ทะเลร่านอารมณ์

ตอนที่ 6

อย่างที่โถมทรัพย์รู้ดีแก่ใจ เขาเลยเงียบกริบไม่มีเสียง ขั้นตอนที่ฉันอยากให้ผ่านไปโดยไวนั้น คือเจ้าหน้าที่ซักถามอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องที่จะให้ประนีประนอมไกล่เกลี่ยกัน ไม่มีทางหรอกดิฉันยืนยันคำเดิม

"จะหย่าค่ะ คำเดียวคือดิฉันจะหย่า"

เท่านี้เป็นอันจบดิฉันเซ็นชื่อแกร็กเดียวแล้ว

เราเอาใบทะเบียนหย่าติดตัวมาหนึ่งใบ แล้วก็เดินตัวปลิวออกมาแบบไม่สนใจอะไรแล้วทั้งนั้นบ่งบอกได้ว่าดิฉันเป็นอิสระ ขาดจากผู้ชายห่วยๆ

ถ้าดิฉันจะเริ่มต้นกับใครดิฉันก็ทำได้ แต่ขอเวลาสักระยะหน่อย ส่วนโถมทรัพย์ก็เอาทะเบียนของเขาไป และไม่มีการพูดคุยกันอีก ส่วนสินสมรสเรื่องบ้านดิฉันขอร้องเขาแล้วตั้งแต่แรกเริ่มให้ยกให้ลูกสาว

เพราะเงินทองมากมายหลายสิบล้านที่ดิฉันเคยให้เขาก็มากโข ส่วนตัวเขาเงินเดือนจากการทำงานก็ตำแหน่งสูง ดีที่เขายอมเชื่อ และคิดว่าเงินในตอนนี้มันไม่มีความหมายสำหรับเขา เพราะเขารวยพออยู่แล้วเหมือนกับดิฉัน

ผมพาตัวเองออกจากจากเขตด้วยหัวใจที่แตกสลาย รู้ดีว่า ผลนั้นเป็นอย่างไร มือถือทะเบียนหย่าที่ได้รับกันคนละใบกับด้าที่กลายเป็นอดีตภรรยา

ผมจำนนกับความชั่วของตัวเอง ที่ได้เกิดเรื่องในวันนี้ เป็นเรื่องที่ผมไม่อยากให้เกิด แต่มันทานต้านไม่ได้ดูเหมือนเป้าหมายของดวงตราคือหย่าจากผมเสียให้ได้

"หย่าแล้ว กลับกันเถอะค่ะ บอสขา"

เสียงนุชาดาดังมาใกล้หูหลังจากที่หล่อน แต่งชุดสวยงาม นั่งอยู่ในรถเพื่อรอเขากลับมา รอยยิ้มบนใบหน้าของหล่อน ระบายอย่างเต็มที่ เมื่อทั้งคู่หย่าขาดจากกัน หล่อนก็มีสิทธิ์ทำอะไรเต็มที่

แต่หล่อนไม่พูดหรอก สิ่งนี้เขาย่อมรู้

กลับไปถึงห้อง หล่อนจะเตรียมฉลองให้ใหญ่ทีเดียวกับเพื่อนฝูง แต่จะมากับฉลองกับบอสคงไม่ได้หรอก โถมทรัพย์ไม่มีอารมณ์ระรื่นชื่นมื่นกับหล่อนแน่ เขาอาจจะไล่ไปก็ได้ เพราะระคายเคืองใจ ผู้ชายคนนี้

ถ้าเดือดดุ เขารำคาญ ทำอะไรให้เขาไม่พอใจเขาก็ไล่ทันที มิใช่ว่าหล่อนไม่เคยพบเจอ แต่พอเจอมาแล้วไง จึงทานทนเตรียมรับกับสิ่งที่เขาเป็นอยู่

เพราะหล่อนจะต้องจับจุดของเขาให้ได้ ว่ามีความต้องการแบบไหนไม่ต้องการแบบไหน เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ให้แก่ตัวเอง ตอนที่อาจจะถูกเขาเฉดหัวออกมาจากชีวิต

ผู้ชายอย่างโถมทรัพย์หนักในเรื่องกามารมณ์เป็นส่วนใหญ่ ถ้าหล่อนป้อนปรุงเสพให้เขาอิ่มจนถึงที่ ถึงอารมณ์ เขาจะหมดพยศไปเอง

หล่อนเริ่มสะสมและเก็บพฤติกรรมของเขาในใจ เมื่อจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายแบบนี้ หล่อนจะไม่ยอมเป็นลูกไก่ในกำมือของเขาง่ายหรอก

เมื่อโถมทรัพย์ยื่นให้ หล่อนก็เสนอและสนอง ถ้าริจะจับผู้ชายมีฐานะมีอะไรทุกอย่าง หล่อนต้องทำอย่างนี้

"นุชเป็นเมียของบอส เต็มที่แล้วนะคะในตอนนี้ ไม่มีใครม าเป็นส่วนแบ่งหรือส่วนเกิน"

ฉันลองใช้คำนี้กับเขา

"ใครว่าล่ะ นุช เธอรู้จักฉันน้อยไป อย่างเธอก็เศษผู้หญิงข้างเตียง"

"นี่แสดงว่าบอสยังไม่พอใจ จะไปมีคนอื่นอีกใช่มั๊ย"

"แล้วจะรู้ไปทำไม"

เสียงของเขาดังเข้มเหมือนตวาด ทำให้นุชาดาที่รู้สึกไม่พอใจหยุดกึก น้ำมันตอนนี้ หากราดใส่ในกองไฟอย่างใจของโถมทรัพย์มันลุกลามวอดวายแน่ หล่อนนิ่งตรึกตรองเก็บเอาไว้ในใจ

ทั้งที่มันจะระเบิดพลุ่งพล่านด้วยคำพูดของเขา ที่เขาไม่หยุดเสพกามารมณ์ เขาจะมีผู้หญิงอื่นต่อไป คำพูดของเขาช่างท้าทายนัก ผู้ชายแสนเลวคนนี้

แต่หล่อนหลงรักเขาเข้าไปแล้ว ทั้งที่มีผู้ชายที่ดีกว่านี้ถมถืดไป แต่เขาเป็นแบดแมนที่หล่อนรัก

เป็นผู้ชายเถื่อนที่หล่อนหลง มันห้ามใจตัวเองไม่ทันเหมือนกันสำหรับนุชาดา ไม่งั้นคงไม่เป็นแบบนี้หรอก

ดิฉันหอบความสุขเก็บกลับมาบ้านเต็มสีหน้า หมดเรื่องไปละเปลาะหนึ่งเกี่ยวกับผู้ชายในชีวิตที่ถูกโละทิ้ง โถมทรัพย์หมดคุณค่าในตัวของดิฉันแล้ว

กลับหันมาอาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งในฐานะของผู้บริหาร ที่ดิฉันจะเข้าไปในที่ทำงานประมาณสิบโมง ทีนี้เริ่มงานอย่างเต็มที่ ดิฉันเป็นคนเข้มงวด และเนี้ยบกับทุกอย่าง รวมทั้งละเอียดลออ

ค่าที่มีประสบการณ์สูงมาพอสมควร บ้านที่ว่าคือคฤหาสน์นะคะ มีลูกสาวอยู่ เอวิตาไปโรงเรียนก่อนดิฉัน

แล้วโดยมีลุงเสม คนขับรถประจำ ที่โรงเรียนนานาชาติย่านสุขุมวิทเป็นประจำ ดิฉันพกพามาด้วยความมั่นใจอีกครั้ง

ในชุดสูททำงานสีเทาอ่อนส่วนเสื้อและกระโปรงเป็นลายจุดสีฟ้าขาว บนที่ทำงานชั้นยี่สิบสอง ของอาคารสำนักงานหรูบนถนนสุขุมวิท

แห่งนี้ พนักงานยกมือ ไหว้ดิฉันและทักทายอย่างเคยชิน เมื่อก้าวเข้ามา สู่ห้องส่วนตัว ที่ดิฉันขึ้นเป็นตำแหน่งประธานบริษัทในปัจจุบัน

มีหน้าที่จัดการทุกอย่าง หลังจากที่คุณพ่อขอเกษียณตัวเองเมื่อสามเดือนก่อน

นี่คือการทำงานอย่างเต็มที่ของดิฉันวันเวลาที่ล่วงผ่านไป ถือว่าแค่วันเดียวก็คือดีต แต่นี่ผ่านไปตั้งเกือบอาทิตย์กว่า

ดิฉันมีความทรงจำใหม่ค่ะ เพราะที่นี่คือใจกลางเมืองหลวง ที่ดิฉันจากเมืองริมทะเลและชายหาดมาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

แต่ก็บอกโฉมวลีเจ้าของโรงแรมว่าถ้าว่างก็จะแวะไปเยี่ยมอีกครั้ง แต่วันคืนเหล่านั้นไม่แน่ ดิฉันอาจจะติดภารกิจครั้งใหญ่ที่หนักหน่วง

ดูเหมือนว่าในมือถือของดิฉันจะเซฟเบอร์ของหลานชายแฟนของโฉมวลี

เพราะชื่อมีบอก แต่ดิฉันยังไม่ตัดสินใจโทร.หา ด้วยคิดว่ายังไม่มีความจำเป็น ที่จะชวนเขาไปทำกิจกรรมอะไร

เช่นช้อปปิ้งหรือทานอาหาร

แต่ความเสน่ห์แรงของดิฉัน คุณรู้ไหมคะ ผู้ชายที่มาติดพันดิฉัน

ณขณะนี้และอดีตที่ผ่านไป มีหลายคนเชียว

แต่ดิฉันไม่ค่อยจำและจดเพราะผ่านมาและผ่านไป หมายถึงเขามาเทียวจีบดิฉันแล้วก็ผ่านไปแบบไม่มีอะไรคืบหน้า ซึ่งมีหลายรายที่เป็นแบบนี้ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ดิฉันยิ่งไม่รู้ค่ะ

แต่บางคนคิดว่า จีบไฮโซอย่างดิฉันคงจะติดง่าย ยิ่งดิฉันกำลังตกพุ่มม่ายเป็นแม่กระดังงาติดกลิ่นคาว แหม ผู้ชายหลายคนรีบมาตอมเชียว

แต่ในลิสต์รายชื่อที่ดิฉันมีเป็นผู้ชายที่ควรคบ แต่ในฐานะเพียงเพื่อนนะคะ เพราะตอนนั้นดิฉันยังมีโถมทรัพย์เป็นสามี

หมายถึงผู้ชายที่อ่อนโยนมีลักษณะสุภาพ ใจเย็น ติดเคร่งขรึม ดูเป็นผู้ใหญ่กว่า มีสองคนค่ะ คือ ปูชิต กับโสรัตน์

แต่นั่นก็เพียงคิดเท่านั้นนะคะ เพราะดิฉันไม่ได้คิดเกินไกลไปเลย

แต่ว่าตอนนี้ หัวใจมันชักรู้สึกกระชุ่มกระชวยอย่างแปลกประหลาด เป็นมาตั้งแต่อีตอนเจอหนุ่มตาน้ำข้าวลูกครึ่งอย่างวิธูวิทย์แล้ว

เขาอ่อนกว่าดิฉันแน่ค่ะ แต่ดูแล้วเหมือนทางเขาไม่มีปัญหา เขาเปิดเผยแสดงตนออกขนาดนั้น

เหมือนรายชาวต่างประเทศคนอื่นๆที่เดตใครเลือกแต่งงานใคร ไม่ได้ถือเอาอายุเป็นที่ตั้ง เขาแสดงให้เห็นเลยว่า สนใจดิฉัน อยากจะจีบด้วย ยิ่งบอกว่าดิฉันหย่าขาดจากสามีแล้ว เก็บเรื่องนี้ไว้ก่อนเถอะค่ะ

ดิฉันกำลังทรุดนั่งบนเก้าอี้ทำงาน เรื่องรักพักไว้ก่อน ปวดหัวเหลือเกิน และอีกอย่างเดี๋ยวใครจะหาว่าแหม หย่ากับผัวไม่ทันเท่าไรก็ระริกระรี้อยากจะมีใหม่จนตัวสั่น

ไม่หรอกค่ะ โปรดอย่าประณามดิฉันถึงขั้นรุนแรงอย่างนั้น

ดิฉันอยากให้จังหวะมันค่อยๆก้าวไป ทีละขั้น มีเรื่องอื่นถมเถเยอะแยะ

ที่ดิฉันควรจะคิดนี่คะ เช่นเรื่อง

การเจ็บป่วยของคุณพ่อ ที่สองวันใกล้จะถึงท่านมีนัดตรวจสุขภาพ

เช่นเดียวกับคุณแม่ ท่านไปพร้อมกัน เย็นนี้ดิฉันเห็นทีจะต้องแวะไปที่บ้านแถวซอยศูนย์วิจัยหน่อย

เย็นวันนั้นดิฉันได้ถือโอกาสไปรับเอวิตาลูกสาวคนเดียวด้วยตัวเอง

และโทร.บอกนายเสมแล้ว เพราะดิฉันจะพาลูกสาว ไปบ้านคุณแม่แถวซอยศูนย์วิจัย

"ไอวี่จ้ะ นั่นคุณแม่เธอมารับแล้ว"

เสียงเพื่อนของเอวิตาหรือไอวี่ที่เพื่อนๆในโรงเรียนนานาชาติเอ่ยเรียกกัน

ความจริงเอวิตามีชื่อเรียกสามชื่อด้วยซ้ำทั้งคำว่า วิตา หรือเรียกตามตรงแบบทางการเอวิตา

และไอวี่ทีลูกสาวของดิฉันให้เพื่อนๆในโรงเรียนเรียก