“หายไปไหนมาทั้งคืนคะวิลเลียม คุณให้ซาร่านอนรอทั้งคืนแบบนี้ได้ยังไง!”
เสียงแหลมปี๊ดของนางแบบสาวดังขึ้นทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามาในห้อง ทำให้อารมณ์ดีๆของคนที่เพิ่งกลับมาถึงเมื่อครู่หายไปแทบจะทันที ไม่รู้ทำไมการไปนอนตักพัดลมในที่นอนแคบๆบนพื้นธรรมดากับอากาศร้อนอบอ้าวถึงมีความสุขกว่าตอนเยียบเข้ามาในห้องแอร์เย็นเฉียบและหรูหราแห่งนี้นัก
ชายหนุ่มเดินผ่านร่างบางของนางแบบสาวตรงเข้าไปในห้องนอน พลางปลดกระดุมเสื้อเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำโดยไม่สนใจแม้แต่จะเหลียวแลคนที่เดินตามมาหาเรื่อง
“ผมไม่ได้ใช้ให้คุณนอนรอนี่ แต่บอกไปแล้วว่าให้คุณกลับไปก่อนคุณไม่ยอมกลับไปเอง ทีนี้จะมาโวยวายใส่ผมทำไม”
“แต่ซาร่าอยากกลับพร้อมคุณ”
“งั้นก็รอไปก่อน เพราะผมจะอยู่ที่นี่อีกหนึ่งเดือน”
“หนึ่งเดือน!”
นางแบบสาวอุทานเสียงดังลั่น จ้องเรือนร่างกำยำกึ่งเปลือยของนักธุรกิจหนุ่มนิ่งอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ก็ไหนทีแรกเขาบอกแค่ว่าจะมางานสองสามวัน แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนใจอยู่ต่อเป็นเดือนได้ล่ะ และก็ดูเหมือนชายหนุ่มจะรู้ทันความคิดของเธอ เลยช่วยไขความกระจ่างให้
“ผมยังไม่เสร็จธุระที่เมืองไทย ถ้าคุณอยากกลับก็กลับไปก่อน”
วิลเลียมพูดพร้อมกับหมุนตัวตรงไปที่ห้องน้ำ แต่ก่อนจะเข้าไปก็หันมาบอกกับเธอเหมือนเพิ่งจะนึกอะไรขึ้นมาได้
“อ้อ…และผมก็อยากจะขอให้เราสองคนจบความสัมพันธ์กันเพียงเท่านี้ เพราะผมคิดว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ผมจะรักได้ลง”
“วิลเลียม!”
เสียงเหลมปี๊ดที่ดังขึ้น และเตรียมจะกรีดร้องดังๆอย่างที่เธอชอบทำเวลาที่ถูกขัดใจ ต้องชะงักเมื่อเสียงทุ้มเรียบเอ่ยดักคอไว้อย่างรู้ทัน
“หยุดแสดงพฤติกรรมต่ำๆได้แล้ว เพราะความอดทนของผมมีขีดจำกัด รีบเก็บของออกจากห้องไปก่อนที่ผมจะอาบน้ำเสร็จ ส่วนตั๋วเครื่องบินเลขาของผมจะจัดการให้คุณเอง”
พูดจบร่างสูงสง่าก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมกับปิดประตูตามหลังอย่างไม่สนใจใยดีคู่ควงคนล่าสุดและกำลังจะกลายเป็นอดีตอีกต่อไป
กรี๊ด!!!!
นางแบบสาวทำได้เพียงกรีดร้องในใจ พร้อมกับกำหมัดแน่นกระทืบเท้าแรงๆด้วยความเจ็บใจ ไม่คิดว่าผู้ชายที่เธอหมายปองจะครอบครองเขาไปทั้งชีวิตจะขอตัดสัมพันธ์และปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใยแบบนี้
แต่ไหนแต่ไรมีแต่ผู้ชายมาขายขนมจีบ เธอเป็นนางแบบฮ๊อตที่ใครๆต่างอยากจะควงด้วยทั้งนั้น และเธอก็คิดว่าจะเอาผู้ชายอย่างเขาอยู่หมัด เพราะคงไม่มีสาวๆคนไหนได้รับสิทธิพิเศษตามเขามาต่างประเทศนอกจากเธอ แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เธอจะคิดผิด เพราะระยะเวลาเพียงไม่ถึงเดือนเขาก็ขอตัดสัมพันธ์กับเธอเสียแล้ว แบบนี้เธอก็ไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆที่ผ่านมาของเขาสินะ
ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ แต่คนอย่างเธอมีศักดิ์ศรีพอที่จะไม่รอให้เขาทำร้ายจิตใจซ้ำๆแน่ เพราะคนสวยระดับเธอจะหาผู้ชายดีๆอีกกี่คนก็ได้
ซาร่าพาร่างระหงเดินไปที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเก็บข้าวของใส่กระเป๋าโดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็เดินกระแทกเท้าออกมาจากห้องนอน แต่ยังไม่ทันจะถึงประตูใหญ่เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
“มีอะไร”
นางแบบสาวเดินไปเปิดประตูพร้อมกับกระแทกเสียงถามอย่างไม่สบอารมณ์นัก นาทีนี้ไม่ว่าใครหน้าไหนก็เข้าหน้าเธอไม่ติดทั้งนั้น
“ฉันเป็นแม่บ้านค่ะ จะมาทำความสะอาดห้องพักห้องนี้”
เมลดาบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองแขกที่มาพัก แต่แล้วเธอก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อพบว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเป็นใคร ซึ่งแน่นอนว่าสำหรับซาร่าแล้วการเห็นหน้าของแม่บ้านคนดังกล่าวทำให้เธอหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
“นี่เธออีกแล้วเหรอ ยายแม่บ้านจอมซุ่มซ่าม”
“คุณซาร่าคะ คือฉันต้องขอโทษกับเรื่องเมื่อวานด้วยนะคะ ขอโทษจริงๆค่ะ”
เมื่อได้สติ เมลดาก็รีบยกมือไหว้ขอโทษเป็นการใหญ่ ส่งผลให้นางแบบสาวผู้เยื่อหยิ่งต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะบอกกับเธอเสียงเรียบ
“เข้าไปสิ จะทำความสะอาดไม่ใช่เหรอ”
“ขออนุญาตนะคะ”
เมื่อเจ้าของห้องอนุญาต เธอก็ไม่รอช้าที่จะเข็นอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้อง โดยที่ไม่รู้เลยสักนิดว่า ซาร่าเหยียดยิ้มร้ายๆตามหลังเธออย่างคนที่มีแผนการ
การทำความสะอาดเริ่มจะโต๊ะกระจกเตี้ยๆหน้าโซฟา ที่มีแก้วน้ำส้มและเอกสารวางอยู่ แต่ยังไม่ทันที่มือเล็กจะคว้าแก้วที่ยังมีน้ำส้มอยู่เกือบครึ่ง นางแบบสาวก็ฉวยแย่งไปเสียก่อน จากนั้นเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจ้าหล่อนราดน้ำส้มลงบนเอกสารจนหมดแล้วโยนแก้วลงบนพื้นแตกกระจายออกเป็นเสียงๆ
เมลดายืนมองการกระทำของอีกฝ่ายด้วยความอึ้ง ร่างบางยืนแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก ต่างจากนางแบบสาวที่คลี่ยิ้มร้ายๆที่มุมปากออกมาอย่างสะใจ เพราะการทำลายเอกสารสำคัญของวิลเลียมแล้วโยนความผิดให้กับแม่บ้านจอมซุ่มซ่ามนั้น คิดๆดูแล้วก็เป็นการเอาคืนที่ไม่เลว
“เกิดอะไรขึ้นซาร่า”
เสียงทุ้มของคนตัวใหญ่ที่เดินออกมาจากห้องนอน บนตัวมีเพียงผ้าขนหนูผืนใหญ่พันรอบเอวไว้หลวมๆอวดหุ่นล่ำให้สาวๆใจสั่นเล่น แต่แล้วก็ต้องชะงัก เมื่อพบหน้าคนที่กำลังก่อกวนจิตใจของเขาอยู่ตอนนี้
“คุณ!”
เมลดาเผลออุทานออกมา เพราะคาดไม่ถึงว่าจะได้พบกับเขาอีกครั้งที่นี่ เมื่อเช้าตอนที่เธอตื่นมาก็ไม่พบเขาเสียแล้ว ยังอดเสียดายไม่ได้ที่ไม่ได้บอกลา แต่แล้วความบังเอิญก็ทำให้มาพบเขาในนี้จนได้ ที่สำคัญเขาอยู่ห้องเดียวกับนางแบบสาว ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าทั้งสองรู้จักและสนิทสนมกันมากแค่ไหน สังเกตจากสภาพเปลือยท่อนบนและการเรียกชื่อกันอย่างสนิทสนมเมื่อกี้นี้
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะวิลเลียม ก็แค่แม่บ้านจอมซุ่มซ่ามทำน้ำส้มหกใส่เอกสารของคุณก็เท่านั้นเอง”
เมลดาต้องอึ้งซ้ำสอง เมื่อจู่ๆเธอก็ถูกใส่ความแบบหน้าด้านๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว
“ฉะ…ฉัน”
เมื่อตั้งสติได้ก็พยายามจะแก้ต่างให้ตัวเอง แต่นางแบบสาวตวัตสายตาจ้องมองเธอชนิดที่คนถูกมองถึงกับต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองโดยไม่รู้ตัว
“จะแก้ตัวว่าไม่ได้ทำอย่างนั้นเหรอ เมื่อวานก็ทีหนึ่งแล้ว ทำกระเป๋าของฉันตกน้ำจนต้องชดใช้ค่าเสียหายถึงสองแสนยังไม่เข็ดอีกหรือไง แล้วนี่ยังจะทำเอกสารของแขกเสียหายอีก นี่เธอรู้หรือเปล่าว่ามูลค่าเอกสารที่เธอทำน้ำส้มหกใส่มันกี่ล้าน… แล้วอาชีพแม่บ้านอย่างเธอจะชดใช้ไหวเหรอ”
“พอได้แล้วซาร่า ถอยไปห่างๆจากเธอ”
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวกำลังถูกนางแบบคุกคาม และต้อนไปทางเศษแก้วที่กระจายอยู่เต็มพื้น ทำให้วิลเลียมไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป ต้องรีบปรามด้วยน้ำเสียงเข้มห้วนและเดินไปขวางเธอทันที
“นี่คุณปกป้องอีนางแม่บ้านนี้เหรอคะวิลเลียม”
ซาร่าไม่พอใจหันมาตวาดถามดังลั่น ที่เขาเลือกปกป้องแม่บ้าน แทนที่จะเลือกเข้าข้างเธอ
“ผมปกป้องคนที่ไม่ทำอะไรผิดต่างหากล่ะ”
“แต่มันเป็นคนทำเอกสารของคุณเสียหายนะ เอกสารนั่นมันสำคัญกับคุณมากไม่ใช่เหรอ เพราะมันไม่ใช่แค่เอกสารธรรมดา แต่เป็นเอกสารสัญญาซื้อขายหุ้นร้อยล้านที่คุณเพิ่งจะเซ็นซื้อขายกัน เพราะฉะนั้นคุณควรไล่อีนางนี่ออกไปเดี๋ยวนี้!”
“เรื่องเอกสารไม่ต้องห่วง เพราะผมยังมีสำรองอีกเป็นสิบๆชุด และอีกอย่างผมไม่ใช่คนโง่ที่จะมองไม่ออกว่าไอ้เรื่องบ้าๆนี่มันเป็นฝีมือของใคร คนที่ควรจะถูกผมไล่ออกไปคือคุณ! ซาร่า”
วิลเลียมคำรามเสียงต่ำ เมื่อไม่สามารถอดทนกับนิสัยแย่ๆของเธอได้อีกต่อไป และยิ่งเธอใส่ร้ายคนบริสุทธิ์เขาก็ยิ่งไม่ชอบใจใหญ่
“วิลเลียม!”
“ไสหัวไปซาร่า อย่าให้ผมต้องหมดความอดทนเรียกรปภ.มาลากคุณไปเลย”
เสียงเรียบเย็น ทว่าทรงอำนาจนั้นแม้จะไม่ตวัดใส่หน้าแต่ก็ทำให้คนถูกไล่ออกไปหน้าชาไปทั้งแถบราวกับถูกตบอย่างแรง
“แล้วคุณจะเสียใจที่ทำแบบนี้กับฉัน”
ความผิดหวัง เสียใจ ก่อเกิดขึ้นในจิตใจของนางแบบสาวพอๆกับความคับแค้นใจที่เขาทำร้ายจิตใจเธออย่างแสนสาหัต มือเล็กฉวยเอากระเป๋าเดินทางใบใหญ่หมุนตัวก้าวเดินออกจากห้องหรู ไม่คิดแม้แต่จะหันกลับมามองอีก