บทที่ 3 ผู้หญิงหน้าเงิน

1367 คำ
บทที่ 3 ผู้หญิงหน้าเงิน “ยัยสิบแปดมงกุฎ!” อัลเฟรดพูดเสียงลอดไรฟัน นัยน์ตายังคงฉายแววความไม่พอใจร่างบางที่อยู่ตรงหน้าอย่างแรง “หากคิดว่าจะหาจับผู้ชายด้วยวิธีแบบนี้ เลิกซะ!” ชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลายังคงพูดจาดูถูกเหยียดหยาม ร่างสูงไม่อยากจะเสียเวลาอยู่ที่นี่ต่อจึงลุกออกไปโดยไม่สนใจมารดา คุณหญิงวาสนาเห็นลูกชายเดินออกไปแล้ว แต่ไม่ลืมที่จะเอ่ยปากขอโทษหมอดูน้อยที่ลูกชายพูดจาดูถูกเธอ “เอ่อ ขอโทษด้วยนะจ้ะ พอดีว่าลูกชายของฉันไม่ถูกกับการดูดวงเท่าไหร่จ้ะ อย่าถือสาเลยนะ เดี๋ยวเงินที่เหลือจะโอนให้เต็มจำนวนจ้ะ” “ค่ะ” เจ้าของตำหนักบุพเพตอบ คุณหญิงยิ้มวาสนาให้ร่างบางที่อยู่ตรงหน้า แล้วเดินออกไปตามลูกชาย ตอนนี้อัลเฟรดสตาร์ทรถคันหรูไว้รอแล้ว ใบหน้าหล่อเหลายังคงบูดบึ้งอย่างไม่สบอารมณ์ ผู้เป็นแม่ได้แต่ถอนหายใจออกมา ค่อย ๆ พูดกับลูกชายอย่างใจเย็น “อัลเฟรด…” “…..” “แม่หวังดีนะ…ถึงพาลูกมาที่นี่” “หือ? หวังดีคงไม่พาผมมาที่นี่หรอก แม่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบ และผมก็ไม่เชื่อ หากแม่เชื่อแม่ก็มาที่นี่เพียงคนเดียว” นี่คงเป็นประโยคที่ชายหนุ่มพูดยาวที่สุดในชีวิต “แต่แม่เชื่อ…” “….” อัลเฟรดถึงกับพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าอะไรครอบงำแม่ของเขาอยู่กัน ไปเชื่อคำพูดของหมอดูมากกว่าคำพูดของลูกตัวเอง ณ ตำหนักบุพเพ ร่างบางได้แต่ชะงักนิ่งกับคำต่อว่าของชายหนุ่มหน้าตาดีเมื่อครู่ ไม่เชื่อก็ไม่เห็นต้องพูดจาดูถูกขนาดนี้เลยนี่ การทำอาชีพนี้ของมิชรินทร์เป็นอาชีพสุจริต ไม่ได้หลอกลวงเสียหน่อย “เฮ้อ” คนตัวเล็กถอนหายใจออกมา เธอพึ่งเคยพบเจอคนที่ปากหนักเช่นนี้เป็นคนแรก “โอเคไหมลูก” แม่ลดาถามลูกสาวอย่างเป็นห่วง เมื่อนัยน์ตาลูกสาว คนสวยแสดงถึงความไม่สบายใจ ร่างเล็กที่ได้ยินแม่ของตนเอ่ยปากถาม ใบหน้ายามก็ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ จากนั้นส่งยิ้มให้มารดาของตน “โอเคค่ะ” “งั้น เราไปช็อปปิ้งกันดีกว่านะคะ” แม่ลดายิ้มพร้อมกับฉุดข้อมือบางของลูกสาวให้ลุกขึ้น “ค่ะ” ร่างเล็กยิ้มรับ เมื่อนึกถึงกระเป๋าใบหรูในช็อป ก็ทำให้ใบหน้าคลายความกังวลออกมา ใช้เวลาเดินทางมาห้างสรรพสินค้าเพียงครึ่งชั่วโมง สองแม่ลูกตำหนักบุพเพก็ได้มาถึงช็อปกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง “อยากได้ใบไหนหยิบได้เลยลูก” แม่ลดายังคงตามใจลูกสาว “วันนี้หนึ่งใบเหมือนเดิมใช่ไหมคะ” คนตัวเล็กเอ่ยปากถามผู้เป็นแม่ ใบหน้ายิ้มแย้มดวงตาฉายแววตื่นเต้นไม่น้อย “จ้ะ เดี๋ยวแม่ขอตัวไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะลูก เดี๋ยวรินเลือกไปก่อน” สิ้นคำพูดของแม่ลดาดวงตากลมโตได้กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สะดุดตากับกระเป๋าใบหนึ่ง ใช้วัสดุอย่างดี พร้อมด้วยคัตติ้ง หรือการตัดเย็บอย่างประณีตและพิถีพิถันอย่างเห็นได้ชัด ทั้งเรื่องฝีเข็ม รอยตะเข็บที่สม่ำเสมอ ความต่อเนื่องของลายผ้า ความคมชัดของลายสกรีน รูปทรงของกระเป๋าที่ได้สัดส่วนเท่ากัน แถมสีโทนอ่อน เป็นสีที่เธอชอบพอดี มุมปากของมิชรินทร์ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ ลืมเรื่องราวก่อนหน้านี้ไปจนหมดสิ้น กระเป๋าที่อยู่ตรงหน้าน่าสนใจมากกว่าเรื่องของทายาทตระกูลอัลนั่น แม้มิชรินทร์จะรู้สึกชื่นชอบเขาตั้งแต่แรกพบ ทว่าเมื่อเห็นพฤติกรรมของเขาแล้ว คนตัวเล็กขอเป็นโสดเสียดีกว่า จากนั้นมือเรียวบางจึงเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาดูใกล้ ๆ ทว่ากลับถูกมือใครบางคนคว้าไปเสียก่อน หมับ! มิชรินทร์หันขวับไปมองทันที กลับพบว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งหน้าตาสะสวย ใส่เดรสสีแดงสด ริมฝีปากยกยิ้มขึ้นมาอย่างมีชัย ด้านข้างของหญิงคนนั้นมีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นทายาทตระกูลอัลคือ อัลเฟรด คนตัวเล็กไม่สนใจอะไร แต่เอ่ยปากจะขอกระเป๋าใบนั้นจากผู้หญิงตรงหน้า “คุณคะ กระเป๋าใบนี้ฉันกำลังจะหยิบ แล้วคุณมาฉวยโอกาสหยิบตัดหน้าฉันได้ยังไงกัน” “อะไรกันกระเป๋าใบนี้เป็นของฉัน” หญิงสาวยืนกราน “จะเป็นของคุณได้ยังไงคะ ในเมื่อฉันมาดูไว้ก่อนคุณอีก…” คนตัวเล็กเถียงอย่างไม่ลดราวาศอก กระเป๋าใบนั้นเธออยากได้มันจริง ๆ อัลเฟรดปรายตามองมิชรินทร์ด้วยใบหน้าที่ราบเรียบ ส่วน สาวสวยที่มาด้วยรับรู้ได้ว่าอัลเฟรด ชายที่แม่ของเขานัดบอร์ดมาให้ ไม่ชอบหญิงสาวตรงหน้าของเธอ เธอจึงได้เอ่ยปากสุมไฟในใจของอัลเฟรดต่อไป “เฟรด ดูสิคะ แม่หนูคนนี้เถียงเก่งจัง ฉันหยิบก่อนแท้ ๆ” สาวสวยพูดจีบปากจีบคอ แล้วถือวิสาสะควงแขนของอัลเฟรด ร่างสูงปรายตามองหญิงสาวเล็กน้อยแล้วชักมือกลับ เขาไม่ชอบให้ใครทำตัวป็นเจ้าของ ถึงแม้จะเคยแอบกินกันลับ ๆ ก็ตาม แต่เพียง ครั้งเดียวเท่านั้น อัลเฟรดไม่นิยมกลับไปกินอีก ถึงแม้ทายาทตระกูลดังจะไม่ชอบหมอดูน้อยคนนี้ ทว่ารตีไปแย่งจากมือของมิชรินทร์จริง ๆ สาวสวยที่โดนอัลเฟรดชักมือกลับ ใบหน้าซีดเผือดอย่างเห็น ได้ชัด แต่ยังคงเชิดใบหน้าเพื่อรักษาความเย่อหยิ่ง ทะนงตัวไว้ เมื่อพนักงานสาวเห็นว่าลูกค้าทะเลาะกัน จึงได้รีบปรี่เข้ามาเพื่อห้าม พร้อมกับสอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น “คุณลูกค้า ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ” พนักงานสาวถามอย่างนอบน้อม “คือกระเป๋าใบนี้ค่ะ ฉันเห็นก่อน แล้วคุณผู้หญิงคนนี้หยิบไปต่อหน้าต่อตาฉันเลยค่ะ” คนตัวเล็กพูด “ฉันหยิบก่อนค่ะ เธอแค่มองเฉย ๆ เพราะฉะนั้นมันคือของฉันค่ะ” สาวสวยแย้ง “ได้ไงคะ เมื่อกี้รินดูอยู่…” “ทำไมจะไม่ได้ มือใครยาวสาวได้สาวเอาไม่เคยได้ยินเหรอ?” รตีเถียงอย่างไม่ลดละ ทำให้พนักงานสาวแสดงสีหน้าลำบากใจออกมา คนหนึ่งลูกค้าประจำ ส่วนอีกคนลูกค้า VIP ร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ กรอกตามองบนด้วยความรำคาญ ด้วยเหตุผลนี้แหละที่ทำให้เขาไม่ชอบคบหากับผู้หญิง มีไว้เพื่อสนองตัณหาเท่านั้น ในที่สุดคนพูดน้อยอย่างอัลเฟรดก็พูดขึ้นมาบ้างเพื่อหยุดความน่ารำคาญนี้ “ผมซื้อไว้แล้วไม่ใช่ของใครทั้งนั้น” เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งพร้อมกับ ยื่นใบเสร็จให้กับพนักงาน เดิมทีกระเป๋าใบนี้เขาได้สั่งจองไว้นานแล้ว เพื่อมอบเป็นของขวัญให้คุณแม่ในวันเกิด และวันนี้จึงถือโอกาสมารับกระเป๋าทีเดียว เนื่องจากคุณแม่นัดบอร์ดไว้ ดังนั้นสาวสวยจึงอยากเดินมารับกระเป๋าด้วย แต่คิดไม่ถึงว่าจะเจอหมอดูน้อยที่เอาความเชื่อของคนมาทำมาหากินจะติดหรูถึงเพียงนี้ “จริงด้วยค่ะ กระเป๋าใบนี้คือของคุณอัลเฟรด” เมื่อได้ยินคำพูดของพนักงาน ทำให้มิชรินทร์คอตก ใบหน้าง้ำงอ อุตส่าห์อยากได้ใบนี้แท้ ๆ “ในเมื่อเป็นของคุณเอาไปเถอะค่ะ เดี๋ยวรินไปดูใบอื่น” ร่างสูงยังคงมีใบหน้าที่เคร่งขรึมไม่พูดอะไรออกมาจากนั้นเขาจึงเดินไปนั่งรอพนักงานหยิบกระเป๋าใส่ถุงให้ ในใจของอัลเฟรดได้แต่คิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีทางที่จะเป็นเนื้อคู่ของเขาได้ เธอไม่ใช่สเปคของเขาเลยด้วยซ้ำ ดูท่าทางก็ไม่ เฉลียวฉลาด ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมคน คงมีเหตุผลเดียวที่เธอพูดว่าเธอคือ เนื้อคู่ของเขา เพราะเธอต้องการจับผู้ชายรวย อยากรวยทางลัด นั่นเป็นสิ่งที่อัลเฟรดเกลียดที่สุด ผู้หญิงหน้าเงิน!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม