ตอนที่ 7
หญิงสาวเริ่มมีอาการเคลิ้มหลังจากดื่มน้ำในแก้วที่มียาปลุกสวาทไปได้ไม่นาน
ถึงแม้จะไม่ได้หยดยาลงไปแบบหมดขวด แต่เขาก็เห็นว่ามันออกฤทธิ์บ้างแล้ว ดวงตาเฉียบคมตวัดมามองทางเขาอย่างเสน่หา แต่กระนั้นก็มีสายตาแห่งความไม่พอใจของผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ยังมองมาทั้งคู่ก็มีอยู่ไม่น้อย
“ถ้าน้องขวัญเริ่มเบื่อบรรยากาศในงาน งั้นเราออกไปนั่งข้างนอกคุยกันดีมั้ยครับ” ปานเทพเสนอเมื่อเริ่มเห็นอาการของเธอ เพราะเขากลัวว่าถ้าช้ากว่านี้ยาจะหมดฤทธิ์เสียก่อน
“ขวัญว่าเราไปหาที่ดื่มกันต่อดีกว่ามั้ยคะ..ที่ไหนก็ได้” เธอพูดมาแบบนี้ก็แน่ล่ะ เธอต้องเริ่มมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว! ปานเทพคิดในใจ
ปานเทพเดินเชิดหน้าพาหญิงสาวออกไปจากงานเลี้ยง ท่ามกลางความอิจฉาของหน่มๆอย่างเป็นที่สุด
ขวัญจิรานั้นบิดาของเธอแต่งงานใหม่ ส่วนแม่ของเธอก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ เธอจึงไม่ค่อยได้ความรักจากบิดาและมารดาเท่าที่ควร นอกจากเงินที่ท่านทั้งสองให้เธอใช้อย่างฟุ่มเฟือยเท่านั้น จึงทำให้ขวัญจิราคอยใช้เสน่ห์ที่มีในตัวเพื่อแสวงหาความรักมาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป
วีรภาพหนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่นหนาที่ติดตามขวัญจิรามางานนี้ ตั้งแต่ตอนหัวค่ำ เขารีบเดินเข้าไปขวางเมื่อเห็นทั้งคู่กำลังจะเดินออกจากงานไปพร้อมกัน
ชายหนุ่มรุ่นน้องแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความไม่พอใจในตัวของปานเทพ ที่อยู่ ๆ ก็มาชุบมือเปิบ เขาเอ่ยถามขวัญจิราด้วยเสียงสั่นรัว
“คุณขวัญจะไปไหนครับ” วีรภาพเอ่ยถาม ขวัญจิรากำลังอยู่ในอารมณ์ต้องการเป็นที่สุด พอเห็นวีรภาพหนุ่มหน้าตี๋ที่เดินมาขวาง เธอก็รีบระเบิดอารมณ์ใส่เขาทันที
“ขวัญจะไปไหน คุณจะยุ่งอะไรด้วย..ถึงเวลากลับของคุณแล้ว ก็กลับไปสิคะ ขวัญกลับเองได้ คุณไม่ต้องไปส่งหรอก” พูดจบหญิงสาวก็เดินออกไป ปานเทพหันมายักคิ้วกับวีรภาพ เขาหน้าแดงก่ำเพราะความโกรธ ที่เสียขวัญจิราไป จากนั้นได้ไม่นานวีรภาพแอบขับรถตามทั้งคู่ไปห่าง ๆ
วีรภาพตัดสินใจโทรหาอภิสราให้ไปดูปานเทพที่ห้องนอน เพราะเขาเริ่มขับรถตามปานเทพไม่ทัน
“เชื่อผมเถอะครับ”
“แล้วคุณเป็นใครคะ ได้เบอร์ฉันมาได้ยังไง”
“คุณไม่ต้องรู้หรอกครับ รู้ว่าผมเป็นผู้หวังดีก็พอ” วีรภาพนั้นได้เบอร์ของอภิสรามาจากเพื่อนสาวของเธอที่มหาลัยเพราะรู้ว่าปานเทพนั้นคอยมาแย่งจีบขวัญจิรา ทั้ง ๆ ที่เขามีคู่หมั้นอยู่แล้ว
“อย่าลืมไปดูนะครับ ถ้าคุณไม่ไปตามที่ผมบอก แล้วคุณจะเสียใจ”