“ฝ่าบาท กระหม่อมเข้าใจว่าพระองค์รู้สึกเช่นไร กระหม่อมเองก็คิดถึงพี่หญิงยิ่งนัก กินไม่ได้นอนไม่หลับ คิดวนเวียนถึงแต่วันวานอันแสนสุข” อวี้เจินหยางแสร้งบีบน้ำตาต่อหน้าพระพักตร์ ปากพร่ำเล่าถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างตนและฮองเฮาเฟยอวี่ “คุณชายอวี้ ข้อเสนอของเจ้าข้าเข้าใจ แต่ว่า...บุตรชายข้าถูกวางตัวให้แต่งกับสกุลถาน” “ฝ่าบาท แม้ใต้เท้าเป่าเหยียนจะบอกว่าสกุลถานไร้ข้อกังขา แต่เชื่อได้หรือว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการตายของพี่สาวกระหม่อม ฝ่าบาททรงอย่าลืมนะพ่ะย่ะค่ะ คุณหนูใหญ่อยู่ใกล้ชิดกับฮองเฮาที่สุด นางจะไม่รู้ไม่เห็นอะไรเลยหรือ” “คุณชายอวี้กล่าวเช่นนี้ ต้องการจะกล่าวหากันหรือ” จู่ๆ เยว่เฉิงพลันเดินเข้ามาในโถงพระโรง เขาจ้องมองอวี้เจินหยางด้วยแววตาไม่เป็นมิตร ก่อนถามซ้ำ “ข้าถาม ทำไมไม่ตอบ” “เยว่เฉิง! นี่ท่านอาเจ้านะ” ฮ่องเต้ฝูเย่าเอ่ยปรามบุตรชาย “เสด็จพ่อ ลูกทราบเรื่องหมดแล้ว ที่ว่าจะให้ลูก