้าวเดินข้ามถนนเพื่อจะเดินไปหยุดที่หน้ารั้วบ้านของเจ้าหนี้ แต่จู่ๆ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูง และก็ทำท่าจะพุ่งชนร่างของหล่อน
หล่อนตกใจมากจนแทบช็อก ขาอ่อนแรง และล้มลงก่อนที่รถจะชนเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น มือเล็กยกขึ้นปิดหน้า น้ำตาไหล เพราะคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย แต่แล้วรถก็หยุดลงก่อนที่จะถึงร่างของหล่อนแค่คืบเดียวเท่านั้น
“อะไรวะ!”
เสียงของเจ้าของรถดังขึ้นหลังจากเสียงปิดประตูรถดังกังวาน หล่อนลดมือลงจากใบหน้า และช้อนตามองเจ้าของเสียงเกรี้ยวกราด
เขาหล่อมาก...
ดวงตาของเขาสวยจัง และมันก็หวานมากๆ ด้วย ส่วนปากของเขาสีแดงระเรื่อ และก็หยักเป็นรูปสวย ใช่... มันสวยกว่าปากของหล่อนเสียอีก
หล่อนมองเขาราวกับหญิงไร้สติ จนกระทั่งพ่อสุดหล่อแต่ทำฟาร์มสุนัขเอาไว้ในปากโน้มตัวลงมาหา และก็ด่าทอไม่ไว้หน้า ความหล่อเหลาจึงถูกความหยาบช้ากลบทับจนมิดชิดไม่เหลืออีกเลย
“เด็กบ้า มาจากบ้านนอกหรือไงวะ ถึงเดินเซ่อซ่าไม่ดูตาม้าตาเรือแบบนี้!”
หล่อนเม้มปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะกัดฟันลุกขึ้นยืน ความเจ็บแปลบเกิดขึ้นที่บริเวณข้อเท้าจนยืนได้ไม่เต็มฝ่าเท้านัก
“ฉันขอโทษค่ะ”
“ขอโทษแล้วมันหายไหม นี่ถ้าฉันเบรกไม่อยู่ แล้วชนเข้ากับตัวของเธอ รถของฉันก็เป็นรอยหมดน่ะสิ”
หล่อนเผยอปากค้าง ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนี้จะคิดแบบนี้ได้จริงๆ
เขาควรจะเป็นห่วงคนที่ถูกรถชนสิ ไม่ใช่มาห่วงรถของตัวเองแบบนี้
“ฉันขอโทษค่ะ ที่ไม่ทันระวัง”
ผู้ชายตัวสูง แต่งตัวดีตรงหน้า มองหล่อนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
“นี่อย่าบอกนะว่าเป็นคนใช้ที่นี่”
ใบหน้าของหล่อนเห่อร้อนเมื่อถูกสายตาคมกริบมองมาอย่างดูแคลน
“เปล่าค่ะ”
“ดีแล้วล่ะ เพราะถ้าเธอเป็นคนใช้ที่นี่ ฉันคงจะต้องไล่เธอออก โทษฐานโง่”
หล่อนกัดปากจนเจ็บ ทำอะไรผู้ชายคนนี้ไม่ได้เลย นอกจากยืนน้ำตาซึม
“ภูขา... ขึ้นรถเถอะค่ะ แอนอยากเข้าไปกราบคุณย่าคุณจะแย่อยู่แล้วค่ะ”