ตอนที่ 9 มาหาหมอ

2005 คำ
เช้าวันต่อมา ชมพูแพรมาทำงานแต่เช้าตามปกติ หญิงสาวมีหน้าที่จัดเคลียร์เอกสารที่ได้รับเข้ามายังฝ่ายศูนย์วิจัยและแยกเป็นสัดส่วน เพื่อส่งต่อไปยังส่วนต่อไป ก่อนที่จะถูกนำส่งไปยังบุคคลตำแหน่งต่างๆ อีกหน้าที่คือนำเอกสารจากแผนกวิจัยส่งไปยังแผนกต่างๆ อาทิเช่น ตึกแพทยศาสตร์ ตึกการปกครอง ตึกอธิการบดี และอีกมากมาย หญิงสาวใช้เวลาปรับตัวอยู่พักใหญ่ กับการที่เธอต้องนั่งโต๊ะในช่วงเช้าและจำแนกเอกสารออกไปส่งในบริเวณมหาวิทยาลัย แต่ไม่นานก็เคยชินและสนุกกับมัน เพราะอย่างน้อย เธอก็ไม่ต้องนั่งเบื่ออยู่แต่ที่โต๊ะทำงาน “อ้าว น้ายุ้ย สวัสดีค่ะ” ชมพูแพรที่มาส่งเอกสารที่ตึกแพทยศาสตร์ได้เจอเพื่อนสนิทของมารดาก็ยกมือไหว้ทักทายด้วยความดีใจ “อ้าว ชมพู มาทำอะไรล่ะ” “ส่งเอกสารให้รองอธิการค่ะ” “งานเป็นยังไงบ้าง ปรับตัวได้หรือยัง” “ปรับตัวได้แล้วค่ะ” “ดีแล้ว ตอนที่น้าเห็นประกาศรับสมัครน้ารีบบอกแม่เราเลย จะได้ให้มาสมัครและมีเวลาอ่านหนังสือสอบเยอะหน่อย” “โชคดีที่สอบติดนะคะ แต่ได้แนวข้อสอบจากน้ายุ้ย เลยช่วยได้เยอะเลย ขอบคุณมากเลยค่ะ” “หลานน้าทั้งคน น้าก็อยากให้ทำงานดีๆ สิ เอาล่ะ น้าไปทำงานก่อนนะ” “ค่ะ สวัสดีค่ะ” “จ้ะ” หลังจากรอจนน้าสาวเดินหายลับไปจากสายตา หญิงสาวก็เดินออกมาจากตึกแพทยศาสตร์แล้วเดินกลับตึกรองอธิการบดีที่ตัวเองทำงานอยู่ “ไปปลูกผักเรอะ นานแท้” พศินทักหญิงสาวเมื่อเธอเดินกลับมาเพราะพวกใกล้เวลาพัก “เจอน้ายุ้ย เลยยืนคุยกันนิดหน่อย” “คุณเทวี เลขาอธิการบดีคณะแพทย์น่ะเหรอ” ปรางค์วลัยเองก็พอรู้จักเพราะเทวีมีตำแหน่งค่อนข้างสูง “อือ” “แกนี่โชคดีนะ ทั้งสอบติดในแผนกศูนย์วิจัย ทั้งมีน้าเป็นเลขาอธิการบดีคณะแพทย์อีก ไม่มีใครกล้ามาหาเรื่องแกแน่นอน” พศินพูดพลางยกนิ้ว “แหม แกทำอย่างกับเราจะไปมีเรื่องกับใครได้ วันๆ ก็อยู่แต่หน้าจอ” ชมพูแพรหัวเราะขำๆ อย่างไม่ได้คิดอะไร “มันก็ไม่แน่นะแก ข้อหาหมั่นไส้มีเยอะแยะ” หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ กับสิ่งที่พศินคิด ก่อนจะมองไปที่นาฬิกาที่ห้องอยู่ริมผนัง เมื่อเห็นว่าได้เวลาพักจึงพยักหน้าชวนปรางค์วลัยเดินออกจากห้องทำงานไป “แล้วนี่แกจะกลับเลยไหม” ปรางค์วลัยถามชมพูแพรขณะที่เธอกำลังหยิบกระเป๋าขึ้นสะพาย “ว่าจะ แต่เดี๋ยวโทรบอกพี่หนึ่งก่อน เขาสั่งเอาไว้” “แหม เชื่อฟังดีจัง” “ไม่ฟังได้ไง รู้ไหมว่าโลกกลมแค่ไหน คุณแม่ของพี่หนึ่งคือคนที่ตั้งชื่อชมพูแพรให้ฉันนี่แหละ” ชมพูแพรบอกเพื่อนทั้งสองคนที่มายืมรอเธอหน้าโต๊ะทำงาน “หา.....” “อือ กลมมาก คุณแม่พี่หนึ่งเป็นเพื่อนคุณแม่ของฉัน จากที่ฟังคุณพ่อชวนเขาคุยเมื่อวาน เหมือนว่าเขาจะเคยมาที่บ้านฉันตอนเด็กๆ ด้วย” “ก็กลมเกิ๊น” พศินเสียงสูงด้วยความตกใจ “แล้วพวกแกคิดว่าฉันจะดื้อกับเขาได้ไหมล่ะ” “ไม่น่าได้” ปรางค์วลัยพูดพลางยิ้มหวานให้ชมพูแพร “ตามนั้นเลย” หญิงสาวปิดคอมพิวเตอร์และจัดเก็บของบนโต๊ะเข้าที่ ก่อนจะคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วทั้งสามคนก็พากันเดินออกจากห้องทำงานไป ‘เลิกงานแล้วค่ะ’ “รีบกลับไหม มาหาพี่ที่โรงพยาบาลสิ จะได้กลับพร้อมกัน” ‘.....ค่ะ ให้ขึ้นไปบนห้องทำงานเลยใช่ไหมคะ’ “จ้ะ” ชมพูแพรวางสายแล้วก็เดินออกมาด้านหน้าของมหาวิทยาลัยที่เธอทำงานอยู่ เดินไปเรื่อยๆ เพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า ไปลงยังสถานีใกล้ๆ กับโรงพยาบาล แวะซื้อขนม ก่อนจะเดินเข้าไปด้านใน หญิงสาวกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้นห้องทำงานของชยกร เมื่อออกมาจากลิฟต์ก็เดินตรงเข้าไปยังห้องทำงานเขาโดยไม่ลืมเอาขนมแวะให้กับพนักงานที่เธอเจอคราวก่อนทั้ง 4 คน “มาแล้วค่ะ” “หืม วันนี้แต่งตัวน่ารักจัง” ชายหนุ่มทักชมพูแพรด้วยความแปลกใจ ชยกรไม่เคยเห็นชมพูแพรในชุดทำงาน วันนี้หญิงสาวใส่เสื้อคอบัวแขนตุ๊กตาสีขาว กับกระโปรงจีบรอบสีชมพูยาวคลุมเข่า รองเท้าคัทชูส้นสูงนิ้วครึ่ง ถักเปียคาดผมแล้วเก็บปลาย ดูหวานน่ามอง “ชุดปกติเวลาไปทำงานค่ะ กินขนมไหมคะ” “กินเลยจ้ะ” ชมพูแพรเดินไปนั่งลงที่โซฟาแล้วก็กินขนมโดยไม่ได้ชวนเขาคุยอีก เมื่อเห็นเขาก้มหน้าทำงานต่อ ชายหนุ่มนั่งทำงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มมืด หลังจากปิดคอมพิวเตอร์เสร็จเรียบร้อยก็ลุกขึ้นบิดกายไล่ความเมื่อยล้า “ไปเถอะ ไปหาอะไรกินกัน แล้วค่อยกลับบ้าน” “เสร็จแล้วเหรอคะ” “จ้ะ” หญิงสาวคว้ากระเป๋าขึ้นสะพายบนบ่าแล้วก็หยิบถุงขนมเดินตามหลังเขาออกไปจากห้องทำงาน เมื่อกลับมาถึงที่คอนโด หญิงสาวก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวนอนเลย เพราะกินมื้อเย็นมาเรียบร้อยแล้ว วันนี้ชยกรขอทำงานก่อนแล้วถึงจะมาอยู่ด้วย ชมพูแพรไม่ได้ว่าอะไร เพราะปกติเธอก็อยู่คนเดียวจนเคยชินอยู่แล้ว หญิงสาวนอนเล่นจนเผลอหลับไป โดยไม่รู้ว่าชายหนุ่มเข้ามานอนเคียงข้างเธอตอนไหนก็ไม่รู้ รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของเขาแล้ว หลายวันต่อมา “หือ วันนี้ทำไมมาเร็ว” พศินทักชมพูแพร เมื่อมาถึงหน้าตึกที่ทำงานแล้วเห็นหญิงสาวนั่งอยู่ “ขับรถมาอะสิ” “หะ!!!” “พี่หนึ่งให้ขับรถมา แล้ววันนี้ไปรับเขาที่โรงพยาบาล” ชมพูแพรอธิบายให้เพื่อนฟังระหว่างที่กำลังกัดขนมเข้าปาก “เอ่อ วันนี้วันศุกร์นี่เนอะ” มือใหญ่เกาศีรษะด้วยความมึนงง “อือ คงจะไปที่ผับนั่นแหละ ทุกวันศุกร์คนเยอะ เลยจะให้ฉันขับให้ล่ะมั้ง” “เราก็ไปด้วยสิ” “ฉันไม่ดื่มนะยะ เป็นรอบเดือน” ชมพูแพรบอกพลางลูบท้องป้อยๆ เวลาที่เธอเป็นรอบเดือนจะปวดท้องค่อนข้างมาก ตั้งใจว่าถ้าเป็นหนักๆ ก็จะไปตรวจภายใน แต่มันก็ยังไม่ถึงขนาดนั้นเลยอดทนรอไปก่อน “แล้วขับรถไหวเหรอแก” “อือ ไหวอยู่” “แหม ฉันก็ลืมไป มีผัวเป็นหมอนี่เนอะ” “คนละอย่างไหมยะ พี่หนึ่งเป็นหมอปอด ถ้าฉันหาหมอก็ต้องไปหาหมอสูติ” “หมอเหมือนกันแหละน่า” “ยัยบ้า ไปๆ ขึ้นข้างบนดีกว่า สงสัยวันนี้ยัยปลาการ์ตูนจะสายอีกแล้ว” “ฉันก็ว่างั้น” ชมพูแพรลุกขึ้นจากม้านั่ง แล้วเดินไปรอลิฟต์กับพศิน ทั้งสองคนเดินคุยกันไปตลอดทางตามประสาเพื่อนสาวแท้และไม่แท้ “ยังไง พินนี่ จะไปไหม” “ไปสิยะ แม่ปลาการ์ตูน ไปไหม” “ไป” “ชุดทำงานเนี่ยนะ” ชมพูแพรก้มลงมองชุดแล้วถามเพื่อนเสียงหลง “เป็นไร ไปดื่ม ไม่ได้ไปแดนซ์” ปรางค์วลัยพูดพลางยักไหล่ “เอ้า ว่าไงว่ากัน ไป” ชมพูแพรเดินนำทุกคนไปยังที่จอดรถที่เธอเคยจ่ายค่าเช่ารายปีเอาไว้ แต่ไม่ได้เอารถมา วันนี้วันแรกเลยตั้งแต่ที่เธอจ่ายเอาไว้ แล้วได้ใช้ประโยชน์ “พวกแกรอข้างล่างนะ” “เออ ไปเถอะ” ปรางค์วลัยโบกมือไล่เพื่อนแล้วลากพศินไปหาที่นั่ง ชมพูแพรส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินไปที่ลิฟต์ ไม่นานก็หายเข้าไป พร้อมกับที่ลิฟต์ตัวข้างๆ เปิดออก แคทริยา หมอสาวคนที่ทักทายชยกรเมื่อครั้งก่อนที่ชมพูแพรมาเดินออกมาจากข้างใน “เช็กตารางคุณหมอหนึ่งให้หมอหน่อยได้ไหมคะ ว่าวันนี้มีเวรไหม” “สักครู่นะคะ” พนักงานด้านหน้าเช็กตารางเวรหมออยู่สักพักก็บอกคำตอบกับคุณหมอสาว หล่อนบอกขอบคุณแล้วเดินไปหาเพื่อนหมอคนอื่นที่ยืนซื้อของอยู่ที่ร้านโดนัท ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พศินกับปรางค์วลัยยืนเลือกขนมอยู่พอดี “อ้าว หมอแคท ลงเวรแล้วเหรอ” “ใช่ วันนี้หมอหนึ่งไม่มีเวรบ่าย ว่าจะขออาศัยรถกลับด้วย” “หมอแคทเอารถมาไม่ใช่เหรอ” “ก็ว่าจะบอกว่ารถสตาร์ทไม่ติด” “เออ ได้ข่าวว่าหมอหนึ่งพาแฟนมาโรงพยาบาลเหรอ จริงหรือเปล่า” “ลองเข้าไปถามแล้วล่ะ หมอหนึ่งบอกว่าแฟน แต่ก็แล้วไง ในเมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกัน ไม่ได้ทำงานด้วยกัน เรามีโอกาสมากกว่า” แคทริยาบอกอย่างไม่ยอมแพ้ หล่อนตามกันท่าบรรดาหมอ บรรดาพยาบาลในโรงพยาบาลนี้มาตั้งนาน เรื่องอะไรจะปล่อยให้โดนชุบมือเปิบ “ฉันไม่ขอออกความเห็นก็แล้วกันนะ” หมอสาวอีกคนพูดเบาๆ แล้วเดินไปจ่ายเงิน ก่อนจะบอกลาแคทริยาแล้วเดินออกไป แคทริยากลับไปที่ลิฟต์ ตั้งใจว่าจะขึ้นไปหาเขาที่ห้องทำงาน เพื่อไปชวนคุยและขอติดรถไปด้วย ถึงจะยังแยกเขากับแฟนออกจากกันไม่สำเร็จ แต่ก็ทำให้มีข่าวลือก็ยังดี ทางด้านพศินกับปรางค์วลัย ทั้งคู่ไปสอบถามพนักงานก่อนจะส่งข้อความบอกชมพูแพรถึงสิ่งที่พวกเธอได้ยินกับข่าวลือที่ได้รู้มา ชมพูแพรที่นั่งรอชยกรเปลี่ยนเสื้ออยู่ได้อ่านข้อความที่เพื่อนส่งมาก็ยิ้ม เธอรู้ข่าวอยู่แล้ว ชยกรเป็นคนบอกเธอเอง แต่เธอก็ไม่ได้คิดว่าแคทริยาจะพยายามมากขนาดนี้ “พี่หนึ่ง เดี๋ยวจะมีคนมาหานะคะ” “ใคร พี่ไม่ได้นัดใครเอาไว้นี่” “คุณหมอสาวสวยค่ะ” “.....อีกแล้วเหรอ” ชายหนุ่มพูดพลางทำหน้าตาเบื่อหน่าย หลังจากเขาเปลี่ยนเสื้อเชิ้ตและออกมาด้านนอกห้องนอน ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ชมพูแพรบอกเขาพอดี ชายหนุ่มมีอาการเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด “สงสัยวันนี้เราจะได้กลับด้วยกันอีกแล้วล่ะค่ะ พินนี่บอกว่าหมอแคทจะขอติดรถกลับด้วย” ชมพูแพรหัวเราะเบาๆ อย่างไม่คิดมาก “เห็นจะเป็นอย่างนั้น” ระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับที่บานประตูถูกผลักเข้ามา ร่างของคุณหมอสาวก้าวเข้ามาด้านในทั้งที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง หล่อนชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าชมพูแพรนั่งอยู่ด้วย “พอดีแคทจะมาขอติดรถไปด้วยค่ะ รถแคทสตาร์ทไม่ติด” แคทริยาพูดตามที่เพื่อนส่งข้อความมาบอกชมพูแพรเป๊ะ “เห็นทีจะไม่สะดวกนะครับ วันนี้เพื่อนของชมพูมาด้วย เราจะออกไปข้างนอกกัน” ชยกรปฏิเสธด้วยความสุภาพ “งั้นเหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวแคทนั่งแท็กซี่กลับก็ได้ พอดีเห็นว่าเป็นทางผ่านหมอหนึ่งน่ะค่ะ แคทเลยว่าจะติดไปลง” ชยกรไม่ตอบอะไร เขาทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ ให้แคทริยา ด้วยรู้ดีว่าหล่อนตั้งใจพูดให้เขารู้สึกผิด “งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ พอดีต้องไปที่อื่นกันต่อ” “ค่ะ เชิญค่ะ” แคทริยารอจนชยกรกับชมพูแพรเดินออกจากห้อง หล่อนถึงเดินตามหลังออกมา ดวงตาโฉบเฉี่ยวมองตามทั้งสองคนด้วยแววตาอิจฉาจนทั้งสองคนหายลับไปจากสายตา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม